“อากู๋” โฟกัส 3 ธุรกิจปีหน้า พร้อมจ่อซื้อกิจการบันเทิงอีกแห่ง คาดใช้งบ 100 ล้านบาท
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กล่าวว่า นโยบายธุรกิจของบริษัท ในปี 2553 จะมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ประกอบด้วย 1.จีเอ็มเอ็ม ดิจิตอล 2.ธุรกิจจัดจำหน่ายภายใต้ชื่อบริษัท เอ็มจีเอ จำกัด และ 3.ธุรกิจด้านการกระจายภาพและเสียง ไม่ว่าจะเป็นฟรีทีวี หรือโทรทัศน์ดาวเทียม
นอกจากนั้น จะมีการขยายตลาดในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยใช้บริษัท จีเอ็มเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นฐานรุก ซึ่งการเน้นธุรกิจเหล่านี้และการขยายธุรกิจในปีนี้ไว้ก่อน คาดว่าในปีหน้าอาจจะเป็นปีที่บริษัทจะมีกำไรสูงสุดในรอบ 27 ปีก็เป็นได้ เพราะแต่เดิมปีนี้คาดว่าจะมีกำไรเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมา แต่เป็นเพราะผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเมืองจึงทำให้ปีนี้มีกำไรเท่ากับปีที่ผ่านมา
“ในปีหน้าจะเป็น ครีเอทีฟ คัมพานี ที่มีสินค้าและคอนเทนต์ที่หลากหลาย รวมถึงช่องรายการโทรทัศน์ดาวเทียมช่องใหม่ “เบิร์ด แชนแนล” ที่จะเปิดในช่วงต้นปีหน้า” นายไพบูลย์ กล่าว
ล่าสุด บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเข้าซื้อกิจการของบริษัทแห่งหนึ่ง คาดว่า จะต้องใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท จะเปิดตัวได้ในช่วงต้นปี 2553 ซึ่งทำธุรกิจด้านคอนเทนต์บันเทิงมีลักษณะใกล้เคียงกับธุกริจของแกรมมี่ เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจของแกรมมี่ให้ครบวงจรมากขึ้น และยังสามารถใช้เป็นฐานในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้สื่อใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา เช่น 3จี หรือทีวีดาวเทียม ที่จะเป็นตัวสำคัยในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจบันเทิงในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
นายไพบูลย์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวว่า แกรมมี่ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นในบริษัท โพสต์ พับลิชชิ่งและ มติชน ว่า จะยังคงสัดส่วนไว้เท่าเดิม ไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่จะเพิ่มความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น ส่วนการเข้าซื้อหุ้นในบริษัท แฟมิลี่ โนฮาว ผู้บริหารช่อง มันนี่ แชนแนล เป็นการขยายไลน์เข้าสู่คอนเทนต์ด้านข้อมูลข่าวสาร คาดว่า ช่องดังล่าวจะทำกำไรในปี 2553 ประมาณ 100 ล้านบาท
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กล่าวว่า นโยบายธุรกิจของบริษัท ในปี 2553 จะมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ประกอบด้วย 1.จีเอ็มเอ็ม ดิจิตอล 2.ธุรกิจจัดจำหน่ายภายใต้ชื่อบริษัท เอ็มจีเอ จำกัด และ 3.ธุรกิจด้านการกระจายภาพและเสียง ไม่ว่าจะเป็นฟรีทีวี หรือโทรทัศน์ดาวเทียม
นอกจากนั้น จะมีการขยายตลาดในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยใช้บริษัท จีเอ็มเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นฐานรุก ซึ่งการเน้นธุรกิจเหล่านี้และการขยายธุรกิจในปีนี้ไว้ก่อน คาดว่าในปีหน้าอาจจะเป็นปีที่บริษัทจะมีกำไรสูงสุดในรอบ 27 ปีก็เป็นได้ เพราะแต่เดิมปีนี้คาดว่าจะมีกำไรเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมา แต่เป็นเพราะผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเมืองจึงทำให้ปีนี้มีกำไรเท่ากับปีที่ผ่านมา
“ในปีหน้าจะเป็น ครีเอทีฟ คัมพานี ที่มีสินค้าและคอนเทนต์ที่หลากหลาย รวมถึงช่องรายการโทรทัศน์ดาวเทียมช่องใหม่ “เบิร์ด แชนแนล” ที่จะเปิดในช่วงต้นปีหน้า” นายไพบูลย์ กล่าว
ล่าสุด บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเข้าซื้อกิจการของบริษัทแห่งหนึ่ง คาดว่า จะต้องใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท จะเปิดตัวได้ในช่วงต้นปี 2553 ซึ่งทำธุรกิจด้านคอนเทนต์บันเทิงมีลักษณะใกล้เคียงกับธุกริจของแกรมมี่ เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจของแกรมมี่ให้ครบวงจรมากขึ้น และยังสามารถใช้เป็นฐานในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้สื่อใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา เช่น 3จี หรือทีวีดาวเทียม ที่จะเป็นตัวสำคัยในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจบันเทิงในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
นายไพบูลย์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวว่า แกรมมี่ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นในบริษัท โพสต์ พับลิชชิ่งและ มติชน ว่า จะยังคงสัดส่วนไว้เท่าเดิม ไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่จะเพิ่มความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น ส่วนการเข้าซื้อหุ้นในบริษัท แฟมิลี่ โนฮาว ผู้บริหารช่อง มันนี่ แชนแนล เป็นการขยายไลน์เข้าสู่คอนเทนต์ด้านข้อมูลข่าวสาร คาดว่า ช่องดังล่าวจะทำกำไรในปี 2553 ประมาณ 100 ล้านบาท