ไทยเบฟฯ สยายปีกอาณาจักรน้ำเมา เสริมพอร์ตโฟลิโอกลุ่มเหล้า ปั้น”เมอริเดียน”ลุยตลาดบรั่นดี 4,500ล้านบาท คิกออฟปลายปีส่งสินค้าบุกทุกช่องทางรับไฮซีซันน้ำเมา คลอด 2 ขนาด อัดขวด 35 ซีแอลรับกำลังซื้อภูธร ชูความแข็งแกร่งการกระจายสินค้า ท้ารบบัลลังก์รีเจนซี่ หวังตอดแชร์ผู้นำตลาด
แหล่งข่าวจากบริษัทยูไนเต็ดไวน์เนอรี่ แอนดิสทริลเลอรี่ จำกัด หรือโรงงานผลิตสุราในเครือของบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทไทยเบฟเวอเรจ เตรียมเปิดตัวบรั่นดีภายใต้แบรนด์”เมอริเดียน” (Meridian) ซึ่งขณะนี้ได้ให้โรงงานยูไนเต็ดไวน์เนอรี่เปิดสายการผลิต และเตรียมนำออกจำหน่ายในปลายเดือนธันวาคม 2552 โดยจะเข้าสู่ร้านสะดวกซื้อเป็นอันดับแรกนำร่องที่เซเว่น อีเลฟเว่น จากนั้นทยอยกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกช่องทาง ทั้งนี้การเปิดตัวในช่วงปลาย เพื่อรับเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปลายปีและต้อนรับปีใหม่ ซึ่งเป็นฤดูกาลจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สำหรับเมอริเดียนนับว่าเป็นบรั่นดีตัวแรกของบริษัทไทยเบฟฯ และเป็นผู้ประกอบการรายที่ 3 ในตลาดบรั่นดีมูลค่า 4,500 ล้านบาท หรือคิดในเชิงปริมาณ 1.3ล้านลัง ซึ่งในตลาดบรั่นดี รีเจนซี่ครองตลาดแบบเสร็จมีส่วนแบ่ง 85% แม้ว่ารายที่ 2 คือ คาร์วาเรีย ที่เพิ่งออกสู่ตลาดเมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อน แต่ก็ไม่สามารถช่วงชิงส่วนแบ่งจากผู้นำตลาดได้เพราะรีเจนซี่เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์ให้เป็นแบรนด์แห่งชาติ ผ่านการสื่อสารการตลาดในเชิงภาพลักษณ์องค์กร ทำให้การรับรู้ของแบรนด์ของกลุ่มลูกค้าค่อนข้างสูง
ทั้งนี้ความโดดเด่นของเมอริเดียน เป็นบรั่นดีเกรด V.S.O.P (very Special Old Pale) ที่ผลิตโดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ทั้ง องุ่นและผลไม้ชนิดอื่นมาหมัก จากนั้นจึงนำมากลั่น และบ่มในถังไม้โอ้ค ไม่น้อยกว่า 4 ปี มีปริมาณแอลกอฮอลล์ 38 ดีกรี มีด้วยกัน 2 ขนาด คือ 35ซีแอล เพื่อรองรับกับกำลังซื้อต่างตลาดจังหวัด ส่วนขนาด 70ซีแอล จำหน่ายในราคา450 บาท ใกล้เคียงกับรีเจนซี่จากในช่วงเดือนพฤษภาคม บรั่นดีเป็นเหล้าอีกหนึ่งตัวที่ได้ปรับขึ้นภาษีจาก 45% เป็น 48%
การรุกตลาดบรั่นดีในครั้งนี้ของไทยเบฟฯ เพราะมีมูลค่าตลาดรวมสูงมาก ช่วงหลายปีที่ผ่านตลาดมีการเติบโตเฉลี่ 5-10% และที่ผ่านมามีบริษัทที่เป็นเจ้าตลาดเพียงตลาดเดียวคือ รีเจนซี่ ที่ครองตลาดมาอย่างยาวนาน อีกทั้งด้วยฐานผู้ดื่มบรั่นดีค่อนข้างกว้างลงลึกถึงตลาดต่างจังหวัด บริษัทจึงเห็นโอกาสทางการตลาดอย่างไรก็ตามจากการกระจายสินค้าที่มีความแข็งแกร่งของไทยเบฟฯ จะผลักดันให้บรั่นดีเมอริเดียนช่วงชิงส่วนแบ่งผู้นำตลาดได้
แหล่งข่าวจากบริษัทยูไนเต็ดไวน์เนอรี่ กล่าวว่า การเปิดตัวบรั่นดีเมอริเดียนผลักดันให้บริษัทไทยเบฟฯ มีเหล้าครอบคลุมและเสริมพอร์ตโฟลิโอกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันสุราชนิดต่างๆ ในเครือมีทั้งหมด 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มเหล้าสี ได้แก่ แสงโสม มังกรทอง แม่โขง 2.กลุ่มเหล้าขาว ยี่ห้อนิยมไทย รวงทอง 3.กลุ่มเหล้าสมุนไพรยี่ห้อเสือดำ และ4.กลุ่มสก็อตซ์วิสกี้ อาทิ คราวน์ 99 , บลู อีเกิ้ล ,เบลนด์ 285 และล่าสุด คือ กลุ่มที่ 5 ตลาดบรั่นดี
