“แพลทินัม” เดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง เทงบเพิ่มอีก 200 ล้านบาท รวมกว่า 2,500 ล้านบาท เนรมิตแพลทินัม รองรับขาช็อปทั้งไทยและเทศ ย้ำชัดย่านประตูน้ำยังคึกคัก โต้มรสุมเศรษฐกิจและไข้หวัด 2009 ผ่านไปได้
นายสุรชัย โชติจุฬางกูร ประธานกรรมการบริหาร และ นายชัชวาล พงษ์สุทธมนัส กรรมการบริหาร บริษัท เอส.พี.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ส์ แอนด์ ดีเวลล็อปเมนท์ ผู้พัฒนาและบริหารศูนย์ค้าส่ง เดอะแพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ร่วมเปิดเผยว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ บวกกับสถานการณ์ไข้หวัด 2009 พบว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อทั้งไทยและชาวต่างชาติ ที่เข้ามาชอปปิ้งในย่านประตูน้ำและภายใน เดอะแพลทินัม แฟชั่นมอลล์ แต่อย่างไร
ทั้งนี้ สำหรับภาพรวมของ เดอะแพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ปัจจุบันพบว่ายังมีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯประมาณ 40,000-50,000 คนต่อวัน โดยวันธรรมดาอยู่ที่ 30,000-40,000 คนต่อวัน และในวันเสาร์-อาทิตย์ สูงถึง 50,000-60,000 คนต่อวัน นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า พฤติกรรมในการซื้อของลูกค้าเริ่มเปลี่ยนไป โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่มที่ซื้อในลักษณะค้าส่ง มีจำนวนการซื้อลดลงราว 15-20% แต่เนื่องจากกลุ่มลุกค้าที่นิยมซื้อแบบปลีกกลับมีเพิ่มขึ้น เหตุจากลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมจากที่เคยซื้อในห้างสรรพสินค้าที่มีราคาแพงกว่า หันมาเดินเลือกซื้อภายในเดอะแพลทินัม แฟชั่นมอลล์ แทน เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้น ทางบริษัทจึงมีความมั่นใจและพร้อมลงทุนต่อเนื่องในการที่จะทำให้พื้นที่ย่านประตูน้ำเป็นศูนย์กลางแฟชั่นสตรีทแฟร์ของโลก จึงอยากชวนนักลงทุนและผู้ประกอบการทั้งหลายให้เข้ามาลงทุนในย่านนี้ เพื่อพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์ค้าส่งค้าปลีกเสื้อผ้าแฟชั่นที่ไม่จำกัดรูปแบบ ราคาไม่แพง
ล่าสุด บริษัทได้ลงทุนต่อยอดธุรกิจแฟชั่นค้าส่งโครงการส่วนขยายเพิ่มเติมบริเวณหัวมุมสี่แยกประตูน้ำ ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่ในส่วนพลาซ่า 10,000 ตารางเมตร พื้นที่จอดรถ 10,0000 ตารางเมตร และพื้นที่ในส่วนโรงแรม 20,000 ตารางเมตร จากเดิมที่วางงบลงทุนไว้ที่ 2,300 ล้านบาท ต้องเพิ่มงบอีก 200 ล้านบาท เพื่อใช้ตกแต่งพื้นที่ในส่วนของโรงแรมเพิ่มเติม รวมเป็นงบลงทุนที่ใช้ทั้งหมด 2,500 ล้านบาท
คาดว่า พื้นที่ในส่วนของพลาซ่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ภายในปลายปี 2553 ซึ่งจะเป็นพื้นที่สำหรับเช่าทั้งหมด คิดเป็นจำนวนร้านค้าได้กว่า 2,000 ร้านค้า ส่วนโรงแรมจะเปิดดำเนินการได้ปลายปี 2554 โดยจะเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ภายใต้ชื่อ “โนโวเทล แพลทินัม” จำนวนห้องพักประมาณ 283 ห้อง ในราคาราว 3,000 บาทต่อคืน คาดว่าหลังเปิดให้บริการในพื้นที่ทั้งหมดนี้ในปี 2555 บริษัทมีรายได้ จากส่วนนี้ที่ 300 ล้านบาทในปีแรก
“การสร้างโรงแรมให้เป็นส่วนหนึ่งของ แพลทินัม เพราะต้องการอำนวยความสะดวกให้กลุ่มลูกค้าต่างชาติ หรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาชอปปิ้งในย่านประตูน้ำ ซึ่งเป็นโรงแรม 4 ดาว เนื่องจากย่านราชประสงค์มีโรงแรม 5 ดาว มากเพียงพอต่อความต้องการแล้ว ประกอบกับยอดเข้าพักของโรงแรม 4 ดาว บริเวณประตูน้ำนั้น ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน พบว่า มียอดสูงเป็นที่น่าพอใจมาก” นายสุรชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังได้เปิดตัวโครงการ “แพลทินัม สตรีท แฟชั่น ดีไซเนอร์ คอนเทสต์ 2009” เป็นปีที่ 2 เพื่อส่งเสริมศักยภาพและความสามารถในด้านแฟชั่นของดีไซเนอร์ไทย ให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกในอนาคตได้ และจะเป็นกำลังสำคัญที่จะผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของโลก โดยหากย่านประตูน้ำสามารถเป็นศูนย์กลางแฟชั่นได้ จะทำให้สัดส่วนชาวต่างชาติในทางเข้ามาซื้อสินค้าในย่านนี้เพิ่มขึ้นเป็น 40% จากปัจจุบันอยู่ที่ 20% พร้อมทำให้มูลค่าการส่งออกเสื้อผ้าแฟชั่นย่านประตูน้ำเพิ่มขึ้นไปอีก จากปัจจุบันที่ทำได้ปีละ 40,000-50,000 ล้านบาท ต่อปี
