ศึกฟรีทีวี-เคเบิลทีวี เข้มข้นขึ้น รับแนวโน้มเป็นระบบดิจิตอล ชี้ช่องทางแจ้งเกิดระบบส่งสัญญาณแบบ Cable 2 Home แนะสมาชิกเคเบิลลงขั้นตั้งโฮลดิ้งคอมปานี ลดต้นทุนชิงตัดหน้าฟรีทีวีที่อาจปรับตัวไม่ทัน
นายณัฐ รองสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซียบรอดคาสติ้ง เทเลวิชั่น จำกัด และเลขาธิการ ชมรมโทรทัศน์ดาวเทียมประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันการแข่งขันของฟรีทีวีและเคเบิลทีวี กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สร้างความแตกต่างจะเป็นปัจจัยสำคัญของการดำเนินธุรกิจต่อไป โดยเฉพาะเรื่องของการส่งสัญญาณภาพแบบดิจิตอล ซึ่งในระดับอาเซียนมีข้อตกลงร่วมกันว่าจะต้องส่งสัญญาณเป็นดิจิตอลนี้ให้ครบทุกประเทศในอีก 3-5 ปีข้างหน้านี้
ในส่วนของสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีทุกช่องในบ้านเรา ทั่วประเทศมีสถานีส่งสัญญาณรวมกันประมาณ 40 แห่ง ซึ่งปัจจุบันเครื่องมือที่ใช้ส่งสัญญาณเป็นแบบอนาล็อกเท่านั้น และการจะเปลี่ยนมาใช้เครื่องมือส่งสัญญาณแบบดิจิตอล ต้องใช้เม็ดเงินมหาศาล ซึ่งทางฟรีทีวีเองต่างก็หาแนวทางปรับตัวรับสถานการณ์นี้อยู่ในปัจจุบัน
สำหรับเคเบิลทีวีนั้น สามารถรองรับการส่งสัญญาณแบบดิจิตอลนี้ได้ง่ายกว่า และมีการลงทุนน้อยกว่า นั่นคือ ระบบสัญญาณแบบ DVB-C ที่เรียกว่า Cable 2 Home โดยระบบการส่งสัญญาณนี้ จะเป็นลักษณะการรวมรายการคอนเทนต์สูงสุดได้ถึง 80 ช่อง ยิงสัญญาณขึ้นดาวเทียม โดยมีบล็อกรับสัญญาณเพียงตัวเดียวก็สามารถรับสัญญาณคอนเทนต์เหล่านี้แล้วส่งต่อไปยังเครื่องรับโทรทัศน์ของสมาชิกที่รับชมเคเบิลทีวีได้ โดยแต่ละช่องรายการจะมีความละเอียดคมชัดเท่ากัน
นายณัฐ กล่าวต่อว่า การส่งสัญญาณดังกล่าว ผู้ประกอบการเคเบิลทีวี จะมีการลงทุนแค่ค่าบล๊อกในการรับสัญญาณเท่านั้น ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 1,500 บาท เหมาะสำหรับผู้ประกอบการรายเล็กๆ เม็ดเงินลงทุนไม่มาก อย่างไรก็ตามระบบ Cable 2 Home นี้ ติดเพียงเรื่องของหน่วยงานที่จะลงทุนจัดรวมคอนเทนต์เพื่อยิงขึ้นดาวเทียมเท่านั้น เพราะต้นทุนครั้งนี้ใช้สูงถึง 80 ล้านบาท
ดังนั้น ทางสมาคมจึงเชิญชวนให้สมาชิกทุกรายซึ่งมีอยู่ราว 200 ราย ร่วมลงทุน และจัดทำเป็นโฮลดดิ้ง คอมพานีร่วมกัน โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละราย จะมีการลงทุนที่ต่ำมาก ซึ่งหากทำสำเร็จจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญ เพราะจะช่วยดึงผู้ชมให้มาดูเคเบิลทีวีได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงการส่งสัญญาณภาพเป็นระบบดิจอลแทนอนาล็อก เพราะเชื่อว่าฟรีทีวีเองอาจจะปรับเปลี่ยนรองรับระบบนี้ไม่ทันไม่ทัน สัญญาณที่ผู้ชมรับจากสัญญาณฟรีทีวีโดยตรงก็จะไม่ชัดตามมา ถือเป็นโอกาสที่ดีของเคเบิลทีวี ที่จะมีการเติบโตได้
