กรรมของลูกค้า! "เอไอเอส" ออกลูกนักเลง ไม่ให้ทีโอที โรมมิ่งโครงข่ายใช้บริการด้านเสียง หลังอกหักไม่สามารถให้บริการโรมมิ่ง ดาต้า 3G ได้ในวันที่ 1 ก.พ.ที่จะถึงนี้ โดยบอร์ดทีโอทีมีมติให้หารือกทช.ก่อนว่าทำได้หรือไม่ รวมทั้งต้องการให้ MVNO 5 รายไปรอดก่อน
นายธีรวุฒิ บุณยโสภณ ประธานบอร์ดบริษัท ทีโอที กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ดวานนี้( 29 ม.ค.) ว่ากรณีบริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส ยื่นหนังสือขอใช้โครงข่ายเพื่อสื่อสารข้อมูล(โรมมิ่งดาต้า) 3Gกับทีโอที โดยจะเปิดให้ลูกค้าเอไอเอสโรมมิ่งวันที่ 1 ก.พ.นี้ ที่ประชุมบอร์ดมีมติว่ายังไม่มีการตอบรับหรือปฏิเสธการโรมมิ่งดังกล่าว เนื่องจากต้องทำหนังสือหารือกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) ก่อนว่าสามารถทำได้หรือไม่ ตามที่กทช.ทักท้วงไว้ ประกอบกับทีโอทีต้องการตรวจสอบโดยละเอียดก่อนว่าโครงข่าย 3Gของทีโอทีสามารถรองรับการใช้งานได้เพียงพอหรือไม่ หากให้ผู้ประกอบการอื่นนอกเหนือจากผู้เช่าโครงข่ายร่วมทำการตลาด( MVNO) มาโรมมิ่งดาต้า
ทั้งนี้กรรมการบอร์ดมีความเห็น สมควรจะให้ MVNO สามารถตั้งไข่ให้ได้เสียก่อน โดยการปล่อยให้ดำเนินงานตามแผนการตลาด 3Gที่วางไว้อย่างน้อย4- 6 เดือน หากผ่านไปครบ 6 เดือนซึ่งครบกำหนดที่ทีโอทีต้องประเมินผลการดำเนินงานตามสัญญา หากMVNO ไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายแผนธุรกิจที่ยื่นให้ทีโอทีและไม่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการได้ ทีโอทีอาจพิจารณาถอดจากการเป็น MVNO ทีโอที 3G แล้วพิจารณาให้เอไอเอส หรือรายอื่นๆเข้ามาดำเนินธุรกิจแทน
“เอไอเอสพูดเรื่องนี้เร็วไปนิด ถ้าปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนอย่างเป็นทางการ เรื่องนี้น่าจะจบได้เร็วกว่านี้”
ทั้งนี้เป็นเพราะโครงข่าย 3Gของทีโอทีที่ให้บริการเป็นโครงข่ายเดิมของกิจการร่วมค้าไทยโมบายที่ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือระบบ 1900 เมกะเฮิร์ตซ ที่สร้างไว้ตั้งแต่ปี 2547 จึงสามารถรองรับการใช้งานการรับ-ส่งข้อมูลได้เพียง 400 เมกะบิต ซึ่งลูกค้า 3Gของทีโอทีและ MVNO ปัจจุบันใช้งานอยู่แล้วที่ 165 เมกะบิตในขณะที่ขณะที่เอไอเอสทำหนังสือขอโรมมิ่งใช้การรับ-ส่งข้อมูลสูงถึง 375 เมกะบิต สำหรับกรณีที่เอไอเอสเสนอเข้าร่วมลงทุนโครงข่าย 3Gกับทีโอทีทั่วประเทศ นั้นยอมรับเป็นความคิดที่ดี ซึ่งทีโอทีจะเก็บไว้พิจารณาแต่ยังไม่สามารถให้คำตอบได้
นายธีรวุฒิกล่าวว่าเบื้องต้นทีโอทีจะเดินหน้าลงทุนโครงข่าย 3G ตามหัวเมืองใหญ่อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น หนองคาย และพัทยา ไปก่อนโดยการลงทุนจะใช้เงินลงทุนของทีโอที ส่วนความคืบหน้าผู้ใช้บริการในระบบ 3G ของทีโอทีรวมทั้ง MVNO ทั้ง 5 รายมีจำนวน 215,000 เลขหมายแล้ว ซึ่งหลังจากเปิดบริการเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2552 พบว่า ยังมีบางพื้นที่ที่สัญญาณ 3Gไม่หนาแน่ ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งขยายโครงข่ายเพื่อทำให้สัญญาณหนาแน่น อาทิ ทำเนียบรัฐบาลและศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ
