ซีเอ็มจี ลุ้นสรุปเจรจาขอสิทธิ์นาฬิกาแฟชั่นแบรนด์อีกราย พร้อมหวังสยายกลุ่มใหม่สู่พรีเมียม ด้านแบรนด์คาสิโอ ฉลุย คาดทั้งปีโต 25% เตรียมเพิ่มช่องทางขายปีหน้าอีก
นางเยาวลักษณ์ กิจทวีสินพูน ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส นาฬิกาแบรนด์ คาสิโอ บริษัท เซ็นทรัลเทรดดิ้ง จำกัด ในกลุ่มซีเอ็มจี ของเซ็นทรัลกรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าของลิขสิทธิ์นาฬิกากลุ่มแฟชั่นอีกแบรนด์หนึ่ง เพื่อที่จะเป็นผู้จัดจำหน่ายในตลาดเมืองไทย ซึ่งแบรนด์นี้มีผู้จัดจำหน่ายรายเดิมทำตลาดอยู่แล้วในไทย คาดว่า จะสรุปการเจรจาเร็วๆ นี้
นอกจากนั้น ก็มีแผนที่จะขยายตลาดนาฬิกาไปยังกลุ่มพรีเมียมด้วย ซึ่งปัจจุบันบริษัทยังไม่มีนาฬิกาที่ทำตลาดในกลุ่มนี้แต่อย่างใด ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายนาฬิการวมทั้งสิ้น 5 แบรนด์ คือ คาสิโอ, เกส ซึ่งเป็นสองแบรนด์ที่ทำรายได้หลักให้กับกลุ่มนาฬิกา ที่เหลือคือ แบรนด์นอติก้า, มาร์คเอคโค่ และ จีซี (โดยมีแบรนด์คาสิโอเป็นผู้นำตลาดรวมกลุ่มแฟชั่นในช่องทางโมเดิร์นเทรดด้วยแชร์ 30%)
สาเหตุที่มองกลุ่มแฟชั่นเพิ่มอีก เพราะเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตดีที่สุดในตลาดรวมนาฬิกาเฉลี่ยปีละ 30% ส่วนสาเหตุที่สนใจกลุ่มพรีเมียมนั้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ใหญ่ในแง่มูลค่าของสินค้า และเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพมากด้วยเพราะกลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อมาก
สำหรับภาพรวมของนาฬิกาคาสิโอนั้น ในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายรวมเติบโตที่ 25% จากปีที่แล้วที่เติบโตประมาณ 30% โดยครึ่งปีแรกนี้ยอดขายเติบโต 15% เนื่องจากช่วงต้นปียังมีปัญหาเรื่องความขัดแย้งรุนแรงด้านการเมือง โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์ แต่คาดว่า ครึ่งปีหลังจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ด้วยแผนการตลาดและกิจกรรมต่างๆ เช่น วอทช์แฟร์ ช่วงปลายปีหลายงาน เป็นต้น โดยไม่เน้นเรื่องการลดราคา
นางเยาวลักษณ์ กล่าวด้วยว่า ปีหน้ามีแผนที่จะเปิดชอป จี-แฟคตอรี่ (ขายเฉพาะนาฬิกาแบรนด์คาสิโอเท่านั้น) อีก 2 แห่ง ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว และศูนย์การค้าย่านถนนศรีนครินทร์ จากปัจจุบันมี 5 สาขา ส่วนร้านวอทช์สเตชั่น (ขายนาฬิกาทุกแบรนด์ที่บริษัทจำหน่ายอยู่) มี 10 สาขา ล่าสุด เตรียมเปิดสาขาที่เซ็นทรัลขอนแก่น และปีหน้าเตรียมขยายช่องทางของแบรนด์คาสิโอในร้านซูเปอร์สปอร์ตอีก 3 สาขา จากเดิมที่ขายแค่ 3 สาาขาหลักเท่านั้น โดยช่องทางการจำหน่ายปัจจุบันแบ่งเป็น โมเดิร์นเทรด 70% ช่องทางดีลเลอร์ 17-20% และชอปของบริษัท 10-15%
อีกทั้งยังจัดทำเว็บบล็อกเพื่อสร้างคอมมูนิตีออนไลน์ ไว้เชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายที่จะขยายตลาดเข้าไปถึง
ล่าสุด จัดงาน “Shock the World” ที่จัดขึ้นในเมืองใหญ่ 12 แห่งของโลก ที่นาฬิกา คาสิโอ จี-ช็อค มียอดขายเติบโตเช่น ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ นิวยอร์ค ลอนดอน ปารีส โซล บาร์เซโลน่า ไทเป สิงคโปร์ เม็กซิโกซิตี้ เบอร์ลิน และกรุงเทพฯ ในไทยจะจัดขึ้นวันที่ 9 ธันวาคมศกนี้ ที่เดโมทองหล่อ เพื่อตอกย้ำแบรนด์และมีนาฬิการุ่นพิเศษมาจำหน่ายด้วย เช่น รุ่น Shock the World จำนวน 100 เรือนในไทย ยังมีนาฬิกาจี-ช็อค ฝังเพชรเรือนดียวในไทยทำด้วยทองคำขาว 18K ฝังเพชร 727 เม็ด น้ำหนัก 4.301 กะรัตโดยประมาณ มูลค่า 690,0000 บาท