นอกจากนี้ โฮลดิ้ง คอมปานี นี้ ยังจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการซื้อขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์กับทางเจ้าของคอนเทนต์ และเป็นตัวแทนทำงานร่วมกับทางเอเยนซี ในการดึงเม็ดเงินโฆษณาเข้ามาเคเบิลทีวีได้อีกทางด้วย ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการทำงานและสร้างรายได้จากโฆษณาให้เคเบิลทีวีมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก
นายวิชิต กล่าวเสริมว่า ระบบการส่งสัญญาณแบบ Cable 2 Home ถือเป็นอีกหนึ่งระบบ ที่ทางสมาคมจะเดินหน้าพัฒนาควบคู่ไปกับระบบการส่งสัญญาณผ่านเครือข่ายใยแก้วนำแสง ของ กฟภ.โดยในกรุงเทพฯก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, กสท และ ทีโอที เพื่อขอส่งสัญญาณเคเบิลทีวีไปกับสายโทรศัพท์ โดยทางสมาคมเสนอให้หน่วยงานเหล่านี้มีช่องเคเบิลทีวีได้ 1 ช่อง ซึ่งแต่ละหน่วยงานต่างให้ความสนใจ คาดว่า การเจรจาครั้งนี้จะสำเร็จในระยะอันใกล้นี้
สำหรับการส่งสัญญาณเคเบิลทีวีผ่านระบบเครือข่ายใยแก้วนำแสง ในส่วนของผู้ประกอบการเคเบิลทีวี ถือว่ามีการลงทุนเป็นศูนย์ แต่ประโยชน์ที่จะได้นั้นมีสูงมาก โดยเฉพาะในเรื่องของข้อมูลตัวเลขฐานลูกค้าที่ใช้งานเครือข่ายใยแก้วนำแสงนี้ จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการชี้วัดฐานผู้ชมเคเบิลทีวีได้ต่อไป ในการที่จะสร้างความมั่นใจให้แก่เหล่าเอเยนซี ที่กำลังมองหาสื่อใหม่ที่เข้าถึงผู้ชมได้มีประสิทธิภาพมาก และวัดผลได้ชัดเจน ถึงแม้ว่าข้อเสียของเครือข่ายใยแก้วนำแสงจะส่งสัญญาณได้น้อยกว่า Cable 2 Home แต่ทั้ง 2 ระบบ ถือเป็นการพัฒนาให้อุตสาหกรรมเคเบิลทีวีเติบโตขึ้น โดยทางสมาคมฯได้ให้ความสำคัญเท่าๆ กัน เชื่อว่า ไม่เกินสิ้นปีนี้ ไม่ระบบใดระบบหนึ่งจะติดตั้งเสร็จสมบูรณ์และพัฒนาเคเบิลทีวีเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น
นายณัฐ รองสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซียบรอดคาสติ้ง เทเลวิชั่น จำกัด และเลขาธิการ ชมรมโทรทัศน์ดาวเทียมประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันการแข่งขันของฟรีทีวีและเคเบิลทีวี กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สร้างความแตกต่างจะเป็นปัจจัยสำคัญของการดำเนินธุรกิจต่อไป โดยเฉพาะเรื่องของการส่งสัญญาณภาพแบบดิจิตอล ซึ่งในระดับอาเซียนมีข้อตกลงร่วมกันว่าจะต้องส่งสัญญาณเป็นดิจิตอลนี้ให้ครบทุกประเทศในอีก 3-5 ปีข้างหน้านี้
ในส่วนของสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีทุกช่องในบ้านเรา ทั่วประเทศมีสถานีส่งสัญญาณรวมกันประมาณ 40 แห่ง ซึ่งปัจจุบันเครื่องมือที่ใช้ส่งสัญญาณเป็นแบบอนาล็อกเท่านั้น และการจะเปลี่ยนมาใช้เครื่องมือส่งสัญญาณแบบดิจิตอล ต้องใช้เม็ดเงินมหาศาล ซึ่งทางฟรีทีวีเองต่างก็หาแนวทางปรับตัวรับสถานการณ์นี้อยู่ในปัจจุบัน
สำหรับเคเบิลทีวีนั้น สามารถรองรับการส่งสัญญาณแบบดิจิตอลนี้ได้ง่ายกว่า และมีการลงทุนน้อยกว่า นั่นคือ ระบบสัญญาณแบบ DVB-C ที่เรียกว่า Cable 2 Home โดยระบบการส่งสัญญาณนี้ จะเป็นลักษณะการรวมรายการคอนเทนต์สูงสุดได้ถึง 80 ช่อง ยิงสัญญาณขึ้นดาวเทียม โดยมีบล็อกรับสัญญาณเพียงตัวเดียวก็สามารถรับสัญญาณคอนเทนต์เหล่านี้แล้วส่งต่อไปยังเครื่องรับโทรทัศน์ของสมาชิกที่รับชมเคเบิลทีวีได้ โดยแต่ละช่องรายการจะมีความละเอียดคมชัดเท่ากัน
