โรงเบียร์ตะวันแดง ชูโมเดล เอเชี่ยน ไมโคร บริวเวอรี่ ลุยธุรกิจโรงเบียร์ –ร้านอาหารในเอเชีย จ่อคิวขยายสาขาญี่ปุ่น จีน เวียดนามต่อยอด หลังโรงเบียร์สิงคโปร์ประสบความสำเร็จ เตรียมรีแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดงครั้งใหญ่รอบ 7 ปี ขยายฐานลูกค้า พร้อมเยี่ยมดีลเลอร์กัมพูชา หลังไทยลดความสัมพันธ์
นายสุพจน์ ธีรวัฒนชัย กรรมการผู้จัดการ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้ลงทุนเปิดโรงเบียร์ในสิงคโปร์ไปแล้ว ทางบริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาโรงเบียร์ตะวันแดง โดยชูโมเดลเอเชี่ยน ไมโคร บริวเวอรี่ ไปยังทวีปเอเชีย โดยคาดว่าสาขาต่อไปที่จะเปิดได้คือ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศเวียดนาม สำหรับรูปแบบการลงทุนจะเปิดกว้างโดยเปิดโอกาสในการหาพันธมิตรเข้าร่วมธุรกิจเพื่อให้การดำเนินธุรกิจในแต่ละประเทศทำได้ง่ายขึ้น
โมเดล เอเชีย ไมโคร บริวเวอรี่ เป็นโรงเบียร์เยอรมันที่ขายอาหารไทย และใช้กุ๊กเป็นคนไทย โดยอาหารหลักที่เป็นจุดขาย ในสาขาสิงคโปร์คือ ต้มยำกุ้ง ปลากะพงราดน้ำปลา ผัดผักบุ้ง เป็นต้น ต่างจากโรงเบียร์เยอรมันโดยทั่วไปที่จะขายอาหารประเภทไส้กรอก
“โมเดลนี้ถือว่าได้รับความสำเร็จเป็นอย่างดี จากการเปิดสาขาโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงที่เดมซี่ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อช่วงกรกฏาคมที่ผ่านมา โดยอาหารที่ได้รับการตอบรับสูงสุดคือต้มยำกุ้ง ซึ่งสาขาดังกล่าวยอดขายได้เดือนละ 600,000 เหรียญสิงคโปร์ และเชื่อว่าจะสามารถคืนทุนที่ลงทุนไปประมาณ 3 ล้านเหรียญสิงคโปร์ได้ภายใน 18 -24 เดือนจากนี้ไป”
นายร่มธรรม เศรษฐสิทธิ์ กรรมการบริหาร โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง กล่าวว่า แนวทางในการทำตลาดโรงเบียร์เยอรมันในต่างประเทศจะเน้นสร้างการรับรู้กับกลุ่มเป้าหมายผ่านสื่อต่างๆ ด้วยโดยในส่วนของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขาสิงคโปร์นั้นได้สร้างการรับรู้ผ่านโทรทัศน์ นอกจากนี้ ยังได้ใช้สาขาสิงคโปร์ในการจัดกิจกรรมที่สื่อถึงความเป็นไทยเช่นเทศกาล อาหารและประเพณีไทย โดยล่าสุดได้มีการจัดเทศกาลลอยกระทง ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้เข้าร่วมงานทั้งคนไทยและสิงคโปร์ ราว 1,000 คนมากกว่าความจุของโรงเบียร์ที่มีที่นั่งเพียง 400 ที่นั่ง
ทั้งนี้โรงเบียร์มีแผนที่จะเปิดร้านอาหารไทยเป็นที่แรกในประเทศสิงคโปร์มีทั้งรูปแบบสแตนอโลน และอยู่ในห้าง พื้นที่ 2,000-3,000 ตารางฟุต เน้นจุดขายอาหารไทยเพื่อสุขภาพ ภายใต้การลงทุน 10-15 ล้านบาทต่อสาขา โดยในสิงคโปร์จะใช้โรงเบียร์สาขาเดมซี่ เป็นครัวกลางซึ่งจะส่งอาหารให้กับโรงเบียร์สาขาอีสต์โคสต์ที่เป็นสาขาที่สองที่กำลังจะเปิดให้ดำเนินการ โดยคาดว่าจะเปิดร้านอาหารได้ก่อนกลางปีหน้า
***รีแบรนด์ชูกำลังบาวแดงรอบ7ปี***
นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทคาราบาวตะวันแดง และผู้ถือหุ้นใหญ่ในโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง กล่าวว่า บริษัทวางแผนรีแบรนด์เครื่องดื่มคาราบาวแดงในรอบ 7 ปี โดยจะมีการปรับสโลแกนจากเดิมใช้คำว่า “นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่” เป็น” เติมเต็มคุณค่าให้กับชีวิต” และจะปรับผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อขยายสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ให้ครอบคลุมมากขึ้น ไม่มีข้อจำกัดจากสโลแกนเดิมที่จะสื่อถึงกลุ่มผู้ใช้แรงงานเป็นหลัก
พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนที่จะนำเครื่องดื่มคาราบาวแดงไปจัดจำหน่ายยังโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงสาขาสิงคโปร์ ส่วนตลาดต่างประเทศหลัก ๆ ที่ได้นำคาราบาวแดงไปจำหน่ายแล้วนั้น มีประเทศกัมพูชา มียอดขายประมาณเดือนละ 50,000-70,000 หมื่นหีบ ถือเป็นตลาดที่ใหญ่อันดับสองรองจากแอฟริกา ส่วนหลังจากเกิดเหตุการณ์ประเทศไทยและกัมพูชาได้ลดความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันยังไม่ได้ส่งผลกระทบกับยอดขายเครื่องดื่มคาราบาวแดงแต่อย่างใด โดยทั้งนี้ทางกลุ่มผู้บริหารของบริษัทจะเดินทางไปยังประเทศกัมพูชาในวันที่ 23-25 พฤศจิกายน นี้เพื่อเยี่ยมตัวแทนจำหน่าย
