กรุงศรีไอแมกซ์ ปลี้ม 9 เดือนที่ผ่านมา โต 25% เหตุมีหนังเข้าฉายมากขึ้น และกระแสหนังสามมิติมาแรง ล่าสุด ออกบัตร IMAX Club Card ขยายฐาน
นายจิม แพ็ตเตอร์ ผู้จัดการทั่วไป โรงภาพยนตร์กรุงศรี ไอแมกซ์ เปิดเผยว่า การเติบโตของโรงภาพยนตร์กรุงศรี ไอแมกซ์ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้ปรับขยายคุณภาพและเสียง เพื่อสร้างความแตกต่างจากระบบ 3 มิติ ดิจิตอลในโรงภาพยนตร์อื่นๆ โดยไอแมกซ์ได้ยกระดับการ “โพลาไรซ์” หรือความเป็น 3 มิติ ให้ชัดเจน และทำให้ภาพที่ฉายใกล้ชิดกับผู้ชมมากยิ่งขึ้น ส่วนระบบแสงสว่างและความคมชัดของภาพได้ปรับปรุงใหม่ให้สว่างเพิ่มขึ้นเป็น 10 K ซึ่งเทียบกับโรงภาพยนตร์ดิจิตอล 3 มิติ ในปัจจุบันจะอยู่ที่ 2K พร้อมทั้งนำเข้าเครื่องฉายซับไตเติลใหม่ราคากว่า 4 ล้านบาท ทำให้แสงและความเข้มของการฉายซับไตเติลคมชัดมากยิ่งขึ้น
ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา โรงภาพยนตร์กรุงศรี ไอแมกซ์ ได้นำภาพยนตร์เข้ามาฉายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภาพยนตร์ฮอลลีวูดระดับบล็อกบัสเตอร์ ที่นำเข้ามาฉายทั้งระบบ 3 มิติ และระบบ DMR ล้วนแต่เป็นภาพยนตร์ทำเงินทั้งสิ้น อีกทั้งได้รับผลดีจากเทรนด์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในต่างประเทศกำลังนิยมสร้างภาพยนตร์ให้เป็นระบบ 3 มิติมากขึ้น
ล่าสุด บริษัทได้รุกตลาดด้วยการออกบัตรสมาชิก IMAX Club Card ขึ้นเป็นครั้งแรก ค่าสมัครรายละ 1,800 บาท พร้อมรับสิทธิประโยชน์พิเศษมากมายรวมมูลค่ากว่า 3,600 บาท ซึ่งการออกบัตรสมาชิก IMAX Club Card ขึ้นมาในครั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาฐานลูกค้าเก่าและสร้างฐานลูกค้าใหม่ ตลอดจนคาดหวังให้ลูกค้าเก่าแนะนำลูกค้าใหม่แบบปากต่อปาก
สำหรับการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมานั้น รายได้รวมเติบโต 25% เพราะได้ทำการตลาดแบบ 360 องศา แบบ Do More คือ ทำหนักขึ้น ความถี่เพิ่มขึ้น รุนแรงขึ้น และเจาะกลุ่มเป้าหมายแบบ Segmentation มากขึ้น ทั้งในส่วนของการจัดอีเวนต์และโปรโมชันต่างๆ
นอกจากนี้ ในส่วนของการนำภาพยนตร์เข้าฉายก็เพิ่มมากขึ้น ในปีนี้มีภาพยนตร์เข้าฉาย 9 เรื่อง เป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูด 6 เรื่อง ภาพยนตร์ 3 มิติ ในระบบไอแมกซ์ 3 เรื่อง ซึ่งปีนี้เหลือภาพยนตร์ฮอลลีวูดอีก 2 เรื่องที่จะเข้าฉาย และในปีหน้า 2010 จะมีภาพยนตร์เข้าฉายเพิ่มมากขึ้นเป็น 12 เรื่อง ล้วนเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ และคาดว่า น่าจะทำรายได้ได้ดี เป็นภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด 9 เรื่อง ภาพยนตร์ 3 มิติในระบบไอแมกซ์ 3 เรื่อง
