นายกฯ เร่งรัดคณะ กก.4 ฝ่าย สรุปข้อมูล "มาบตาพุด" เพื่อเสนอ ครม.อังคารหน้า ระบุ หากแก้ไขปัญหาสำเร็จ โดยการพัฒนาที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมได้ ถือเป็นการพลิกโฉมภาคอุตสาหกรรมไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทางไปร่วมประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก โดยระบุว่า ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน เป็นส่วนหนึ่งที่จะเร่งให้การแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนประสบความสำเร็จ แม้เป้าหมายอาจต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน
ทั้งนี้ ประเทศพัฒนาแล้วควรตระหนักถึงภาวะโลกร้อนให้มากกว่าที่เป็นอยู่ มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา และต้องตั้งกองทุน รวมถึงให้การสนับสนุนด้านเทคนิคกับประเทศที่กำลังพัฒนา ซึ่งถือเป็นเรื่องจำเป็น อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า อาเซียนมีความตั้งใจจริงที่จะลดภาวะโลกร้อน
ส่วนปัญหานิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการ 4 ฝ่ายได้เร่งแก้ไขปัญหา แต่ตนได้เร่งรัดไปว่า ในสิ้นสัปดาห์นี้ข้อมูลควรพร้อมที่จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กังวลว่า หากแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่เป็นปัญหาอยู่อย่างมาบตาพุดไม่ได้ พื้นที่อื่นๆ ก็เป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขปัญหา
อย่างไรก็ตาม หากการแก้ไขปัญหามาบตาพุดสามารถพัฒนาควบคู่ไปกับการไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมได้ ก็จะเป็นการพลิกโฉมอุตสาหกรรมในประเทศไทย