นายสุพจน์ ธีรวัฒนชัย กรรมการผู้จัดการ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้ลงทุนเปิดโรงเบียร์ในสิงคโปร์ไปแล้ว ทางบริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาโรงเบียร์ตะวันแดง โดยชูโมเดลเอเชี่ยน ไมโคร บริวเวอรี่ ไปยังทวีปเอเชีย โดยคาดว่าสาขาต่อไปที่จะเปิดได้คือ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศเวียดนาม สำหรับรูปแบบการลงทุนจะเปิดกว้างโดยเปิดโอกาสในการหาพันธมิตรเข้าร่วมธุรกิจเพื่อให้การดำเนินธุรกิจในแต่ละประเทศทำได้ง่ายขึ้น
โมเดล เอเชีย ไมโคร บริวเวอรี่ เป็นโรงเบียร์เยอรมันที่ขายอาหารไทย และใช้กุ๊กเป็นคนไทย โดยอาหารหลักที่เป็นจุดขาย ในสาขาสิงคโปร์คือ ต้มยำกุ้ง ปลากะพงราดน้ำปลา ผัดผักบุ้ง เป็นต้น ต่างจากโรงเบียร์เยอรมันโดยทั่วไปที่จะขายอาหารประเภทไส้กรอก
“โมเดลนี้ถือว่าได้รับความสำเร็จเป็นอย่างดี จากการเปิดสาขาโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงที่เดมซี่ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อช่วงกรกฏาคมที่ผ่านมา โดยอาหารที่ได้รับการตอบรับสูงสุดคือต้มยำกุ้ง ซึ่งสาขาดังกล่าวยอดขายได้เดือนละ 600,000 เหรียญสิงคโปร์ และเชื่อว่าจะสามารถคืนทุนที่ลงทุนไปประมาณ 3 ล้านเหรียญสิงคโปร์ได้ภายใน 18 -24 เดือนจากนี้ไป”
นายร่มธรรม เศรษฐสิทธิ์ กรรมการบริหาร โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง กล่าวว่า แนวทางในการทำตลาดโรงเบียร์เยอรมันในต่างประเทศจะเน้นสร้างการรับรู้กับกลุ่มเป้าหมายผ่านสื่อต่างๆ ด้วยโดยในส่วนของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขาสิงคโปร์นั้นได้สร้างการรับรู้ผ่านโทรทัศน์ นอกจากนี้ ยังได้ใช้สาขาสิงคโปร์ในการจัดกิจกรรมที่สื่อถึงความเป็นไทยเช่นเทศกาล อาหารและประเพณีไทย โดยล่าสุดได้มีการจัดเทศกาลลอยกระทง ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้เข้าร่วมงานทั้งคนไทยและสิงคโปร์ ราว 1,000 คนมากกว่าความจุของโรงเบียร์ที่มีที่นั่งเพียง 400 ที่นั่ง
ทั้งนี้โรงเบียร์มีแผนที่จะเปิดร้านอาหารไทยเป็นที่แรกในประเทศสิงคโปร์มีทั้งรูปแบบสแตนอโลน และอยู่ในห้าง พื้นที่ 2,000-3,000 ตารางฟุต เน้นจุดขายอาหารไทยเพื่อสุขภาพ ภายใต้การลงทุน 10-15 ล้านบาทต่อสาขา โดยในสิงคโปร์จะใช้โรงเบียร์สาขาเดมซี่ เป็นครัวกลางซึ่งจะส่งอาหารให้กับโรงเบียร์สาขาอีสต์โคสต์ที่เป็นสาขาที่สองที่กำลังจะเปิดให้ดำเนินการ โดยคาดว่าจะเปิดร้านอาหารได้ก่อนกลางปีหน้า
***รีแบรนด์ชูกำลังบาวแดงรอบ7ปี***
นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทคาราบาวตะวันแดง และผู้ถือหุ้นใหญ่ในโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง กล่าวว่า บริษัทวางแผนรีแบรนด์เครื่องดื่มคาราบาวแดงในรอบ 7 ปี โดยจะมีการปรับสโลแกนจากเดิมใช้คำว่า “นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่” เป็น” เติมเต็มคุณค่าให้กับชีวิต” และจะปรับผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อขยายสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ให้ครอบคลุมมากขึ้น ไม่มีข้อจำกัดจากสโลแกนเดิมที่จะสื่อถึงกลุ่มผู้ใช้แรงงานเป็นหลัก
พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนที่จะนำเครื่องดื่มคาราบาวแดงไปจัดจำหน่ายยังโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงสาขาสิงคโปร์ ส่วนตลาดต่างประเทศหลัก ๆ ที่ได้นำคาราบาวแดงไปจำหน่ายแล้วนั้น มีประเทศกัมพูชา มียอดขายประมาณเดือนละ 50,000-70,000 หมื่นหีบ ถือเป็นตลาดที่ใหญ่อันดับสองรองจากแอฟริกา ส่วนหลังจากเกิดเหตุการณ์ประเทศไทยและกัมพูชาได้ลดความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันยังไม่ได้ส่งผลกระทบกับยอดขายเครื่องดื่มคาราบาวแดงแต่อย่างใด โดยทั้งนี้ทางกลุ่มผู้บริหารของบริษัทจะเดินทางไปยังประเทศกัมพูชาในวันที่ 23-25 พฤศจิกายน นี้เพื่อเยี่ยมตัวแทนจำหน่าย
