มอคโคน่า โดดสมรภูมิตลาดกาแฟดูแลรูปร่าง 4,000 ล้านบาท แตกไลน์ “อินเชพ- แคลพลัส” ชูกลยุทธ์ราคาล่อใจสาวในเมืองใส่ใจรูปร่าง พร้อมสร้างเซกเมนต์กาแฟแคลเซียม ทะลวงกลุ่มผู้ชาย เปิดเกมสร้างตลาดดันแบรนด์ติดลมบนชิงส่วนแบ่งเนสกาแฟ โปรสลิม ปีแรกกวาดแชร์ไม่ต่ำกว่า 10% จากช่องทางค้าปลีกมูลค่า 800 ล้านบาท
นายกิตติภูมิ ตันติเวสส ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ซาร่าลี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟสำเร็จรูปมอคโคน่า ทรีโอ เปิดเผยว่า บริษัทได้แตกไลน์กาแฟทรีอินวัน ภายใต้ มอคโคน่า ทรีโอ พลัส อิน เชพ และมอคโคน่า พลัส แคล พลัส ลงตลาดกาแฟด้านดูแลรูปร่างและอื่นๆ มูลค่า 4,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นตลาดที่มีการเติบโตมากกว่า 10% ขึ้นไป อีกทั้งยังพบว่า คู่แข่งในตลาด 80% จำหน่ายในธุรกิจขายตรง ซึ่งเนเจอร์กิฟ เป็นผู้นำตลาด ส่วนอีก 20% วางจำหน่ายในช่องทางค้าปลีก ซึ่งปัจจุบันคู่แข่งหลัก คือ เนสกาแฟ โปรสลิม และบอดี้เชฟ เป็นต้น
สำหรับกลยุทธ์การตลาดบริษัท มุ่งโฟกัสในเรื่องของรสชาติควบคู่กับผลที่วัดได้ ซึ่งบริษัทได้เตรียมจัดงานประกวดรูปร่างขึ้น พร้อมกันนี้ยังวางราคาสินค้าถูกกว่าคู่แข่ง คือ ขนาด 10 ซอง ราคา 99 บาท เมื่อเทียบกับเนสกาแฟ โปรสลิม ขนาด 10 ซอง ราคา 100 บาทขึ้นไป โดยในช่วงแรกเน้นทำตลาดกลุ่มคนเมือง วางกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้หญิงเป็นหลัก ล่าสุดเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ “ตอง-ภัครมัย โปตระนันทน์” เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว จากงบการตลาดทั้งปีของกลุ่มกาแฟมอคโคน่ามากกว่า 150 ล้านบาท
อีกทั้งยังสร้างความแตกต่างด้วยการสร้างเซกเมนต์กาแฟที่มีส่วนผสมของแคลเซียม เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชายที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ จากปัจจุบันตลาดดังกล่าว เซกเมนต์ดูแลรูปร่างสัดส่วน 90% ที่เหลืออีก 10% เป็นอื่นๆ โดยบริษัทได้เตรียมแจกสินค้าชงชิมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านถ้วย ทั้งนี้ตั้งเป้าปีแรกมีส่วนแบ่งไม่ต่ำกว่า 10% จากตลาดในช่องทางค้าปลีกมูลค่า 800 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น รายได้จากมอคโคน่า พลัส อินเชฟ 50 % และมอคโคน่า พลัส แคล พลัส 50%
สภาพตลาดกาแฟสำเร็จรูปมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น กาแฟทรีอินวันมูลค่า 9,100 ล้านบาท หรือสัดส่วน 65% เติบโต 17-18% ส่วนกาแฟผงสำเร็จรูปมูลค่า 4,900 ล้านบาท ในเชิงปริมาณติดลบ แต่ในเชิงมูลค่าเติบโตจากการที่สินค้าปรับราคาขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมอคโคน่าเป็นอันดับ 3 ของตลาดทรีอินวัน ครองส่วนแบ่ง 8% คาดว่าสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 10% ส่วนอันดับ 1 เนสกาแฟ มีส่วนแบ่ง 63% และซูเปอร์คอฟฟี่ 17-18%
นายกิตติภูมิ ตันติเวสส ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ซาร่าลี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟสำเร็จรูปมอคโคน่า ทรีโอ เปิดเผยว่า บริษัทได้แตกไลน์กาแฟทรีอินวัน ภายใต้ มอคโคน่า ทรีโอ พลัส อิน เชพ และมอคโคน่า พลัส แคล พลัส ลงตลาดกาแฟด้านดูแลรูปร่างและอื่นๆ มูลค่า 4,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นตลาดที่มีการเติบโตมากกว่า 10% ขึ้นไป อีกทั้งยังพบว่า คู่แข่งในตลาด 80% จำหน่ายในธุรกิจขายตรง ซึ่งเนเจอร์กิฟ เป็นผู้นำตลาด ส่วนอีก 20% วางจำหน่ายในช่องทางค้าปลีก ซึ่งปัจจุบันคู่แข่งหลัก คือ เนสกาแฟ โปรสลิม และบอดี้เชฟ เป็นต้น
สำหรับกลยุทธ์การตลาดบริษัท มุ่งโฟกัสในเรื่องของรสชาติควบคู่กับผลที่วัดได้ ซึ่งบริษัทได้เตรียมจัดงานประกวดรูปร่างขึ้น พร้อมกันนี้ยังวางราคาสินค้าถูกกว่าคู่แข่ง คือ ขนาด 10 ซอง ราคา 99 บาท เมื่อเทียบกับเนสกาแฟ โปรสลิม ขนาด 10 ซอง ราคา 100 บาทขึ้นไป โดยในช่วงแรกเน้นทำตลาดกลุ่มคนเมือง วางกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้หญิงเป็นหลัก ล่าสุดเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ “ตอง-ภัครมัย โปตระนันทน์” เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว จากงบการตลาดทั้งปีของกลุ่มกาแฟมอคโคน่ามากกว่า 150 ล้านบาท
อีกทั้งยังสร้างความแตกต่างด้วยการสร้างเซกเมนต์กาแฟที่มีส่วนผสมของแคลเซียม เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชายที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ จากปัจจุบันตลาดดังกล่าว เซกเมนต์ดูแลรูปร่างสัดส่วน 90% ที่เหลืออีก 10% เป็นอื่นๆ โดยบริษัทได้เตรียมแจกสินค้าชงชิมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านถ้วย ทั้งนี้ตั้งเป้าปีแรกมีส่วนแบ่งไม่ต่ำกว่า 10% จากตลาดในช่องทางค้าปลีกมูลค่า 800 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น รายได้จากมอคโคน่า พลัส อินเชฟ 50 % และมอคโคน่า พลัส แคล พลัส 50%
สภาพตลาดกาแฟสำเร็จรูปมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น กาแฟทรีอินวันมูลค่า 9,100 ล้านบาท หรือสัดส่วน 65% เติบโต 17-18% ส่วนกาแฟผงสำเร็จรูปมูลค่า 4,900 ล้านบาท ในเชิงปริมาณติดลบ แต่ในเชิงมูลค่าเติบโตจากการที่สินค้าปรับราคาขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมอคโคน่าเป็นอันดับ 3 ของตลาดทรีอินวัน ครองส่วนแบ่ง 8% คาดว่าสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 10% ส่วนอันดับ 1 เนสกาแฟ มีส่วนแบ่ง 63% และซูเปอร์คอฟฟี่ 17-18%
