แบงก์ชาติ แจงสถานะเงินฝากแบงก์พาณิชย์ ยืนยัน แบงก์ไทยยังมีสภาพคล่องเพียงพอ แม้บางส่วนจะโยกไปซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ พร้อมยอมรับ อาจกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงขึ้น เพราะแบงก์ต้องการรักษาฐานลูกค้า ถือเป็นผลดีต่อประชาชน
นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายนโยบายการเงิน กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงต่อการที่มีผู้โยกเงินฝากไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า โดยยืนยันว่า ธนาคารพาณิชย์ยังมีสภาพคล่องเพียงพอ และไม่น่าเป็นห่วง พร้อมยืนยันการคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.25% จะไม่กระทบต่อดอกเบี้ยเงินกู้
นายไพบูลย์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลขายพันธบัตรออมทรัพย์ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูง อาจเป็นแรงกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากหรือออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ให้ผลตอบแทนน่าสนใจเพื่อรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ ถือเป็นเรื่องปกติในการเคลื่อนย้ายของเงินทุน
ดังนั้น การโยกเงินลงทุนดังกล่าว จึงไม่กระทบต่อสภาพคล่องในระบบ เพราะเมื่อรัฐบาลกู้เงินผ่านการออกพันธบัตรแล้ว ก็ต้องนำเงินออกมาใช้จ่าย ทำให้เม็ดเงินยังหมุนเวียนในระบบต่อไป และเป็นเรื่องธรรมดา เงินฝากสามารถย้ายไปย้ายมา แบงก์สภาพคล่องมีเยอะ
ส่วนกรณีที่มีการมองกันว่า การออกพันธบัตรของภาครัฐ จะกดดันให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น ธปท.มองว่า หากดอกเบี้ยเงินฝากปรับเพิ่มขึ้น ก็ถือเป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภค เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาดอกเบี้ยเงินฝากปรับลงไปค่อนข้างเร็ว หากธนาคารพาณิชย์ต้องการจะรักษาฐานเงินฝากไว้ คงต้องออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาแข่งขัน