ครม.สั่งเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนไทยเข้มแข็ง หลังพบการทำงานล่าช้ามากเกินไป และมีการนำไปใช้เพียง 27% ขีดเส้น 30 พ.ย.นี้ หากยังอืด ต้องนำเข้า ครม.พิจารณาเป็นรายโครงการ พร้อมจี้ รมต.เป็นรายหัว กำชับผู้ว่าทุกจังหวัดเพิ่มอำนาจคลังเร่งรัดการเบิกจ่าย
มีรายงานข่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 24 พ.ย. ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 เนื่องจากพบว่าล่าสุดจนถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2552 มีการเบิกจ่ายเพียง 27.16% ของมูลค่าการลงทุนได้รับการอนุมัติไปแล้ว 63,890 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17,352 ล้านบาทเท่านั้น
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายในปีงบประมาณ 2553 ภายใต้แผนปฏิบัติการดังกล่าวไว้ไม่น้อยกว่า 100% ของวงเงินตามแผน นอกจากนี้ ยังขอให้แต่ละหน่วยงานส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาเพื่อขอจัดสรรเงินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 นี้ หากพ้นกำหนดแล้วจะต้องเสนอให้ ครม.พิจารณาเป็นรายโครงการไป
อย่างไรก็ดี สำนักงบประมาณจะต้องอนุมัติงบประมาณภายใน 15 วันทำการ โดยหลังจากได้รับอนุมัติแล้ว หน่วยงานจะต้องลงนามในสัญญาภายใน 15 วันทำการเช่นกัน
ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดที่ได้รับเงินในโครงการลงทุนภายใต้แผนไทยเข้มแข็ง ให้ปฏิบัติตามแผนปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายเงินอย่างเคร่งครัด และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพิ่มบทบาทให้คลังจังหวัดไปติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินในโครงการดังกล่าวของส่วนราชการในจังหวัด เพื่อให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมาย