เถ้าแก่น้อยขยายไลน์ เตรียมเปิดฟาสต์ฟู้ดสไตล์สาหร่าย คาดสิ้นปีเห็นแน่ เน้นเปิดตามสถาบันการศึกษา ขณะที่ผู้กระจายสินค้าทำเรื่องขอขึ้นค่าขนส่ง เหตุน้ำมันแพงขึ้น ปีหน้ารุกหนักเปิดตัวแอมบาสเดอร์
นายอิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย สาหร่ายเถ้าแก่น้อย เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้กระจายสินค้าให้กับเถ้าแก่น้อย ได้ทำเรื่องขอปรับราคาค่าขนส่งมาแล้วโดยขอปรับขึ้นเฉลี่ย 3-5% เนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะหลังนี้ ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้คงจะมีการปรับค่าขนส่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของต้นทุนวัตถุดิบสาหร่ายที่นำเข้ามาจากเกาหลีนั้น แม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าในไทย แต่ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ส่งผลให้ดีมานด์ในตลาดรวมลดน้อยลง เป็นผลดีที่ราคาได้ตกลงมาอย่างน้อย 10% แล้ว ซึ่งก็จะมาช่วยทดแทนในส่วนที่การขนส่งขึ้นราคาได้ ส่วนแผนการตลาดนั้นยังมีเต็มที่ โดยปีหน้าคาดว่าจะใช้งบตลาดเพิ่มอีกเท่าตัวจากปีนี้ที่ใช้ 50 ล้านบาท อีกทั้งเตรียมใช้กลยุทธ์แบรนด์แอมบาสเดอร์ด้วยเป็นครั้งแรก รวมทั้งมีเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากตลาดรวมปีละ 1% อีกด้วย โดยมีกำลังผลิตประมาณ 1 ล้านแผ่นต่อวัน
ปัจจุบันบริษัทมียอดขายสาหร่ายเถ้าแก่น้อยประมาณ 1,300-1,400 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า ปีนี้จะเติบโตจากปีที่แล้ว 10% และเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งตลาดรวมกว่า 74% ส่วนอันดับที่สองคือซีลิโกะแชร์ 10-20% จากมูลค่าตลาดรวมมากว่า 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็น สาหร่ายทอด 70% สาหร่ายอบ 15% และอื่นๆ 15% ซึ่งสาหร่ายเถ้าแก่น้อยมีส่วนแบ่งในตลาดประเภททอด ถึง 80% โดยรายได้นั้นแบ่งเป็นตลาดในประเทศ 70% และตลาดส่งออก 30% (ทั่วเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่นและเกาหลี)
นายอิทธิพัทธ์ กล่าวต่อว่า บริษัทมีแผนขยายไลน์ธุรกิจ โดยการเตรียมขยายธุรกิจเปิดร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดสไตล์สาหร่ายเถ้าแก่น้อย เมนูคงเป็นทางด้านสาหร่ายเป็นหลัก ลงทุนประมาณ 8 ล้านบาทต่อสาขา มีประมาณ 20-30 ที่นั่ง จะเน้นทำเลตามหน้าสถาบันการศึกษา แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดมากกว่านี้ได้
นายอิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย สาหร่ายเถ้าแก่น้อย เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้กระจายสินค้าให้กับเถ้าแก่น้อย ได้ทำเรื่องขอปรับราคาค่าขนส่งมาแล้วโดยขอปรับขึ้นเฉลี่ย 3-5% เนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะหลังนี้ ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้คงจะมีการปรับค่าขนส่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของต้นทุนวัตถุดิบสาหร่ายที่นำเข้ามาจากเกาหลีนั้น แม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าในไทย แต่ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ส่งผลให้ดีมานด์ในตลาดรวมลดน้อยลง เป็นผลดีที่ราคาได้ตกลงมาอย่างน้อย 10% แล้ว ซึ่งก็จะมาช่วยทดแทนในส่วนที่การขนส่งขึ้นราคาได้ ส่วนแผนการตลาดนั้นยังมีเต็มที่ โดยปีหน้าคาดว่าจะใช้งบตลาดเพิ่มอีกเท่าตัวจากปีนี้ที่ใช้ 50 ล้านบาท อีกทั้งเตรียมใช้กลยุทธ์แบรนด์แอมบาสเดอร์ด้วยเป็นครั้งแรก รวมทั้งมีเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากตลาดรวมปีละ 1% อีกด้วย โดยมีกำลังผลิตประมาณ 1 ล้านแผ่นต่อวัน
ปัจจุบันบริษัทมียอดขายสาหร่ายเถ้าแก่น้อยประมาณ 1,300-1,400 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า ปีนี้จะเติบโตจากปีที่แล้ว 10% และเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งตลาดรวมกว่า 74% ส่วนอันดับที่สองคือซีลิโกะแชร์ 10-20% จากมูลค่าตลาดรวมมากว่า 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็น สาหร่ายทอด 70% สาหร่ายอบ 15% และอื่นๆ 15% ซึ่งสาหร่ายเถ้าแก่น้อยมีส่วนแบ่งในตลาดประเภททอด ถึง 80% โดยรายได้นั้นแบ่งเป็นตลาดในประเทศ 70% และตลาดส่งออก 30% (ทั่วเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่นและเกาหลี)
นายอิทธิพัทธ์ กล่าวต่อว่า บริษัทมีแผนขยายไลน์ธุรกิจ โดยการเตรียมขยายธุรกิจเปิดร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดสไตล์สาหร่ายเถ้าแก่น้อย เมนูคงเป็นทางด้านสาหร่ายเป็นหลัก ลงทุนประมาณ 8 ล้านบาทต่อสาขา มีประมาณ 20-30 ที่นั่ง จะเน้นทำเลตามหน้าสถาบันการศึกษา แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดมากกว่านี้ได้