นางเยาวลักษณ์ กิจทวีสินพูน ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส นาฬิกาแบรนด์ คาสิโอ บริษัท เซ็นทรัลเทรดดิ้ง จำกัด ในกลุ่มซีเอ็มจี ของเซ็นทรัลกรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าของลิขสิทธิ์นาฬิกากลุ่มแฟชั่นอีกแบรนด์หนึ่ง เพื่อที่จะเป็นผู้จัดจำหน่ายในตลาดเมืองไทย ซึ่งแบรนด์นี้มีผู้จัดจำหน่ายรายเดิมทำตลาดอยู่แล้วในไทย คาดว่า จะสรุปการเจรจาเร็วๆ นี้
นอกจากนั้น ก็มีแผนที่จะขยายตลาดนาฬิกาไปยังกลุ่มพรีเมียมด้วย ซึ่งปัจจุบันบริษัทยังไม่มีนาฬิกาที่ทำตลาดในกลุ่มนี้แต่อย่างใด ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายนาฬิการวมทั้งสิ้น 5 แบรนด์ คือ คาสิโอ, เกส ซึ่งเป็นสองแบรนด์ที่ทำรายได้หลักให้กับกลุ่มนาฬิกา ที่เหลือคือ แบรนด์นอติก้า, มาร์คเอคโค่ และ จีซี (โดยมีแบรนด์คาสิโอเป็นผู้นำตลาดรวมกลุ่มแฟชั่นในช่องทางโมเดิร์นเทรดด้วยแชร์ 30%)
สาเหตุที่มองกลุ่มแฟชั่นเพิ่มอีก เพราะเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตดีที่สุดในตลาดรวมนาฬิกาเฉลี่ยปีละ 30% ส่วนสาเหตุที่สนใจกลุ่มพรีเมียมนั้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ใหญ่ในแง่มูลค่าของสินค้า และเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพมากด้วยเพราะกลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อมาก
สำหรับภาพรวมของนาฬิกาคาสิโอนั้น ในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายรวมเติบโตที่ 25% จากปีที่แล้วที่เติบโตประมาณ 30% โดยครึ่งปีแรกนี้ยอดขายเติบโต 15% เนื่องจากช่วงต้นปียังมีปัญหาเรื่องความขัดแย้งรุนแรงด้านการเมือง โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์ แต่คาดว่า ครึ่งปีหลังจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ด้วยแผนการตลาดและกิจกรรมต่างๆ เช่น วอทช์แฟร์ ช่วงปลายปีหลายงาน เป็นต้น โดยไม่เน้นเรื่องการลดราคา
นางเยาวลักษณ์ กล่าวด้วยว่า ปีหน้ามีแผนที่จะเปิดชอป จี-แฟคตอรี่ (ขายเฉพาะนาฬิกาแบรนด์คาสิโอเท่านั้น) อีก 2 แห่ง ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว และศูนย์การค้าย่านถนนศรีนครินทร์ จากปัจจุบันมี 5 สาขา ส่วนร้านวอทช์สเตชั่น (ขายนาฬิกาทุกแบรนด์ที่บริษัทจำหน่ายอยู่) มี 10 สาขา ล่าสุด เตรียมเปิดสาขาที่เซ็นทรัลขอนแก่น และปีหน้าเตรียมขยายช่องทางของแบรนด์คาสิโอในร้านซูเปอร์สปอร์ตอีก 3 สาขา จากเดิมที่ขายแค่ 3 สาาขาหลักเท่านั้น โดยช่องทางการจำหน่ายปัจจุบันแบ่งเป็น โมเดิร์นเทรด 70% ช่องทางดีลเลอร์ 17-20% และชอปของบริษัท 10-15%
อีกทั้งยังจัดทำเว็บบล็อกเพื่อสร้างคอมมูนิตีออนไลน์ ไว้เชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายที่จะขยายตลาดเข้าไปถึง
ล่าสุด จัดงาน “Shock the World” ที่จัดขึ้นในเมืองใหญ่ 12 แห่งของโลก ที่นาฬิกา คาสิโอ จี-ช็อค มียอดขายเติบโตเช่น ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ นิวยอร์ค ลอนดอน ปารีส โซล บาร์เซโลน่า ไทเป สิงคโปร์ เม็กซิโกซิตี้ เบอร์ลิน และกรุงเทพฯ ในไทยจะจัดขึ้นวันที่ 9 ธันวาคมศกนี้ ที่เดโมทองหล่อ เพื่อตอกย้ำแบรนด์และมีนาฬิการุ่นพิเศษมาจำหน่ายด้วย เช่น รุ่น Shock the World จำนวน 100 เรือนในไทย ยังมีนาฬิกาจี-ช็อค ฝังเพชรเรือนดียวในไทยทำด้วยทองคำขาว 18K ฝังเพชร 727 เม็ด น้ำหนัก 4.301 กะรัตโดยประมาณ มูลค่า 690,0000 บาท