ด้านร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.ไอซีทีกล่าวถึงความคืบหน้าการลงทุนขยายโครงข่าย 3G ทั่วประเทศของทีโอที ว่าขณะนี้ทีโอทีทำแผนธุรกิจการให้บริการ 3Gเสร็จแล้ว โดยจะนำเรื่องเข้ามาชี้แจงไอซีทีในเดือน ก.พ.นี้ หลังจากนั้นจะส่งเรื่องให้สภาพัฒน์ฯพิจารณาก่อนนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไปโดยคาดว่าจะส่งเรื่องเข้าครม.ได้ต้นเดือนมี.ค. 2553
เอไอเอสไม่ให้ทีโอทีโรมมิ่ง
นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร เอไอเอส กล่าวว่าตามที่บอร์ดทีโอที มีมติให้นำเรื่องดังกล่าวไปสอบถามกทช.ก่อนนั้นหมายความว่า ทีโอทีได้ยอมรับในบทบาทและอำนาจหน้าที่ของ กทช. และหากผลการพิจารณาของ กทช. ออกมาอย่างไรก็พร้อมปฏิบัติตาม
แต่ที่ผ่านมา ทีโอทีได้ขอให้เอไอเอสโรมมิ่งเพื่อให้บริการลูกค้ากว่า 500,000 เลขหมาย ซึ่งไม่เคยมีการหารือขอความเห็นชอบจากกทช. ก่อน ทุกอย่างสามารถเปิดให้บริการแก่ลูกค้าผู้ใช้บริการของทีโอทีได้ตามปกตินั่นหมายความว่าการบริการครั้งนั้นสามารถเอื้อประโยชน์ให้กับลูกค้าผู้ใช้บริการได้อย่างสมบูรณ์
แต่หากการขอบริการโรมมิ่งกับเอไอเอสในครั้งนั้นเกิดข้อติดขัด หรือมีการยกเลิกให้บริการโรมมิ่งลูกค้าจำนวน 500,000 เลขหมายก็จะมีปัญหาในการใช้งานนอกพื้นที่ครอบคลุม 3G ของทีโอทีเช่นเดียวกับการขอบริการโรมมิ่งของเอไอเอสกับทีโอทีในครั้งนี้หากเกิดข้อติดขัด ก็จะทำให้เกิดผลเสียต่อลูกค้าที่ไม่สามารถได้รับบริการที่ดี รวมถึงการดำเนินงานของ MVNOก็จะได้รับผลกระทบ เพราะไม่สามารถดำเนินการขายซิมได้อย่างเต็มที่
“จากมติคณะกรรมการทีโอทีดังกล่าวทำให้เอไอเอสมีความจำเป็นจะต้องหยุดการให้บริการโรมมิ่งกับทีโอทีตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.นี้เพื่อรอการพิจารณาของ กทช.ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเอไอเอสก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม” นายวิเชียรกล่าว
นายธีรวุฒิ บุณยโสภณ ประธานบอร์ดบริษัท ทีโอที กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ดวานนี้( 29 ม.ค.) ว่ากรณีบริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส ยื่นหนังสือขอใช้โครงข่ายเพื่อสื่อสารข้อมูล(โรมมิ่งดาต้า) 3Gกับทีโอที โดยจะเปิดให้ลูกค้าเอไอเอสโรมมิ่งวันที่ 1 ก.พ.นี้ ที่ประชุมบอร์ดมีมติว่ายังไม่มีการตอบรับหรือปฏิเสธการโรมมิ่งดังกล่าว เนื่องจากต้องทำหนังสือหารือกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) ก่อนว่าสามารถทำได้หรือไม่ ตามที่กทช.ทักท้วงไว้ ประกอบกับทีโอทีต้องการตรวจสอบโดยละเอียดก่อนว่าโครงข่าย 3Gของทีโอทีสามารถรองรับการใช้งานได้เพียงพอหรือไม่ หากให้ผู้ประกอบการอื่นนอกเหนือจากผู้เช่าโครงข่ายร่วมทำการตลาด( MVNO) มาโรมมิ่งดาต้า
ทั้งนี้กรรมการบอร์ดมีความเห็น สมควรจะให้ MVNO สามารถตั้งไข่ให้ได้เสียก่อน โดยการปล่อยให้ดำเนินงานตามแผนการตลาด 3Gที่วางไว้อย่างน้อย4- 6 เดือน หากผ่านไปครบ 6 เดือนซึ่งครบกำหนดที่ทีโอทีต้องประเมินผลการดำเนินงานตามสัญญา หากMVNO ไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายแผนธุรกิจที่ยื่นให้ทีโอทีและไม่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการได้ ทีโอทีอาจพิจารณาถอดจากการเป็น MVNO ทีโอที 3G แล้วพิจารณาให้เอไอเอส หรือรายอื่นๆเข้ามาดำเนินธุรกิจแทน
“เอไอเอสพูดเรื่องนี้เร็วไปนิด ถ้าปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนอย่างเป็นทางการ เรื่องนี้น่าจะจบได้เร็วกว่านี้”