นายจิม แพ็ตเตอร์ ผู้จัดการทั่วไป โรงภาพยนตร์กรุงศรี ไอแมกซ์ เปิดเผยว่า การเติบโตของโรงภาพยนตร์กรุงศรี ไอแมกซ์ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้ปรับขยายคุณภาพและเสียง เพื่อสร้างความแตกต่างจากระบบ 3 มิติ ดิจิตอลในโรงภาพยนตร์อื่นๆ โดยไอแมกซ์ได้ยกระดับการ “โพลาไรซ์” หรือความเป็น 3 มิติ ให้ชัดเจน และทำให้ภาพที่ฉายใกล้ชิดกับผู้ชมมากยิ่งขึ้น ส่วนระบบแสงสว่างและความคมชัดของภาพได้ปรับปรุงใหม่ให้สว่างเพิ่มขึ้นเป็น 10 K ซึ่งเทียบกับโรงภาพยนตร์ดิจิตอล 3 มิติ ในปัจจุบันจะอยู่ที่ 2K พร้อมทั้งนำเข้าเครื่องฉายซับไตเติลใหม่ราคากว่า 4 ล้านบาท ทำให้แสงและความเข้มของการฉายซับไตเติลคมชัดมากยิ่งขึ้น
ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา โรงภาพยนตร์กรุงศรี ไอแมกซ์ ได้นำภาพยนตร์เข้ามาฉายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภาพยนตร์ฮอลลีวูดระดับบล็อกบัสเตอร์ ที่นำเข้ามาฉายทั้งระบบ 3 มิติ และระบบ DMR ล้วนแต่เป็นภาพยนตร์ทำเงินทั้งสิ้น อีกทั้งได้รับผลดีจากเทรนด์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในต่างประเทศกำลังนิยมสร้างภาพยนตร์ให้เป็นระบบ 3 มิติมากขึ้น
ล่าสุด บริษัทได้รุกตลาดด้วยการออกบัตรสมาชิก IMAX Club Card ขึ้นเป็นครั้งแรก ค่าสมัครรายละ 1,800 บาท พร้อมรับสิทธิประโยชน์พิเศษมากมายรวมมูลค่ากว่า 3,600 บาท ซึ่งการออกบัตรสมาชิก IMAX Club Card ขึ้นมาในครั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาฐานลูกค้าเก่าและสร้างฐานลูกค้าใหม่ ตลอดจนคาดหวังให้ลูกค้าเก่าแนะนำลูกค้าใหม่แบบปากต่อปาก
สำหรับการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมานั้น รายได้รวมเติบโต 25% เพราะได้ทำการตลาดแบบ 360 องศา แบบ Do More คือ ทำหนักขึ้น ความถี่เพิ่มขึ้น รุนแรงขึ้น และเจาะกลุ่มเป้าหมายแบบ Segmentation มากขึ้น ทั้งในส่วนของการจัดอีเวนต์และโปรโมชันต่างๆ
นอกจากนี้ ในส่วนของการนำภาพยนตร์เข้าฉายก็เพิ่มมากขึ้น ในปีนี้มีภาพยนตร์เข้าฉาย 9 เรื่อง เป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูด 6 เรื่อง ภาพยนตร์ 3 มิติ ในระบบไอแมกซ์ 3 เรื่อง ซึ่งปีนี้เหลือภาพยนตร์ฮอลลีวูดอีก 2 เรื่องที่จะเข้าฉาย และในปีหน้า 2010 จะมีภาพยนตร์เข้าฉายเพิ่มมากขึ้นเป็น 12 เรื่อง ล้วนเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ และคาดว่า น่าจะทำรายได้ได้ดี เป็นภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด 9 เรื่อง ภาพยนตร์ 3 มิติในระบบไอแมกซ์ 3 เรื่อง