ททท.เกาะกระแสเที่ยวตลาดเก่าบูม ออกคู่มือ 15 ตลาดบน 16 ตลาดน้ำ โปรโมตแหล่งท่องเที่ยวภาคกลาง ชี้ เทรนด์นักท่องเที่ยวโตต่อเนื่องทุกปีเฉลี่ย 30-40% เหตุเหมาะกับเศรษฐกิจและเงินในกระเป๋าคนไทย ครวญ งบปี 53 อืด เพราะยังไม่ผ่านสภา หวั่นกระทบแผนงานต้องล่าช้าด้วย
นายชัยสงค์ ชูฤทธิ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการจัดพิมพ์หนังสือคู่มือเดินทางท่องเที่ยวชื่อ “15 ตลาดบก 16 ตลาดน้ำ” โดยรวบรวมเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวประเภทตลาดโบราณ และตลาดน้ำ เช่น ตลาดโก้งโค้ง จ.อยุธยา ตลาดบ้านใหม่ จ.ฉะเชิงเทรา ตลาดคลองสวนร้อยปี จ.ฉะเชิงเทรา ตลาดน้ำอัมพวา เป็นต้น โดยคัดเฉพาะที่อยู่ในพื้นที่ภาคกลาง นำเสนอในรูปแบบไกด์บุ๊ก จำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวที่สนใจ โดยใช้งบราว 1.5 ล้านบาท สำหรับจัดพิมพ์ 5 หมื่นเล่ม เริ่มจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้ประมาณต้นเดือน พ.ย.ศกนี้ ในราคาเล่มละ 50 บาท ที่สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่ต้องจำหน่าย เพราะจะได้ผู้ที่ต้องการจริงๆ
ทั้งนี้ ระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา กระแสการเดินทางท่องเที่ยวตลาดโบราณ และตลาดน้ำของกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยเติบโตต่อเนื่อง จำนวนนักท่องเที่ยวรูปแบบนี้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 30-40% และมั่นใจว่า จะยังอยู่ในเทรนด์การท่องเที่ยวของคนไทยไปอีกนาน เพราะเป็นลักษณะการท่องเที่ยวที่เหมาะกับทุกเพศวัย และกลุ่มครอบครัว สามารถเดินทางแบบเช้าไปเย็นกลับได้ อีกทั้งการท่องเที่ยวรูปแบบนี้ยังได้ความรู้ในรูปแบบวัฒนธรรมวิถีชีวิตชุมชนในสมัยก่อน ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวรูปแบบนี้ก็ไม่แพงเหมาะกับสภาวะทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวตลาดโบราณ หรือ ตลาดเก่า กลุ่มคนไทยจะให้ความสำคัญมากกว่าชาวต่างชาติ เพราะเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวที่ได้อารมณ์แบบย้อยยุคไปสมัยวัยเยาว์ หรือเด็กๆ อาจไปเห็นหรือเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนในสมัยเก่า เปรียบเทียบความแตกต่างกันได้ แต่ชาวต่างชาติจะไม่สามารถรับรู้รูปแบบความแตกต่างนี้ได้ เพราะไม่เคยอยู่ประเทศไทยมาก่อน ดังนั้น หากจะนำเสนอตลาดชาวต่างชาติ ต้องมีจุดขายที่น่าสนใจ เช่น เรื่องของตลาดน้ำ มีเรือชาวบ้านมาพายขายสินค้า แล้วคนซื้ออยู่บนฝั่ง เช่น ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
สำหรับกิจกรรมที่ ททท.จะดำเนินการตามแผนปีงบประมาณ 2553 ยอมรับว่า ต้องล่าช้าออกไปบ้าง เพราะติดขัดเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ เนื่องจากการประชุมพิจารณางบประมาณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ประท้วง โดยระบุว่า การจัดทำงบประมาณปี 2553 ดำเนินการผิดขั้นตอน ทำให้ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2553 ยังไม่ผ่านสภา และยังต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเสร็จก่อน จึงทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยราชการทั้งประเทศต้องล่าช้าออกไปทั้งหมด ทั้งที่ควรเบิกได้ตั้งแต่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาแล้ว
“กระทรวงการคลัง ก็ให้เบิกจ่ายงบประมาณได้บ้าง แต่เป็นจำนวนไม่มากนัก เพราะ พ.ร.บ.ยังไม่ผ่าน ทำให้การจัดทำโครงการต่างๆ ของหน่วยราชการต่อล่าช้าออกไปหมดทั้งประเทศ ส่วนของ ททท.เองก็ถูกกระทบบ้างเช่นกัน ซึ่งก็ห่วงว่าจะกระทบต่อโครงการหรือกิจกรรมขนาดใหญ่ที่วางไว้ตามแผนงานประจำปีเช่นกัน”
สำหรับการประชุมผู้นำอาเซียนที่จะมีขึ้นปลายสัปดาห์นี้ (23-25 ต.ค.52) ททท.ได้ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ จัดนำเที่ยวให้แก่ผู้นำอาเซียน ผู้ติดตาม และ สื่อมวลชน ด้วย แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากต้องการรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้นำ ซึ่ง ททท.ได้จัดทำแผ่นซีดี พร้อมเอกสารภาษาอังกฤษ แนะนำแหล่งท่องเที่ยว ไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ร่วมงาน คณะสื่อมวลชน รวมกว่า 1,200 คน คาดว่า ถ้าการประชุมผู้นำอาเซียนผ่านพ้นไปด้วยดี แหล่งท่องเที่ยวย่านหัวหิน ชะอำ จะถูกบอกต่อจากผู้มาร่วมงานมากขึ้น และ ภาพลักษณ์ของประเทศไทยด้านความปลอดภัยในสายตานักท่องเที่ยวก็จะดีขึ้นตามไปด้วย
