xs
xsm
sm
md
lg

อินเด็กซ์ชู“ติจิตอลติงกิ้ง” อีเวนต์รัฐเฟื่องหวังโต35%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

งานเข้าอินเด็กซ์ หน่วยงานภาครัฐเทงบจัดอีเวนต์ หวังสร้างผลงาน ส่งรายได้ครึ่งปีแรกโตกว่า 54% คิดเป็นมูลค่า 909 ล้านบาท ทั้งปีเชื่อเอื้อมได้เกิน 1,500 ล้านบาท เดินหน้าชูกลยุทธ์คิดแบบ “ติจิตอล ติงกิ้ง” ตอบรับกระแสยุคดิจิตอล

นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอีเวนต์ในปีนี้ น่าจะเติบโต 10% จากปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตราว 5-6% เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจครึ่งปีหลังนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น บวกกับหน่วยงานภาครัฐเองก็เริ่มอัดงบมาใช้กับสื่อมากขึ้น

ในส่วนของอินเด็กซ์ ปีนี้ถือเป็นปีแรก ที่รายได้กว่า 60% มาจากลูกค้าภาครัฐ และอีก 40% มาจากเอกชน จากปกติรายได้ 70% จะมาจากเอกชน และอีก 30% มาจากภาครัฐ โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีงานภาครัฐเข้ามาอยู่หลายงาน เช่น โปรเจกต์ ไอ เลิฟ ไทยแลนด์ ของสำนักนายกรัฐมนตรี และงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ขณะที่งานในส่วนภาคเอกชน ก็ยังมีแนวโน้มอัตราการเติบโตเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของขายตรง, รถยนต์ และกลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักต์ ส่งผลให้รายได้รวมครึ่งปีแรก มีอัตราการเติบโตสูงถึง 54% คิดเป็นมูลค่ากว่า 909 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 589.17 ล้านบาท มาจาก 8 กลุ่มธุรกิจ คือ Event Marketing, Equipment Supply, Production, Communication, Catering Service, TV-Multimedia, Personal Branding, และ Online Agency ซึ่งรายได้หลักยังมาจากอีเวนต์ มาร์เก็ตติ้ง  

อย่างไรก็ตาม นอกจากงานภาครัฐที่เข้ามามากขึ้น ส่วนสำคัญอีกส่วนยังมาจากเรื่องของกลยุทธ์การทำงานของอินเด็กซ์ เรียกว่า กลยุทธ์ “Spider Web Strategy” ที่ได้คิดค้นวิธีคิดแบบ ดิจิตอล ติงกิ้ง (Digital Thinking) หรือการคิดเริ่มต้นจากสิ่งหนึ่งเพื่อเชื่อมโยงไปยังอีกสิ่งหนึ่งบนไอเดียเดียวกัน จะโยงไปสู่กลุ่มทาร์เก็ต ที่ปัจจุบันไลฟ์สไตล์จะมีความทันสมัย สนใจในเทคโนโลยี ส่งผลให้งานอีเวนต์จึงมีช่องทางการทำอีเวนต์แบบดิจิตอลตามมา ถือเป็นการคิดแบบ ดิจิตอล ติงกิ้ง จะช่วยให้งานอีเวนต์ของลูกค้ามีประสิทธิภาพ ขณะที่เม็ดเงินที่นำมาใช้นั้น อาจจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ลดช่วยลดต้นทุนการทำตลาดได้มาก

ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้นำวิธีการคิดแบบ ดิจิตอล ติงกิ้ง นำเสนอแก่ลูกค้า และเริ่มทดลองใช้ไปบ้างแล้ว โดยลูกค้าให้การตอบรับที่ดี เช่น โปรเจกต์ ไอเลิฟ ไทยแลนด์ จากเดิมที่เป็นโปรเจกต์ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ถูกต่อยอดไปยังโออิชิ, กระดาษ ดั๊บเบิล เอ, อิมแพค เมืองทองธานี ในการเข้าร่วมโปรเจกต์ดังกล่าว ในรูปแบบการทำซีเอสอาร์ผ่านสื่อดิจิตอล ภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการก็ได้ภาพลักษณ์ที่ดีตามมา นอกจากนี้ในแง่ของบิซิเนสแล้ว ที่ผ่านมา กับการสร้างแบรนด์ “ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค” ก็ยังมีการนำเอาแนวคิด ดิจิตอล ติงกิ้ง เข้ามาใช้ เช่น มีการทำอีเวนท์ผ่านอินเทอร์เนต กับการให้เลือกเพลงร้องของดี้-นิติพงษ์

การทำงานในครึ่งปีหลังนี้จะเน้นกลยุทธ์ “Spider Web Strategy” นำเสนอให้ลูกค้าหันมาใช้มากขึ้น ซึ่งเชื่อกันว่าลูกค้าจะเทงบมาใช้กระตุ้นตลาดกัน หลังจากที่อั้นไว้ตั้งแต่ต้นปี บวกกับลูกค้าภาครัฐ ซึ่งกำลังเตรียมงานไว้อีกหลายโปรเจกต์ จึงมั่นใจว่าภาพรวมรายได้ทั้งปี จากเดิมตั้งเป้าโตที่ 20% คิดเป็นมูลค่าราว 1,500 ล้านบาท คาดว่าน่าจะเติบโตได้ถึง 30-35% แน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น