ทรูวิชั่นส์ ลุ้นสัญญาขอโฆษณาได้กับทาง อสมท จบใน 1-2 เดือนนี้ หลังมีการแนบท้ายสัญญาอีกเล็กน้อยกับข้อเสนอ 2 ข้อหลัก เรื่องส่วนแบ่งรายได้ และการให้จำนวนช่องแก่ อสมท 5 ช่อง เชื่อหากโฆษณาได้ ปีแรกเม็ดเงินโฆษณาแตะ 400-500 ล้านบาท หรือใน 2-5 ปี จะมีรายได้โฆษณาที่ 5-10% ของรายได้ทรูวิชั่นส์ ล่าสุดเ ปิดตัวเอเอฟ 6 สปอนเซอร์ปีนี้ยังคุ้มทุนที่ 100 ล้านบาท ของการลงทุนจัดแข่งขัน
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทรู วิชั่นส์ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในส่วนของข้อสัญญาว่าด้วยเรื่องของการโฆษณาได้กับทาง อสมท นั้น ล่าสุด ยังเหลือขั้นตอนอีกเล็กน้อย เพียงรอให้ทางอัยการเซ็นรับทราบ
โดยในส่วนของทรูวิชั่นส์เอง ก็ได้มีการร่างข้อตกลงแนบท้ายสัญญาเพิ่มเติม โดยได้เน้นเรื่องของข้อเสนอหลักอีก 2 เรื่อง คือ 1.เรื่องของส่วนแบ่งรายได้ และ 2.การให้จำนวนช่องแก่ทาง อสมท จำนวน 5 ช่อง ซึ่งเดิมให้ทาง อสมท ไปแล้ว 2 ช่อง คือ Mcot1 และ Mcot2 ดังนั้น จึงยังเหลือช่องที่สามารถให้ทาง อสมท ได้อีก 3 ช่อง
ทั้งนี้ ในเรื่องของการที่ ทรูวิชั่นส์ ผิดสัญญาในเรื่องของการออกจากตลาดหลักทรัพย์ ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ยังมีการเจรจากับทาง อสมท ด้วย โดยทางบริษัทยังคงพอใจในข้อตกลง ที่คุยกับทาง อสมท ไว้เมื่อ 2 ปีก่อน กับจำนวนเงินชดเชย ที่พร้อมจะจ่ายให้จำนวน 79 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม คาดว่า เรื่องสัญญาขอโฆษณาได้จะจบลงในระยะเวลาอีก 1-2 เดือนนับจากนี้ ซึ่งตามหลักการแล้ว ทรูวิชั่นส์ สามารถโฆษณาได้ทุกช่อง จากปัจจุบันมีกว่า 101 ช่อง แต่มองว่าจะนำมาโฆษณาจริง 20 ช่อง ซึ่งเป็นช่องที่ทางทรูวิชั่นส์ ผลิตขึ้นเอง เพราะในจำนวนช่องทั้งหมด บางช่องก็ไม่สามารถโฆษณาได้ ส่วนเวลาของการโฆษณานั้น เฉลี่ยอยู่ที่ 5 นาทีต่อชั่วโมง
โดยที่ผ่านมาในบางช่องทางทรูวิชั่นส์ก็ได้กันเวลาเพื่อใช้โฆษณาอยู่แล้ว จากปกติจะใช้เวลาส่วนนี้ประชาสัมพันธ์รายการต่างๆ ดังนั้น จึงมองว่า หากโฆษณาได้จริง ก็จะไม่มีปัญหาในกรณีสมาชิกไม่พอใจตามมา
สำหรับเม็ดเงินโฆษณา จากตัวเลขการประเมินในปีก่อน เชื่อว่า ปีแรกจะอยู่ที่ 400-500 ล้านบาท และภายใน 2-5 ปี จะมีสัดส่วนที่ 5-10% ของรายได้รวม ซึ่งเป็นไปตามตัวเลขรายได้โฆษณาในเคเบิลทีวี ของประเทศในแถบภูมิภาคเอเชีย
**เอเอฟ 6 งดโหวตเป็นค่าโทร.
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนของ ทรู อคาเดมี แฟนเทเชีย ปฏิบัตการล่าฝัน ซีซั่น 6 หรือ เอเอฟ 6 ที่จะเริ่มในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ ในส่วนของการโฆษณาอย่างเป็นทางการ ที่จะทำในช่องทรูวิชั่นส์ คงจะเลื่อนออกไปก่อน ปีนี้คงยังไม่มี จะมีเพียงการโฆษณาเชิงการประชาสัมพันธ์รูปแบบรายการเท่านั้น
สำหรับเอเอฟ 6 ปีนี้ ได้ลงทุนจัดการแข่งขันร่วม 100 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งสปอนเซอร์หลักในปีนี้ ยังคงอยู่ที่ 8 ราย เท่าปีก่อน เช่น เครื่องดื่มเป๊ปซี่, ผลิตภัณฑ์ซีพี, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด, แบรนด์ ซุปไก่สกัด, ทรูมูฟ และรวมถึง Whizdom Condominium โดย MQDC ที่เป็นผู้สนับสนุนสถานที่ถ่ายทำ โดยแต่ละรายร่วมสนับสนุนเป็นเม็ดเงินรายละประมาณ 12 ล้านบาท รวมแล้วกว่า 96 ล้านบาท ขณะที่ผู้สนับสนุนรายย่อย ยังไม่ได้สรุปจำนวนและตัวเลข แต่ประเมินแล้วว่า เม็ดเงินจากสปอนเซอร์ในปีนี้ยังครอบคลุมการลงทุนอยู่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการโหวตผ่านโทรศัพท์ระบบทรูมูฟปีนี้ จะไม่มีนโยบายการโหวตเปลี่ยนเป็นค่าโทร.อย่างปีที่ผ่านมา เพราะพบว่าส่วนหนึ่งของโควตาที่ให้ไป ลูกค้าใช้ไม่เคยหมด บวกกับเชื่อว่าจำนวนการโหวตในปีนี้ จะลดลงจากปีก่อนที่มีกว่า 22 ล้านโหวต เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ปีนี้จึงไม่ทำ แต่จะนำเม็ดเงินการโหวตจำนวน 1 ใน 3 มาบริจาคให้กับสภากาชาดไทยและมูลนิธิอื่นๆ ต่อไป ดังนั้น ปีนี้รายได้จากการโหวตจะลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย
ปัจจุบันสมาชิกทรูวิชั่นส์ มีจำนวนกว่า 2 ล้านครัวเรือน ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทยังมีอัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้น 4% เทียบกับรายได้ในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ทั้งปีหากเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ภาพรวมรายได้ทั้งปีอาจจะมีการเติบโตน้อยกว่าปีก่อนเล็กน้อย
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทรู วิชั่นส์ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในส่วนของข้อสัญญาว่าด้วยเรื่องของการโฆษณาได้กับทาง อสมท นั้น ล่าสุด ยังเหลือขั้นตอนอีกเล็กน้อย เพียงรอให้ทางอัยการเซ็นรับทราบ
โดยในส่วนของทรูวิชั่นส์เอง ก็ได้มีการร่างข้อตกลงแนบท้ายสัญญาเพิ่มเติม โดยได้เน้นเรื่องของข้อเสนอหลักอีก 2 เรื่อง คือ 1.เรื่องของส่วนแบ่งรายได้ และ 2.การให้จำนวนช่องแก่ทาง อสมท จำนวน 5 ช่อง ซึ่งเดิมให้ทาง อสมท ไปแล้ว 2 ช่อง คือ Mcot1 และ Mcot2 ดังนั้น จึงยังเหลือช่องที่สามารถให้ทาง อสมท ได้อีก 3 ช่อง
ทั้งนี้ ในเรื่องของการที่ ทรูวิชั่นส์ ผิดสัญญาในเรื่องของการออกจากตลาดหลักทรัพย์ ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ยังมีการเจรจากับทาง อสมท ด้วย โดยทางบริษัทยังคงพอใจในข้อตกลง ที่คุยกับทาง อสมท ไว้เมื่อ 2 ปีก่อน กับจำนวนเงินชดเชย ที่พร้อมจะจ่ายให้จำนวน 79 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม คาดว่า เรื่องสัญญาขอโฆษณาได้จะจบลงในระยะเวลาอีก 1-2 เดือนนับจากนี้ ซึ่งตามหลักการแล้ว ทรูวิชั่นส์ สามารถโฆษณาได้ทุกช่อง จากปัจจุบันมีกว่า 101 ช่อง แต่มองว่าจะนำมาโฆษณาจริง 20 ช่อง ซึ่งเป็นช่องที่ทางทรูวิชั่นส์ ผลิตขึ้นเอง เพราะในจำนวนช่องทั้งหมด บางช่องก็ไม่สามารถโฆษณาได้ ส่วนเวลาของการโฆษณานั้น เฉลี่ยอยู่ที่ 5 นาทีต่อชั่วโมง
โดยที่ผ่านมาในบางช่องทางทรูวิชั่นส์ก็ได้กันเวลาเพื่อใช้โฆษณาอยู่แล้ว จากปกติจะใช้เวลาส่วนนี้ประชาสัมพันธ์รายการต่างๆ ดังนั้น จึงมองว่า หากโฆษณาได้จริง ก็จะไม่มีปัญหาในกรณีสมาชิกไม่พอใจตามมา
สำหรับเม็ดเงินโฆษณา จากตัวเลขการประเมินในปีก่อน เชื่อว่า ปีแรกจะอยู่ที่ 400-500 ล้านบาท และภายใน 2-5 ปี จะมีสัดส่วนที่ 5-10% ของรายได้รวม ซึ่งเป็นไปตามตัวเลขรายได้โฆษณาในเคเบิลทีวี ของประเทศในแถบภูมิภาคเอเชีย
**เอเอฟ 6 งดโหวตเป็นค่าโทร.
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนของ ทรู อคาเดมี แฟนเทเชีย ปฏิบัตการล่าฝัน ซีซั่น 6 หรือ เอเอฟ 6 ที่จะเริ่มในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ ในส่วนของการโฆษณาอย่างเป็นทางการ ที่จะทำในช่องทรูวิชั่นส์ คงจะเลื่อนออกไปก่อน ปีนี้คงยังไม่มี จะมีเพียงการโฆษณาเชิงการประชาสัมพันธ์รูปแบบรายการเท่านั้น
สำหรับเอเอฟ 6 ปีนี้ ได้ลงทุนจัดการแข่งขันร่วม 100 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งสปอนเซอร์หลักในปีนี้ ยังคงอยู่ที่ 8 ราย เท่าปีก่อน เช่น เครื่องดื่มเป๊ปซี่, ผลิตภัณฑ์ซีพี, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด, แบรนด์ ซุปไก่สกัด, ทรูมูฟ และรวมถึง Whizdom Condominium โดย MQDC ที่เป็นผู้สนับสนุนสถานที่ถ่ายทำ โดยแต่ละรายร่วมสนับสนุนเป็นเม็ดเงินรายละประมาณ 12 ล้านบาท รวมแล้วกว่า 96 ล้านบาท ขณะที่ผู้สนับสนุนรายย่อย ยังไม่ได้สรุปจำนวนและตัวเลข แต่ประเมินแล้วว่า เม็ดเงินจากสปอนเซอร์ในปีนี้ยังครอบคลุมการลงทุนอยู่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการโหวตผ่านโทรศัพท์ระบบทรูมูฟปีนี้ จะไม่มีนโยบายการโหวตเปลี่ยนเป็นค่าโทร.อย่างปีที่ผ่านมา เพราะพบว่าส่วนหนึ่งของโควตาที่ให้ไป ลูกค้าใช้ไม่เคยหมด บวกกับเชื่อว่าจำนวนการโหวตในปีนี้ จะลดลงจากปีก่อนที่มีกว่า 22 ล้านโหวต เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ปีนี้จึงไม่ทำ แต่จะนำเม็ดเงินการโหวตจำนวน 1 ใน 3 มาบริจาคให้กับสภากาชาดไทยและมูลนิธิอื่นๆ ต่อไป ดังนั้น ปีนี้รายได้จากการโหวตจะลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย
ปัจจุบันสมาชิกทรูวิชั่นส์ มีจำนวนกว่า 2 ล้านครัวเรือน ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทยังมีอัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้น 4% เทียบกับรายได้ในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ทั้งปีหากเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ภาพรวมรายได้ทั้งปีอาจจะมีการเติบโตน้อยกว่าปีก่อนเล็กน้อย