เซ็นทรัลปรับเป้ารายได้เติบโตปีนี้เหลือ 5% จากเดิมที่ตั้งไว้ 10% หลังครึ่งปีแรกอกหัก ยอดขายเติบโตต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ มองครึ่งปีหลังสถานการณ์อุ่นใจ ภาครัฐมุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจ งัดกลยุทธ์ชูกิจกรรมส่งเสริมการขายเรียกกำลังซื้อ ล่าสุด จัดงาน “Central International Watch Fair 2009” มั่นใจทั้งปียอดขายทะลุ 27,000 ล้านบาท เติบโต 5%
นางยุวดี จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า เดิมทางบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไว้ ว่า น่าจะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นจากปีก่อนที่ 10% จาก 25,000 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้มีการเปิดตัวสาขาใหม่อย่างน้อย 2 สาขา คือ เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เมื่อช่วงปลายปีก่อน และเซ็นทรัลพัทยา เมื่อเร็วๆ นี้
แต่หลังจากตัวเลขรายได้ของครึ่งปีแรกสรุปออกมา พบว่า กลับมีการเติบโตเพียง 5% ซึ่งการเติบโตที่เกิดขึ้นนี้มาจากสาขาใหม่เป็นหลัก ขณะที่สาขาเดิมนั้น ยอดขายทรงตัว ทั้งนี้ เนื่องจากครึ่งปีแรกมีปัจจัยทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลต่อกำลังซื้อให้ชะลอการใช้จ่ายลดลง
ดังนั้น หลังจากประเมินตัวเลขรายได้ครึ่งปีแรกแล้ว ทางบริษัทจึงได้มีการปรับแผนการเติบโตในปีนี้ไว้ที่ 5% เพราะมองเป็นตัวเลขการเติบโตที่น่าจะทำได้จริง ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ขณะเดียวกัน ถือเป็นการปรับเป้าตามสถานการณ์ และค่าจีดีพีของประเทศ ที่ปีนี้ก็มีอัตราการเติบโตลดลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีหลังนี้เชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆ น่าจะดีขึ้น และไม่น่ากังวลเท่าช่วงครึ่งปีแรก เพราะรัฐบาลเองก็พยายามแก้ไขปัญหาและกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจกต์อย่างเต็มที่ โดยรวมแล้วจึงไม่ได้มีความกังวลอะไรมากนัก
ทั้งนี้ โดยปกติครึ่งปีหลัง ถือเป็นช่วงที่มีการทำตลาด และเป็นช่วงการใช้จ่ายที่สูงกว่าครึ่งปีแรก ทางบริษัทจึงพร้อมเดินหน้าทำการตลาดกระตุ้นกำลังซื้อเต็มที่ โดยมุ่งเน้นในส่วนของกิจกรรมส่งเสริมการขาย และการจัดงานบิ๊กอีเวนต์ใหม่ๆ มากกว่าเรื่องของโปรโมชัน ลดแลกแจกแถม หรือทั้งปีนี้ บริษัทจะใช้งบการตลาดไม่ต่ำกว่า 1,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงในปีก่อน แต่ปีนี้จะใช้อย่างระมัดระวังและรอบคอบมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทจะมุ่งเน้นการจัดการภายใน เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น เชื่อว่า ทั้งปีน่าจะมีรายได้เติบโตขึ้นอย่างน้อย 5% คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 27,000 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทเดินหน้า จัดงาน Central International Watch Fair 2009 เป็นปีที่ 11 ภายใต้งบการจัดงานกว่า 55 ล้านบาท ที่ ชั้น3 ห้างเซ็นทรัล ชิดลม ระหว่างวันที่ 25-27 ก.ย.2552 โดยในงานนี้มีแบรนด์นาฬิกาดังเข้าร่วมกว่า 180 แบรนด์ อาทิ เช่น A.Lange&Sohne, Breguet, Cartier, Corum, Frank Muller, Omega และ Tag Heuer คาดว่าจะมียออดขายภายในงานไม่ต่ำกว่า 550 ล้านบาท
