xs
xsm
sm
md
lg

“เอไอเอส” สร้างโมเดลรับดิจิตอลมีเดียมา หลังเห็นโฆษณาผ่านมือถือปีนี้มูลค่าพันล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอไอเอส เชื่อปี 2010 Digital Media มาแน่ สร้างโมเดลธุรกิจรองรับ วางตัวเป็น Interactive Wireless Media Provider เต็มรูปแบบ หลังเห็นเม็ดเงินงอกจากการโฆษณาผ่านมือถือกว่าพันล้านบาท ซึ่งไม่รวมอยู่ในมูลค่าของอุตสาหกรรมโฆษณาปีนี้ทั้งหมดที่มีประมาณ 8 หมื่นล้านบาท

นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้อำนวยการ สำนักการตลาด บริการเสริม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส กล่าวว่า กระแสของ Digital Media ที่รวมถึง Mobile media และ Online Media เริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อวงการสื่อสารของไทยเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ อยู่ที่ว่าจะผสมผสานให้กลมกลืนและเกิดประสิทธิภาพได้อย่างไรนั้น ต้องดูที่ความเหมาะสมและสอดคล้องกับ Character กับสินค้า ที่สำคัญที่สุด คือ ตอบโจทย์ Lifestyle คนรุ่นใหม่ที่เรียกกันว่า Gen M-Media in a Live

ด้วยพฤติกรรมของคนในสังคมที่เปลี่ยนไปแนวโน้มของการใช้ Digital Media จึงเข้ามาเป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาดจึงมีสัดส่วนที่มากขึ้นเรื่อยๆ จะเห็นได้จากสัดส่วนการใช้ Traditional Media ในภาพรวมลดลงโดยเฉลี่ยมากกว่า 20% ในขณะเดียวกัน New Media ซึ่ง Digital Media เป็น 1 ในกลุ่มนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยในไทยคาดว่าจะโตประมาณ 30%

ปรากฏการณ์ดังกล่าวเริ่มมีให้เห็นผ่านทางการทำแคมเปญการตลาดของสินค้าแบรนด์ดังที่มักจะใช้ Online Advertising เป็นตัวยืนและใช้ Mobile เข้ามาผสมผสานเป็นช่องทางให้เกิดการมีส่วนร่วม (Interact) กับผู้บริโภค หากต้องการให้เกิด Impact ที่มากขึ้นก็จะผสมผสาน Digital Media เข้ากับ Traditional Media ในลักษณะของ Full IMC (Integrated Marketing Communication)

“อุตสาหกรรมโฆษณาทั้งหมดปีนี้มีประมาณ 8 หมื่นล้าน แต่มีมูลค่าเพิ่มมาไม่เกี่ยวกับมูลค่าตรงนี้ประมาณพันล้านบาทคิดเป็น 1% ของมูลค่าโดยรวม เราจึงเชื่อว่าดิจิตอล มีเดียมาแน่และ90% จากมูลค่าตรงนี้ลูกค้าจ่าย ซึ่งเรามีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 60%”

จากแนวโน้มที่ผู้บริหารเอไอเอสเชื่อมาจะมาจึง จึงเริ่มพัฒนา Mobile Advertising ตั้งแต่ปี 2005 เพื่อรองรับแนวโน้มดังกล่าว ด้วย Solutions ที่หลากหลายภายใต้การได้รับอนุญาตจากผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ (Permission Based) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของการทำ Mobile Advertising โดย Solutions Mobile Advertising จากเอไอเอส ประกอบด้วย 1.mADS 2.mLIVE ผ่านทางรูปแบบของ Cell Broadcast 3.SMS 2.0 4.Free Email 5.Calling Melody Ads (For enterprise) 6.Ads Voice & Location based Push 7.Wap Banner Ads 8.Mobile Internet Map 9.Ad Sponsored Concept Test (เช่น Calling Bonus) และมีการตั้งทีมโมบาย แอดเวอร์ไทซิ่งขึ้น โดยมีทีมงาน 5 คน เริ่มดำเนินการมาได้ประมาณปีกว่า

ขณะที่โมเดลธุรกิจเพื่อรองกับสิ่งที่เชื่อว่าจะมานั้น เอไอเอสได้วางไว้ 4 ส่วนหลัก คือ 1.แพลตฟอร์ม แมเนจเมนต์ 2.เซอร์วิส แมเนจเมนต์ 3.เซกเมนเตชัน 4.เน็ตเวิร์ก ดิสทริบิวชั่น พร้อมกับการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ชิปทั้งที่เป็นแอปพลิเคชัน โพรวายเดอร์ และคอนเทนต์ พาร์ตเนอร์ และจากโมเดลที่เอไอเอสวางไว้เม็ดเงินจะเข้าจาก 2 ทาง คือ มาจากผู้โฆษณากับมาจากลูกค้า

ทั้งนี้ จุดแข็งของ Mobile ในฐานะ Media ประกอบด้วย Personal, Always on, Always with the subscriber, Interactive, Time-specific, Location-specific, Variety of content and Support multiple media channels e.g SMS, MMS, Voice, WAP, Video, IM

“เราโพซิชันเป็นอินเตอร์แอกทีฟ ไวร์เลส มีเดีย ไม่ใช่แค่โทร.ออกหรือรับสาย ซึ่งตรงนี้จะเป็นการเคลื่อนตัวไม่ข้างหน้าในปีหน้า”

ปัจจุบันลูกค้าเอไอเอสมีการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือประมาณ 6 ล้านราย หรือเพิ่มขึ้นประมาณปีละ 20% มีปริมาณการใช้ถี่ขึ้นคือจากเดิมเดือนละ 2-3 ครั้ง เป็นสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ขณะที่เครื่องลูกค้าที่รองรับบริการเหล่านี้อย่างแบล็คเบอร์รี่ช่วงระยะเวลา 6 เดือนโตกว่า 100% โนเกียเอ็นซีรี่โตกว่า 40%

นายอรรถวุฒิ ทองยืน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Adapter กล่าวว่า สื่อออนไลน์ปีนี้โต 80% ปีหน้า คาดว่า จะใกล้เคียงกับปีนี้ เพราะเป็นสื่อที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง และเจ้าของสินค้าเริ่มหันมาใช้สื่อประเภทนี้มากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากต่างประเทศที่จัดงบไว้ประมาณ 10-20% บางราย 50% ของงบการตลาด เพื่อทำโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ ส่วนไทยถ้าใช้งบตรงนี้ประมาณ 5% ถือว่าดีแล้ว

“โฆษณาปีหน้าคงโตไม่มากแต่เม็ดเงินจะมาทางดิจิตอลมากขึ้น อย่างต่างประเทศดิจิตอลมีเดียแซงหน้าทีวีไปแล้ว บ้านเราก็อาจจะไม่นานหากมือถือ 3จี เกิด เพราะกลุ่มเป้าหมายสื่อออนไลน์เป็นวัยรุ่นที่อยู่ในสังคมออนไลน์ ซึ่งมีการเข้า Hi5 หรือ เฟซบุ๊ก กันบ่อยมาก”
กำลังโหลดความคิดเห็น