แหล่งข่าวจากบริษัทยูไนเต็ดไวน์เนอรี่ แอนดิสทริลเลอรี่ จำกัด หรือโรงงานผลิตสุราในเครือของบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทไทยเบฟเวอเรจ เตรียมเปิดตัวบรั่นดีภายใต้แบรนด์”เมอริเดียน” (Meridian) ซึ่งขณะนี้ได้ให้โรงงานยูไนเต็ดไวน์เนอรี่เปิดสายการผลิต และเตรียมนำออกจำหน่ายในปลายเดือนธันวาคม 2552 โดยจะเข้าสู่ร้านสะดวกซื้อเป็นอันดับแรกนำร่องที่เซเว่น อีเลฟเว่น จากนั้นทยอยกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกช่องทาง ทั้งนี้การเปิดตัวในช่วงปลาย เพื่อรับเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปลายปีและต้อนรับปีใหม่ ซึ่งเป็นฤดูกาลจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สำหรับเมอริเดียนนับว่าเป็นบรั่นดีตัวแรกของบริษัทไทยเบฟฯ และเป็นผู้ประกอบการรายที่ 3 ในตลาดบรั่นดีมูลค่า 4,500 ล้านบาท หรือคิดในเชิงปริมาณ 1.3ล้านลัง ซึ่งในตลาดบรั่นดี รีเจนซี่ครองตลาดแบบเสร็จมีส่วนแบ่ง 85% แม้ว่ารายที่ 2 คือ คาร์วาเรีย ที่เพิ่งออกสู่ตลาดเมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อน แต่ก็ไม่สามารถช่วงชิงส่วนแบ่งจากผู้นำตลาดได้เพราะรีเจนซี่เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์ให้เป็นแบรนด์แห่งชาติ ผ่านการสื่อสารการตลาดในเชิงภาพลักษณ์องค์กร ทำให้การรับรู้ของแบรนด์ของกลุ่มลูกค้าค่อนข้างสูง
ทั้งนี้ความโดดเด่นของเมอริเดียน เป็นบรั่นดีเกรด V.S.O.P (very Special Old Pale) ที่ผลิตโดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ทั้ง องุ่นและผลไม้ชนิดอื่นมาหมัก จากนั้นจึงนำมากลั่น และบ่มในถังไม้โอ้ค ไม่น้อยกว่า 4 ปี มีปริมาณแอลกอฮอลล์ 38 ดีกรี มีด้วยกัน 2 ขนาด คือ 35ซีแอล เพื่อรองรับกับกำลังซื้อต่างตลาดจังหวัด ส่วนขนาด 70ซีแอล จำหน่ายในราคา450 บาท ใกล้เคียงกับรีเจนซี่จากในช่วงเดือนพฤษภาคม บรั่นดีเป็นเหล้าอีกหนึ่งตัวที่ได้ปรับขึ้นภาษีจาก 45% เป็น 48%
การรุกตลาดบรั่นดีในครั้งนี้ของไทยเบฟฯ เพราะมีมูลค่าตลาดรวมสูงมาก ช่วงหลายปีที่ผ่านตลาดมีการเติบโตเฉลี่ 5-10% และที่ผ่านมามีบริษัทที่เป็นเจ้าตลาดเพียงตลาดเดียวคือ รีเจนซี่ ที่ครองตลาดมาอย่างยาวนาน อีกทั้งด้วยฐานผู้ดื่มบรั่นดีค่อนข้างกว้างลงลึกถึงตลาดต่างจังหวัด บริษัทจึงเห็นโอกาสทางการตลาดอย่างไรก็ตามจากการกระจายสินค้าที่มีความแข็งแกร่งของไทยเบฟฯ จะผลักดันให้บรั่นดีเมอริเดียนช่วงชิงส่วนแบ่งผู้นำตลาดได้
แหล่งข่าวจากบริษัทยูไนเต็ดไวน์เนอรี่ กล่าวว่า การเปิดตัวบรั่นดีเมอริเดียนผลักดันให้บริษัทไทยเบฟฯ มีเหล้าครอบคลุมและเสริมพอร์ตโฟลิโอกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันสุราชนิดต่างๆ ในเครือมีทั้งหมด 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มเหล้าสี ได้แก่ แสงโสม มังกรทอง แม่โขง 2.กลุ่มเหล้าขาว ยี่ห้อนิยมไทย รวงทอง 3.กลุ่มเหล้าสมุนไพรยี่ห้อเสือดำ และ4.กลุ่มสก็อตซ์วิสกี้ อาทิ คราวน์ 99 , บลู อีเกิ้ล ,เบลนด์ 285 และล่าสุด คือ กลุ่มที่ 5 ตลาดบรั่นดี
