เครือเบทาโกร เสริมความแกร่งธุรกิจค้าส่ง เปิดเบทาโกร ช็อปทั่วประเทศ ตั้งเป้าเปิดครบ 46 ร้านภายในปีนี้ ด้วยยอดขายรวม 1,100 ล้านบาท เผยภาวะเศรษฐกิจไม่ส่งผลกระทบ
นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร เปิดเผยว่า ในปี 2552 เครือเบทาโกรมีแผนขยายการเปิดเบทาโกร ช็อป (Betagro Shop) ร้านค้าส่งผลิตภัณฑ์ในเครือเบทาโกร ให้ครบ 46 ร้าน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 23 ร้านทั่วประเทศ ทั้งนี้ คาดว่า ปี 2552 เครือเบทาโกรจะมีรายได้จากเบทาโกร ช็อป รวมประมาณ 1,100 ล้านบาท และตั้งเป้าในอีก 3 ปี จะขยายการเปิดเบทาโกร ช็อป เป็น 120 ร้านทั่วประเทศ
แนวคิดการเปิด เบทาโกร ช็อป คือ เพื่อเป็นร้านค้าส่ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเครือเบทาโกร ได้แก่ เนื้อหมูสด เนื้อไก่สด ลูกชิ้น ไส้กรอก ไข่ไก่ และสินค้าปรุงสุกแช่แข็ง ภายใต้แบรนด์ต่างๆ ของเครือเบทาโกร เช่น ไฮมีท (Hymeat) เบทเทอร์ฟู้ด (Better Food) ฟาร์ม (Farm) นอกจากนี้ เบทาโกร ช็อป ยังเป็นจุดกระจายสินค้าคุณภาพจากเครือเบทาโกร ที่รวดเร็ว และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งด้านการผลิต การจัดจำหน่าย และการจัดส่งสินค้าภายใต้มาตรฐานเดียวกัน โดยกลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ ผู้ค้าส่ง ภัตตาคาร ร้านอาหาร
“เบทาโกร ช็อป มีแนวทางชัดเจนว่าเป็นร้านค้าส่งผลิตภัณฑ์คุณภาพจากเครือเบทาโกร ที่เครือมองเห็นช่องว่างทางการตลาดให้เข้าไปในพื้นที่ได้อีก โดยยอดขายของร้าน 80% จะมาจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ค้าส่ง และผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่มีปริมาณการซื้อจำนวนมาก เพื่อให้ได้สินค้าปลอดภัย และคุณภาพนำไปจำหน่ายปลีก หรือนำไปปรุงเป็นอาหารจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค โดยทำเลที่ตั้งของร้าน จะอยู่ในย่านการค้าส่ง ใกล้ตลาดสด หรือชุมชน ซึ่งเป็นแหล่งที่ลูกค้าสะดวกในการเข้ามาซื้อสินค้า” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร กล่าว
ทั้งนี้ การเปิดร้านเบทาโกร ช็อป ยังมุ่งเสริมให้ธุรกิจของลูกค้า หรือตัวแทนจำหน่ายของเบทาโกรในพื้นที่ สามารถทำธุรกิจได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านของการได้รับสินค้าที่สะอาด ปลอดภัย และมีมาตรฐาน ความสม่ำเสมอของบริการและคุณภาพของสินค้า รวมทั้งราคาเหมาะสมสามารถแข่งขันได้
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร กล่าวถึงผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจในขณะนี้ต่อการขยายสาขาเบทาโกร ช็อป ว่า “สำหรับปัจจัยด้านสภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการขยายสาขา และยอดขายของเบทาโกร ช็อป ที่ตั้งเป้าไว้ที่ร้านละ 3-10 ล้านบาทต่อเดือน เนื่องจากสินค้าภายในร้านเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของเครือเบทาโกรในครึ่งปีแรกของปี 2552 มียอดขายรวมประมาณ 23,000 ล้านบาท เป็นยอดขายในประเทศประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการส่งออก โดยคาดการณ์ว่า ปี 2552 ยอดขายโดยรวมของเครือ จะขยายตัวจากปี 2551 ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ หรือมียอดขายรวมประมาณ 50,000 ล้านบาท
นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร เปิดเผยว่า ในปี 2552 เครือเบทาโกรมีแผนขยายการเปิดเบทาโกร ช็อป (Betagro Shop) ร้านค้าส่งผลิตภัณฑ์ในเครือเบทาโกร ให้ครบ 46 ร้าน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 23 ร้านทั่วประเทศ ทั้งนี้ คาดว่า ปี 2552 เครือเบทาโกรจะมีรายได้จากเบทาโกร ช็อป รวมประมาณ 1,100 ล้านบาท และตั้งเป้าในอีก 3 ปี จะขยายการเปิดเบทาโกร ช็อป เป็น 120 ร้านทั่วประเทศ
แนวคิดการเปิด เบทาโกร ช็อป คือ เพื่อเป็นร้านค้าส่ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเครือเบทาโกร ได้แก่ เนื้อหมูสด เนื้อไก่สด ลูกชิ้น ไส้กรอก ไข่ไก่ และสินค้าปรุงสุกแช่แข็ง ภายใต้แบรนด์ต่างๆ ของเครือเบทาโกร เช่น ไฮมีท (Hymeat) เบทเทอร์ฟู้ด (Better Food) ฟาร์ม (Farm) นอกจากนี้ เบทาโกร ช็อป ยังเป็นจุดกระจายสินค้าคุณภาพจากเครือเบทาโกร ที่รวดเร็ว และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งด้านการผลิต การจัดจำหน่าย และการจัดส่งสินค้าภายใต้มาตรฐานเดียวกัน โดยกลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ ผู้ค้าส่ง ภัตตาคาร ร้านอาหาร
“เบทาโกร ช็อป มีแนวทางชัดเจนว่าเป็นร้านค้าส่งผลิตภัณฑ์คุณภาพจากเครือเบทาโกร ที่เครือมองเห็นช่องว่างทางการตลาดให้เข้าไปในพื้นที่ได้อีก โดยยอดขายของร้าน 80% จะมาจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ค้าส่ง และผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่มีปริมาณการซื้อจำนวนมาก เพื่อให้ได้สินค้าปลอดภัย และคุณภาพนำไปจำหน่ายปลีก หรือนำไปปรุงเป็นอาหารจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค โดยทำเลที่ตั้งของร้าน จะอยู่ในย่านการค้าส่ง ใกล้ตลาดสด หรือชุมชน ซึ่งเป็นแหล่งที่ลูกค้าสะดวกในการเข้ามาซื้อสินค้า” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร กล่าว
ทั้งนี้ การเปิดร้านเบทาโกร ช็อป ยังมุ่งเสริมให้ธุรกิจของลูกค้า หรือตัวแทนจำหน่ายของเบทาโกรในพื้นที่ สามารถทำธุรกิจได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านของการได้รับสินค้าที่สะอาด ปลอดภัย และมีมาตรฐาน ความสม่ำเสมอของบริการและคุณภาพของสินค้า รวมทั้งราคาเหมาะสมสามารถแข่งขันได้
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร กล่าวถึงผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจในขณะนี้ต่อการขยายสาขาเบทาโกร ช็อป ว่า “สำหรับปัจจัยด้านสภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการขยายสาขา และยอดขายของเบทาโกร ช็อป ที่ตั้งเป้าไว้ที่ร้านละ 3-10 ล้านบาทต่อเดือน เนื่องจากสินค้าภายในร้านเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของเครือเบทาโกรในครึ่งปีแรกของปี 2552 มียอดขายรวมประมาณ 23,000 ล้านบาท เป็นยอดขายในประเทศประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการส่งออก โดยคาดการณ์ว่า ปี 2552 ยอดขายโดยรวมของเครือ จะขยายตัวจากปี 2551 ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ หรือมียอดขายรวมประมาณ 50,000 ล้านบาท