นายสุรชัย โชติจุฬางกูร ประธานกรรมการบริหาร และ นายชัชวาล พงษ์สุทธมนัส กรรมการบริหาร บริษัท เอส.พี.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ส์ แอนด์ ดีเวลล็อปเมนท์ ผู้พัฒนาและบริหารศูนย์ค้าส่ง เดอะแพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ร่วมเปิดเผยว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ บวกกับสถานการณ์ไข้หวัด 2009 พบว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อทั้งไทยและชาวต่างชาติ ที่เข้ามาชอปปิ้งในย่านประตูน้ำและภายใน เดอะแพลทินัม แฟชั่นมอลล์ แต่อย่างไร
ทั้งนี้ สำหรับภาพรวมของ เดอะแพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ปัจจุบันพบว่ายังมีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯประมาณ 40,000-50,000 คนต่อวัน โดยวันธรรมดาอยู่ที่ 30,000-40,000 คนต่อวัน และในวันเสาร์-อาทิตย์ สูงถึง 50,000-60,000 คนต่อวัน นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า พฤติกรรมในการซื้อของลูกค้าเริ่มเปลี่ยนไป โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่มที่ซื้อในลักษณะค้าส่ง มีจำนวนการซื้อลดลงราว 15-20% แต่เนื่องจากกลุ่มลุกค้าที่นิยมซื้อแบบปลีกกลับมีเพิ่มขึ้น เหตุจากลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมจากที่เคยซื้อในห้างสรรพสินค้าที่มีราคาแพงกว่า หันมาเดินเลือกซื้อภายในเดอะแพลทินัม แฟชั่นมอลล์ แทน เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้น ทางบริษัทจึงมีความมั่นใจและพร้อมลงทุนต่อเนื่องในการที่จะทำให้พื้นที่ย่านประตูน้ำเป็นศูนย์กลางแฟชั่นสตรีทแฟร์ของโลก จึงอยากชวนนักลงทุนและผู้ประกอบการทั้งหลายให้เข้ามาลงทุนในย่านนี้ เพื่อพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์ค้าส่งค้าปลีกเสื้อผ้าแฟชั่นที่ไม่จำกัดรูปแบบ ราคาไม่แพง
ล่าสุด บริษัทได้ลงทุนต่อยอดธุรกิจแฟชั่นค้าส่งโครงการส่วนขยายเพิ่มเติมบริเวณหัวมุมสี่แยกประตูน้ำ ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่ในส่วนพลาซ่า 10,000 ตารางเมตร พื้นที่จอดรถ 10,0000 ตารางเมตร และพื้นที่ในส่วนโรงแรม 20,000 ตารางเมตร จากเดิมที่วางงบลงทุนไว้ที่ 2,300 ล้านบาท ต้องเพิ่มงบอีก 200 ล้านบาท เพื่อใช้ตกแต่งพื้นที่ในส่วนของโรงแรมเพิ่มเติม รวมเป็นงบลงทุนที่ใช้ทั้งหมด 2,500 ล้านบาท
คาดว่า พื้นที่ในส่วนของพลาซ่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ภายในปลายปี 2553 ซึ่งจะเป็นพื้นที่สำหรับเช่าทั้งหมด คิดเป็นจำนวนร้านค้าได้กว่า 2,000 ร้านค้า ส่วนโรงแรมจะเปิดดำเนินการได้ปลายปี 2554 โดยจะเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ภายใต้ชื่อ “โนโวเทล แพลทินัม” จำนวนห้องพักประมาณ 283 ห้อง ในราคาราว 3,000 บาทต่อคืน คาดว่าหลังเปิดให้บริการในพื้นที่ทั้งหมดนี้ในปี 2555 บริษัทมีรายได้ จากส่วนนี้ที่ 300 ล้านบาทในปีแรก
“การสร้างโรงแรมให้เป็นส่วนหนึ่งของ แพลทินัม เพราะต้องการอำนวยความสะดวกให้กลุ่มลูกค้าต่างชาติ หรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาชอปปิ้งในย่านประตูน้ำ ซึ่งเป็นโรงแรม 4 ดาว เนื่องจากย่านราชประสงค์มีโรงแรม 5 ดาว มากเพียงพอต่อความต้องการแล้ว ประกอบกับยอดเข้าพักของโรงแรม 4 ดาว บริเวณประตูน้ำนั้น ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน พบว่า มียอดสูงเป็นที่น่าพอใจมาก” นายสุรชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังได้เปิดตัวโครงการ “แพลทินัม สตรีท แฟชั่น ดีไซเนอร์ คอนเทสต์ 2009” เป็นปีที่ 2 เพื่อส่งเสริมศักยภาพและความสามารถในด้านแฟชั่นของดีไซเนอร์ไทย ให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกในอนาคตได้ และจะเป็นกำลังสำคัญที่จะผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของโลก โดยหากย่านประตูน้ำสามารถเป็นศูนย์กลางแฟชั่นได้ จะทำให้สัดส่วนชาวต่างชาติในทางเข้ามาซื้อสินค้าในย่านนี้เพิ่มขึ้นเป็น 40% จากปัจจุบันอยู่ที่ 20% พร้อมทำให้มูลค่าการส่งออกเสื้อผ้าแฟชั่นย่านประตูน้ำเพิ่มขึ้นไปอีก จากปัจจุบันที่ทำได้ปีละ 40,000-50,000 ล้านบาท ต่อปี