นางยุวดี กล่าวด้วยว่า ตลาดนาฬิการะดับบนนั้น ยังมองว่า เป็นตลาดที่ยังไปได้ดีอยู่ กลุ่มคนระดับสูงที่ชื่นชอบนาฬิกาก็ยังพร้อมจ่ายเพื่อเป็นเจ้าของนาฬิกาที่ตนชื่นชอบ โดยกลุ่มนาฬิการะดับ 2-3 แสนบาท เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด
นางยุวดี จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า เดิมทางบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไว้ ว่า น่าจะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นจากปีก่อนที่ 10% จาก 25,000 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้มีการเปิดตัวสาขาใหม่อย่างน้อย 2 สาขา คือ เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เมื่อช่วงปลายปีก่อน และเซ็นทรัลพัทยา เมื่อเร็วๆ นี้
แต่หลังจากตัวเลขรายได้ของครึ่งปีแรกสรุปออกมา พบว่า กลับมีการเติบโตเพียง 5% ซึ่งการเติบโตที่เกิดขึ้นนี้มาจากสาขาใหม่เป็นหลัก ขณะที่สาขาเดิมนั้น ยอดขายทรงตัว ทั้งนี้ เนื่องจากครึ่งปีแรกมีปัจจัยทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลต่อกำลังซื้อให้ชะลอการใช้จ่ายลดลง
ดังนั้น หลังจากประเมินตัวเลขรายได้ครึ่งปีแรกแล้ว ทางบริษัทจึงได้มีการปรับแผนการเติบโตในปีนี้ไว้ที่ 5% เพราะมองเป็นตัวเลขการเติบโตที่น่าจะทำได้จริง ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ขณะเดียวกัน ถือเป็นการปรับเป้าตามสถานการณ์ และค่าจีดีพีของประเทศ ที่ปีนี้ก็มีอัตราการเติบโตลดลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีหลังนี้เชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆ น่าจะดีขึ้น และไม่น่ากังวลเท่าช่วงครึ่งปีแรก เพราะรัฐบาลเองก็พยายามแก้ไขปัญหาและกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจกต์อย่างเต็มที่ โดยรวมแล้วจึงไม่ได้มีความกังวลอะไรมากนัก
ทั้งนี้ โดยปกติครึ่งปีหลัง ถือเป็นช่วงที่มีการทำตลาด และเป็นช่วงการใช้จ่ายที่สูงกว่าครึ่งปีแรก ทางบริษัทจึงพร้อมเดินหน้าทำการตลาดกระตุ้นกำลังซื้อเต็มที่ โดยมุ่งเน้นในส่วนของกิจกรรมส่งเสริมการขาย และการจัดงานบิ๊กอีเวนต์ใหม่ๆ มากกว่าเรื่องของโปรโมชัน ลดแลกแจกแถม หรือทั้งปีนี้ บริษัทจะใช้งบการตลาดไม่ต่ำกว่า 1,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงในปีก่อน แต่ปีนี้จะใช้อย่างระมัดระวังและรอบคอบมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทจะมุ่งเน้นการจัดการภายใน เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น เชื่อว่า ทั้งปีน่าจะมีรายได้เติบโตขึ้นอย่างน้อย 5% คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 27,000 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทเดินหน้า จัดงาน Central International Watch Fair 2009 เป็นปีที่ 11 ภายใต้งบการจัดงานกว่า 55 ล้านบาท ที่ ชั้น3 ห้างเซ็นทรัล ชิดลม ระหว่างวันที่ 25-27 ก.ย.2552 โดยในงานนี้มีแบรนด์นาฬิกาดังเข้าร่วมกว่า 180 แบรนด์ อาทิ เช่น A.Lange&Sohne, Breguet, Cartier, Corum, Frank Muller, Omega และ Tag Heuer คาดว่าจะมียออดขายภายในงานไม่ต่ำกว่า 550 ล้านบาท
นางยุวดี กล่าวด้วยว่า ตลาดนาฬิการะดับบนนั้น ยังมองว่า เป็นตลาดที่ยังไปได้ดีอยู่ กลุ่มคนระดับสูงที่ชื่นชอบนาฬิกาก็ยังพร้อมจ่ายเพื่อเป็นเจ้าของนาฬิกาที่ตนชื่นชอบ โดยกลุ่มนาฬิการะดับ 2-3 แสนบาท เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด
