ครม.อนุมัติงบ 90 ล้านบาท เพื่อทำลายทิ้งลำไยจากโครงการรับจำนำปี 46-47 มูลค่า 4.8 พันล้าน ที่ไม่ได้มาตรฐาน เสียเงินไปฟรีๆ เพราะไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ แม้แต่จะทำปุ๋ย “มาร์ค” เตือน รมต.ใช้เป็นบทเรียนจำนำสินค้าเกษตร เพราะไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ได้อนุมัติงบประมาณ 90 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการทำลายลำไยจากโครงการรับจำนำปี 2546-2547 เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผลผลิตที่กำลังจะออกสู่ตลาด นอกจากนี้ ผลผลิตดังกล่าวยังไม่ได้มาตรฐานและไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เลยแม้แต่การนำไปบดเป็นปุ๋ย
นายกรัฐมนตรีกล่าวยอมรับว่า โครงการรับจำนำลำไยในปี 2546-2547 เป็นบทเรียนสำคัญของการรับจำนำแทรกแซงราคาลำไย ซึ่งมีความเสียหายเกิดขึ้น โดยโครงการรับจำนำทั้ง 2 ปีมีมูลค่า 4.8 พันล้านบาท
“การทำลายครั้งนี้จะต้องเสียค่าใช้จ่าย 90 ล้านบาท แต่ที่สำคัญคือ เป็นบทเรียนในการรับจำนำสินค้าเกษตร หากมีการจำนำหรือแทรกแซงราคากันแล้ว สุดท้ายก็จะเกิดความเสียหาย อย่างกรณีนี้ก็มีมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท เพราะตอนที่อนุมัติโครงการนี้มีมูลค่าประมาณ 4,700-4,800 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก”
ต่อข้อถามว่า สาเหตุที่ต้องทำลายลำไยเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้คดีทุจริตอยู่ในการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่ปัญหาคือ ในคดีทุจริตเหล่านี้กลายเป็นว่าประชาชนถูกดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก เนื่องจากไปเซ็นรับเอกสารมาทั้งที่ไม่ได้เป็นตัวหลักในการดำเนินการเรื่องนี้
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ยังอนุมัติการขยายระยะเวลาการรับจำนำมันสำปะหลังที่ จ.ระยอง เนื่องจากมีปัญหาเรื่องลานมันสำปะหลัง รวมทั้งรับทราบการขยายรับจำนำข้าวนาปรัง 2 ล้านตัน