หอการค้าฯ เดินหน้าสัมมนา จ.เชียงใหม่ เตรียมทบทวนนโยบายขับเคลื่อน ศก.ไทย พร้อมเสนอแผนยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ เพื่อให้สมาชิกทั่วประเทศพิจารณา ก่อนเสนอต่อรัฐบาล กำหนด 7 หมวดยุทธศาสตร์หลัก เพื่อใช้เป็นแผนสร้างความเข้มแข็งให้ภาคธุรกิจ ระยะ 5 ปีข้างหน้า ขุนคลังชี้ นายกฯ ไม่ไปเชียงใหม่ เพื่อรักษาภาพรวมของประเทศ
นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 27 ซึ่งจะจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยระบุว่า บรรยากาศของการสัมมนายังคงสามารถจัดการสัมมนาได้ตามปกติ โดยมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ถึงแม้ว่านายกรัฐมนตรีจะไม่ได้เดินทางมาเข้าร่วมการสัมมนาแล้วก็ตาม โดยทางสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศยังคงตอบรับเข้าร่วมสัมมนา เนื่องจากเป็นประเพณีปฏิบัติของทางหอการค้าไทยที่จะต้องมีการทบทวนนโยบาย เพื่อให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ หอการค้าไทยเตรียมเสนอแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจประเทศไทย เพื่อให้สมาชิกทั่วประเทศร่วมพิจารณา ก่อนเสนอให้รัฐบาลดำเนินการ โดยแบ่งเป็น 7 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ท่องเที่ยว สิ่งทอและแฟชั่น อัญมณีและเครื่องประดับ เกษตรและอาหาร ก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ บริการเพื่อสุขภาพและธุรกิจการค้าชายแดน ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่เน้นการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคเอกชน โดยเห็นว่าภาคเอกชนควรมียุทธศาสตร์ไว้ดำเนินการ เหมือนประเทศมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยไม่ต้องรอภาครัฐ โดยบางส่วนที่ดำเนินการเองไม่ได้ก็จะเสนอให้ภาครัฐดำเนินการ
สำหรับการชุมนุมคัดค้านรัฐบาล หอการค้าไทย อยากให้ทุกฝ่ายเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ เปิดโอกาสให้การสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศเป็นไปได้อย่างราบรื่น
ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรียกเลิกการเดินทางไปเชียงใหม่เพื่อร่วมงานสัมมนาหอการค้าประจำปี เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว และเป็นไปตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และหอการค้าไทย เพราะเห็นว่า มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีกำลังจะสร้างสถานการณ์ เพื่อให้เกิดความรุนแรง ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีเดินทางไป อาจจะไม่คุ้มกับผลที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ หากมีสถานการณ์รุนแรงขึ้นอีก ภาพลักษณ์ของประเทศก็จะเสียหาย หลังจากรัฐบาลได้พยายามเร่งประชาสัมพันธ์และฟื้นฟู รวมทั้งจะมีผลต่อการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ที่อยู่ในช่วงไฮซีซั่น ดังนั้น รัฐบาลต้องถอยออกมา 1 ก้าว แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่เพื่อความสงบโดยรวมก็จะต้องทำ เพราะรัฐบาลไม่ได้มีหน้าที่ในการสร้างเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง แต่ต้องยอมเสียหน้าในบางครั้ง เพื่อสถานการณ์ที่ดีขึ้น และเพื่อให้เอกชนเดินหน้าทำธุรกิจได้
