ตลาดรถยนต์เริ่มมีสัญญาณบวก หลังตัวเลขยอดขายรถยนต์เดือนกรกฎาคมหดตัวเพียง 3.6% ปิดยอด 43,156 คัน พยุงยอดขายสะสมตั้งแต่ต้นปีลดลงเหลือ 25% ยอดขายปิกอัพเริ่มกระเตื้องโต 4.5% เชื่อโปรดักซ์ใหม่ช่วยกระตุ้นยอดขายได้
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกรกฎาคม 2552 ปริมาณการขาย 43,156 คัน ลดลง 3.6% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 17,533 คัน ลดลง 9.1% รถเพื่อการพาณิชย์ 25,623 คัน เพิ่มขึ้น 0.5% รวมทั้ง รถปิกอัพขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 22,255 คัน เพิ่มขึ้น 4.5%
สถิติการขายสะสม 7 เดือนของปี 2552 มีปริมาณทั้งสิ้น 274,584 คัน ลดลง 25.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น รถยนต์นั่ง 113,589 คัน ลดลง 12.4% รถเพื่อการพาณิชย์ 160,995 คัน ลดลง 31.9% รวมทั้ง รถปิกอัพขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้จำนวน 139,951 คัน ลดลง 31.1%
“ตลาดรถยนต์เดือนกรกฎาคม มีปริมาณการขาย 43,156 คัน ลดลง 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 0.5% รวมถึงตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มีอัตราการเติบโต 4.5% เป็นการลดลงน้อยที่สุดในรอบ 14 เดือน แต่ทั้งนี้เนื่องจากยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่นำมาเปรียบเทียบปรับลดลงอย่างมาก อันเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับขึ้นสูงถึง 44บาท/ลิตร” นายวุฒิกร กล่าว
ด้านตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 9.1% ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจเพื่อรอการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ และยอดขายในปีที่ผ่านมาที่สูง เนื่องจากกระแสตอบรับรถยนต์พลังงาน อี20 อีกทั้ง ในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมาตลาดรถยนต์นั่งสะสมมีอัตราการเติบโตลดลง 12.4% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 31.9% ทั้งนี้หากพิจารณาจากการขายตั้งแต่ต้นปี พบว่าตลาดรถยนต์โดยรวมมีแนวโน้มดีขึ้น
อย่างไรก็ตามตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม คาดว่าจะมีปริมาณการขายทรงตัว แม้ว่าตามสถิติการขายแล้ว เดือนสิงหาคมจะมียอดขายน้อยเป็นอันดับ 4 ของปี แต่การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด อาทิ โตโยต้า คัมรี ไฮบริด และ โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ น่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดรถยนต์ แต่ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง อาจมีผลทางจิตวิทยาต่อผู้บริโภคซึ่งมีผลต่อระบบเศรษฐกิจรวมถึงตลาดรถยนต์
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกรกฎาคม 2552 ปริมาณการขาย 43,156 คัน ลดลง 3.6% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 17,533 คัน ลดลง 9.1% รถเพื่อการพาณิชย์ 25,623 คัน เพิ่มขึ้น 0.5% รวมทั้ง รถปิกอัพขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 22,255 คัน เพิ่มขึ้น 4.5%
สถิติการขายสะสม 7 เดือนของปี 2552 มีปริมาณทั้งสิ้น 274,584 คัน ลดลง 25.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น รถยนต์นั่ง 113,589 คัน ลดลง 12.4% รถเพื่อการพาณิชย์ 160,995 คัน ลดลง 31.9% รวมทั้ง รถปิกอัพขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้จำนวน 139,951 คัน ลดลง 31.1%
“ตลาดรถยนต์เดือนกรกฎาคม มีปริมาณการขาย 43,156 คัน ลดลง 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 0.5% รวมถึงตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มีอัตราการเติบโต 4.5% เป็นการลดลงน้อยที่สุดในรอบ 14 เดือน แต่ทั้งนี้เนื่องจากยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่นำมาเปรียบเทียบปรับลดลงอย่างมาก อันเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับขึ้นสูงถึง 44บาท/ลิตร” นายวุฒิกร กล่าว
ด้านตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 9.1% ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจเพื่อรอการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ และยอดขายในปีที่ผ่านมาที่สูง เนื่องจากกระแสตอบรับรถยนต์พลังงาน อี20 อีกทั้ง ในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมาตลาดรถยนต์นั่งสะสมมีอัตราการเติบโตลดลง 12.4% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 31.9% ทั้งนี้หากพิจารณาจากการขายตั้งแต่ต้นปี พบว่าตลาดรถยนต์โดยรวมมีแนวโน้มดีขึ้น
อย่างไรก็ตามตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม คาดว่าจะมีปริมาณการขายทรงตัว แม้ว่าตามสถิติการขายแล้ว เดือนสิงหาคมจะมียอดขายน้อยเป็นอันดับ 4 ของปี แต่การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด อาทิ โตโยต้า คัมรี ไฮบริด และ โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ น่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดรถยนต์ แต่ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง อาจมีผลทางจิตวิทยาต่อผู้บริโภคซึ่งมีผลต่อระบบเศรษฐกิจรวมถึงตลาดรถยนต์
