xs
xsm
sm
md
lg

ทีวีธันเดอร์เล็งเคเบิลปีหน้า ทุ่ม230ล.ผลิตรายการเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทีวีธันเดอร์ คว้าวิกฤต เป็นโอกาส ปีนี้เทกระเป๋าลงทุนมากสุดตั้งแต่ทำธุรกิจมา ไม่ต่ำกว่า 230 ล้านบาท ทยอยป้อนละครใหม่หลายเรื่องตั้งแต่ต้นปี แม้ครึ่งปีแรกโฆษณาหด 10% เชื่อครึ่งปีหลังฟื้นตัว เผยปีนี้ลุยงานโปรเจกต์ช่วยดันยอด ทำคอนเสิร์ต 2-3 งาน สิ้นปีมั่นใจรายได้แตะ 300 ล้านบาท เติบโต 10% แย้มเคเบิลทีวีน่าสน ปีหน้าอาจมีข่าวดี

นางภัทรภร  วรรณภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สถานการณ์ทางเศรษฐกิจถือว่าไม่ค่อยดี เห็นได้จากยอดการขายโฆษณาจาก 7 รายการ ที่ทำอยู่ มีอัตราเฉลี่ยลดลง 10% โดยเฉพาะรายการสะบัดช่อน้อยสุด ที่ออกอากาศทางช่อง 5 แต่ในวิกฤตนี้ ถือเป็นโอกาสของทางบริษัท เพราะปีนี้ถือเป็นปีที่ทางทีวีธันเดอร์ มีการลงทุนด้านโปรดักส์ชั่นผลิตรายการมากที่สุด ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 230 ล้านบาท ใช้มากกว่าปีก่อนราว 30% โดยมีรายการใหม่ป้อนออกอาการมาตั้งแต่ต้นปีไปจนถึงปลายปี

โดยปัจจุบันออกอากาศอยู่ทั้งหมด 6-7 รายการ คือ มาสเตอร์คีย์ และละคร เพื่อนซี้ล่องหน ออกอากาศทางช่อง 3, โอโนโชว์ และสะบัดช่อ ออกอากาศทางช่อง 5, ละครซิทคอม เรื่อง หมู่ 7 เด็ดสะระตี่ ออกอากาศทางช่อง 7,ละครเรื่อง วีระบุรุษทุ่งดินดำ ที่ออกอากาศทางช่อง 9 โดยมีละครที่เตรียมจะออนแอร์อีก 2 รายการในช่วงครึ่งปีหลัง คือ ละครเรื่อง ภาระกิจลับนักพัฒนา
ที่จะออกอากาศต่อจากละคร เรื่อง วีระบุรุษทุ่งดินดำ ทางช่อง9 และละครเรื่องเขยบ้านนอก ที่จะออกอากาศทางช่อง 3

นางภัทรภร กล่าวต่อว่า ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่บริษัทหันมาทำธุรกิจในส่วนของงานโปรเจกต์ด้วย โดยเฉพาะในส่วนของงานคอนเสิร์ต ซึ่งช่วงครึ่งปีหลังนี้จะได้เห็นประมาณ 2-3 คอนเสิร์ต เช่น คอนเสิร์ตโอโนโชว์ และกรีนคอนเสิร์ต ซึ่งเป็นโปรเจกต์กรีนที่บริษัททำมาตลอดทั้งปี ภายใต้งบการจัดงานรวมกว่า 50 ล้านบาท โดยมองว่าธุรกิจงานโปรเจกต์นี้ มีกำไรค่อนข้างดี
เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ภาพรวมรายได้ปีนี้ดีขึ้น โดยรายได้จากการผลิตรายการต่างๆคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% ส่วนรายได้ที่มาจากงานโปรเจกต์ อย่างน้อยๆไม่น่าจะต่ำกว่า 50 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามจากกระแสเคเบิลทีวี ที่มีแนวโน้มน่าสนใจ และเริ่มมีหลายคนให้ความสนใจลงทุนเข้ามาในธุรกิจนี้ นางภัทรภร กล่าวด้วยว่า ทางบริษัทก็มีความสนใจที่จะลงทุนในกลุ่มเคเบิลทีวีเช่นเดียวกัน โดยมีความเป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง คือ การเป็นคอนเท้นท์โพไวเดอร์ และเป็นเจ้าของช่องเอง ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาดูความเป็นไปได้ในหลายๆด้านอยู่
ว่าจะคุ้มหรือไม่หากจะเข้าไปลงทุน คาดว่าหากมีการลงทุนจริง เบื้องต้นคาดว่าจะใช้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เชื่อว่าต้นปีหน้าอาจจะมีข่าวดี เพราะลูกค้าหลายรายก็อยากให้บริษัทเข้ามาทำเคเบิลทีวีเช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น