ทั้งนี้เป็นเพราะโครงข่าย 3Gของทีโอทีที่ให้บริการเป็นโครงข่ายเดิมของกิจการร่วมค้าไทยโมบายที่ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือระบบ 1900 เมกะเฮิร์ตซ ที่สร้างไว้ตั้งแต่ปี 2547 จึงสามารถรองรับการใช้งานการรับ-ส่งข้อมูลได้เพียง 400 เมกะบิต ซึ่งลูกค้า 3Gของทีโอทีและ MVNO ปัจจุบันใช้งานอยู่แล้วที่ 165 เมกะบิตในขณะที่ขณะที่เอไอเอสทำหนังสือขอโรมมิ่งใช้การรับ-ส่งข้อมูลสูงถึง 375 เมกะบิต สำหรับกรณีที่เอไอเอสเสนอเข้าร่วมลงทุนโครงข่าย 3Gกับทีโอทีทั่วประเทศ นั้นยอมรับเป็นความคิดที่ดี ซึ่งทีโอทีจะเก็บไว้พิจารณาแต่ยังไม่สามารถให้คำตอบได้
นายธีรวุฒิกล่าวว่าเบื้องต้นทีโอทีจะเดินหน้าลงทุนโครงข่าย 3G ตามหัวเมืองใหญ่อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น หนองคาย และพัทยา ไปก่อนโดยการลงทุนจะใช้เงินลงทุนของทีโอที ส่วนความคืบหน้าผู้ใช้บริการในระบบ 3G ของทีโอทีรวมทั้ง MVNO ทั้ง 5 รายมีจำนวน 215,000 เลขหมายแล้ว ซึ่งหลังจากเปิดบริการเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2552 พบว่า ยังมีบางพื้นที่ที่สัญญาณ 3Gไม่หนาแน่ ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งขยายโครงข่ายเพื่อทำให้สัญญาณหนาแน่น อาทิ ทำเนียบรัฐบาลและศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ
ด้านร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.ไอซีทีกล่าวถึงความคืบหน้าการลงทุนขยายโครงข่าย 3G ทั่วประเทศของทีโอที ว่าขณะนี้ทีโอทีทำแผนธุรกิจการให้บริการ 3Gเสร็จแล้ว โดยจะนำเรื่องเข้ามาชี้แจงไอซีทีในเดือน ก.พ.นี้ หลังจากนั้นจะส่งเรื่องให้สภาพัฒน์ฯพิจารณาก่อนนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไปโดยคาดว่าจะส่งเรื่องเข้าครม.ได้ต้นเดือนมี.ค. 2553
เอไอเอสไม่ให้ทีโอทีโรมมิ่ง
นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร เอไอเอส กล่าวว่าตามที่บอร์ดทีโอที มีมติให้นำเรื่องดังกล่าวไปสอบถามกทช.ก่อนนั้นหมายความว่า ทีโอทีได้ยอมรับในบทบาทและอำนาจหน้าที่ของ กทช. และหากผลการพิจารณาของ กทช. ออกมาอย่างไรก็พร้อมปฏิบัติตาม
แต่ที่ผ่านมา ทีโอทีได้ขอให้เอไอเอสโรมมิ่งเพื่อให้บริการลูกค้ากว่า 500,000 เลขหมาย ซึ่งไม่เคยมีการหารือขอความเห็นชอบจากกทช. ก่อน ทุกอย่างสามารถเปิดให้บริการแก่ลูกค้าผู้ใช้บริการของทีโอทีได้ตามปกตินั่นหมายความว่าการบริการครั้งนั้นสามารถเอื้อประโยชน์ให้กับลูกค้าผู้ใช้บริการได้อย่างสมบูรณ์
แต่หากการขอบริการโรมมิ่งกับเอไอเอสในครั้งนั้นเกิดข้อติดขัด หรือมีการยกเลิกให้บริการโรมมิ่งลูกค้าจำนวน 500,000 เลขหมายก็จะมีปัญหาในการใช้งานนอกพื้นที่ครอบคลุม 3G ของทีโอทีเช่นเดียวกับการขอบริการโรมมิ่งของเอไอเอสกับทีโอทีในครั้งนี้หากเกิดข้อติดขัด ก็จะทำให้เกิดผลเสียต่อลูกค้าที่ไม่สามารถได้รับบริการที่ดี รวมถึงการดำเนินงานของ MVNOก็จะได้รับผลกระทบ เพราะไม่สามารถดำเนินการขายซิมได้อย่างเต็มที่
“จากมติคณะกรรมการทีโอทีดังกล่าวทำให้เอไอเอสมีความจำเป็นจะต้องหยุดการให้บริการโรมมิ่งกับทีโอทีตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.นี้เพื่อรอการพิจารณาของ กทช.ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเอไอเอสก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม” นายวิเชียรกล่าว