นายชัยสงค์ ชูฤทธิ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการจัดพิมพ์หนังสือคู่มือเดินทางท่องเที่ยวชื่อ “15 ตลาดบก 16 ตลาดน้ำ” โดยรวบรวมเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวประเภทตลาดโบราณ และตลาดน้ำ เช่น ตลาดโก้งโค้ง จ.อยุธยา ตลาดบ้านใหม่ จ.ฉะเชิงเทรา ตลาดคลองสวนร้อยปี จ.ฉะเชิงเทรา ตลาดน้ำอัมพวา เป็นต้น โดยคัดเฉพาะที่อยู่ในพื้นที่ภาคกลาง นำเสนอในรูปแบบไกด์บุ๊ก จำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวที่สนใจ โดยใช้งบราว 1.5 ล้านบาท สำหรับจัดพิมพ์ 5 หมื่นเล่ม เริ่มจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้ประมาณต้นเดือน พ.ย.ศกนี้ ในราคาเล่มละ 50 บาท ที่สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่ต้องจำหน่าย เพราะจะได้ผู้ที่ต้องการจริงๆ
ทั้งนี้ ระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา กระแสการเดินทางท่องเที่ยวตลาดโบราณ และตลาดน้ำของกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยเติบโตต่อเนื่อง จำนวนนักท่องเที่ยวรูปแบบนี้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 30-40% และมั่นใจว่า จะยังอยู่ในเทรนด์การท่องเที่ยวของคนไทยไปอีกนาน เพราะเป็นลักษณะการท่องเที่ยวที่เหมาะกับทุกเพศวัย และกลุ่มครอบครัว สามารถเดินทางแบบเช้าไปเย็นกลับได้ อีกทั้งการท่องเที่ยวรูปแบบนี้ยังได้ความรู้ในรูปแบบวัฒนธรรมวิถีชีวิตชุมชนในสมัยก่อน ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวรูปแบบนี้ก็ไม่แพงเหมาะกับสภาวะทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวตลาดโบราณ หรือ ตลาดเก่า กลุ่มคนไทยจะให้ความสำคัญมากกว่าชาวต่างชาติ เพราะเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวที่ได้อารมณ์แบบย้อยยุคไปสมัยวัยเยาว์ หรือเด็กๆ อาจไปเห็นหรือเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนในสมัยเก่า เปรียบเทียบความแตกต่างกันได้ แต่ชาวต่างชาติจะไม่สามารถรับรู้รูปแบบความแตกต่างนี้ได้ เพราะไม่เคยอยู่ประเทศไทยมาก่อน ดังนั้น หากจะนำเสนอตลาดชาวต่างชาติ ต้องมีจุดขายที่น่าสนใจ เช่น เรื่องของตลาดน้ำ มีเรือชาวบ้านมาพายขายสินค้า แล้วคนซื้ออยู่บนฝั่ง เช่น ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
สำหรับกิจกรรมที่ ททท.จะดำเนินการตามแผนปีงบประมาณ 2553 ยอมรับว่า ต้องล่าช้าออกไปบ้าง เพราะติดขัดเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ เนื่องจากการประชุมพิจารณางบประมาณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ประท้วง โดยระบุว่า การจัดทำงบประมาณปี 2553 ดำเนินการผิดขั้นตอน ทำให้ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2553 ยังไม่ผ่านสภา และยังต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเสร็จก่อน จึงทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยราชการทั้งประเทศต้องล่าช้าออกไปทั้งหมด ทั้งที่ควรเบิกได้ตั้งแต่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาแล้ว
“กระทรวงการคลัง ก็ให้เบิกจ่ายงบประมาณได้บ้าง แต่เป็นจำนวนไม่มากนัก เพราะ พ.ร.บ.ยังไม่ผ่าน ทำให้การจัดทำโครงการต่างๆ ของหน่วยราชการต่อล่าช้าออกไปหมดทั้งประเทศ ส่วนของ ททท.เองก็ถูกกระทบบ้างเช่นกัน ซึ่งก็ห่วงว่าจะกระทบต่อโครงการหรือกิจกรรมขนาดใหญ่ที่วางไว้ตามแผนงานประจำปีเช่นกัน”
สำหรับการประชุมผู้นำอาเซียนที่จะมีขึ้นปลายสัปดาห์นี้ (23-25 ต.ค.52) ททท.ได้ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ จัดนำเที่ยวให้แก่ผู้นำอาเซียน ผู้ติดตาม และ สื่อมวลชน ด้วย แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากต้องการรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้นำ ซึ่ง ททท.ได้จัดทำแผ่นซีดี พร้อมเอกสารภาษาอังกฤษ แนะนำแหล่งท่องเที่ยว ไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ร่วมงาน คณะสื่อมวลชน รวมกว่า 1,200 คน คาดว่า ถ้าการประชุมผู้นำอาเซียนผ่านพ้นไปด้วยดี แหล่งท่องเที่ยวย่านหัวหิน ชะอำ จะถูกบอกต่อจากผู้มาร่วมงานมากขึ้น และ ภาพลักษณ์ของประเทศไทยด้านความปลอดภัยในสายตานักท่องเที่ยวก็จะดีขึ้นตามไปด้วย