นายณัฐ กล่าวต่อว่า การส่งสัญญาณดังกล่าว ผู้ประกอบการเคเบิลทีวี จะมีการลงทุนแค่ค่าบล๊อกในการรับสัญญาณเท่านั้น ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 1,500 บาท เหมาะสำหรับผู้ประกอบการรายเล็กๆ เม็ดเงินลงทุนไม่มาก อย่างไรก็ตามระบบ Cable 2 Home นี้ ติดเพียงเรื่องของหน่วยงานที่จะลงทุนจัดรวมคอนเทนต์เพื่อยิงขึ้นดาวเทียมเท่านั้น เพราะต้นทุนครั้งนี้ใช้สูงถึง 80 ล้านบาท
ดังนั้น ทางสมาคมจึงเชิญชวนให้สมาชิกทุกรายซึ่งมีอยู่ราว 200 ราย ร่วมลงทุน และจัดทำเป็นโฮลดดิ้ง คอมพานีร่วมกัน โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละราย จะมีการลงทุนที่ต่ำมาก ซึ่งหากทำสำเร็จจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญ เพราะจะช่วยดึงผู้ชมให้มาดูเคเบิลทีวีได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงการส่งสัญญาณภาพเป็นระบบดิจอลแทนอนาล็อก เพราะเชื่อว่าฟรีทีวีเองอาจจะปรับเปลี่ยนรองรับระบบนี้ไม่ทันไม่ทัน สัญญาณที่ผู้ชมรับจากสัญญาณฟรีทีวีโดยตรงก็จะไม่ชัดตามมา ถือเป็นโอกาสที่ดีของเคเบิลทีวี ที่จะมีการเติบโตได้
นอกจากนี้ โฮลดิ้ง คอมปานี นี้ ยังจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการซื้อขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์กับทางเจ้าของคอนเทนต์ และเป็นตัวแทนทำงานร่วมกับทางเอเยนซี ในการดึงเม็ดเงินโฆษณาเข้ามาเคเบิลทีวีได้อีกทางด้วย ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการทำงานและสร้างรายได้จากโฆษณาให้เคเบิลทีวีมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก
นายวิชิต กล่าวเสริมว่า ระบบการส่งสัญญาณแบบ Cable 2 Home ถือเป็นอีกหนึ่งระบบ ที่ทางสมาคมจะเดินหน้าพัฒนาควบคู่ไปกับระบบการส่งสัญญาณผ่านเครือข่ายใยแก้วนำแสง ของ กฟภ.โดยในกรุงเทพฯก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, กสท และ ทีโอที เพื่อขอส่งสัญญาณเคเบิลทีวีไปกับสายโทรศัพท์ โดยทางสมาคมเสนอให้หน่วยงานเหล่านี้มีช่องเคเบิลทีวีได้ 1 ช่อง ซึ่งแต่ละหน่วยงานต่างให้ความสนใจ คาดว่า การเจรจาครั้งนี้จะสำเร็จในระยะอันใกล้นี้
สำหรับการส่งสัญญาณเคเบิลทีวีผ่านระบบเครือข่ายใยแก้วนำแสง ในส่วนของผู้ประกอบการเคเบิลทีวี ถือว่ามีการลงทุนเป็นศูนย์ แต่ประโยชน์ที่จะได้นั้นมีสูงมาก โดยเฉพาะในเรื่องของข้อมูลตัวเลขฐานลูกค้าที่ใช้งานเครือข่ายใยแก้วนำแสงนี้ จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการชี้วัดฐานผู้ชมเคเบิลทีวีได้ต่อไป ในการที่จะสร้างความมั่นใจให้แก่เหล่าเอเยนซี ที่กำลังมองหาสื่อใหม่ที่เข้าถึงผู้ชมได้มีประสิทธิภาพมาก และวัดผลได้ชัดเจน ถึงแม้ว่าข้อเสียของเครือข่ายใยแก้วนำแสงจะส่งสัญญาณได้น้อยกว่า Cable 2 Home แต่ทั้ง 2 ระบบ ถือเป็นการพัฒนาให้อุตสาหกรรมเคเบิลทีวีเติบโตขึ้น โดยทางสมาคมฯได้ให้ความสำคัญเท่าๆ กัน เชื่อว่า ไม่เกินสิ้นปีนี้ ไม่ระบบใดระบบหนึ่งจะติดตั้งเสร็จสมบูรณ์และพัฒนาเคเบิลทีวีเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น
