คอมเท็มโพรารี่ ชี้การลงทุนพลอยเป็นเทรนด์อัญมณีดาวรุ่งรอบ 5 ปี หลังพิษเศรษฐกิจดิ่งหุ้นตก นักลงทุนทั่วโลกปรับตัวแห่ลงทุนพลอยอัญมณีทางเลือกใหม่ที่อนาคตกลายเป็นของหายาก หลังเหมืองเริ่มปิด ระบุพลอยให้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 30-50% มั่นใจสิ้นปีคนไทยแห่ลงทุนเพิ่ม 5-10% จากการลงทุน
นางสาวพิมพ์พินิจ กัลวทานนท์ กรรมการผู้จัดการ ศูนย์รวมงานอัญมณีแบบศิลปะและที่ปรึกษาการลงทุนอัญมณีภายใต้แบรนด์ “คอมเท็มโพรารี่ จิวเวลลี่ แอนด์ อาร์ต” เปิดเผยว่า ผลพวงจากวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนอัญมณีและเครื่องประดับมากขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากทองคำและเพชร พลอยก็เป็นอัญมณีอีกประเภทหนึ่งที่มีผู้สนใจทั่วโลกให้ความสนใจลงทุน 5% โดยเฉพาะนักลงทุนในประเทศอังกฤษ เพราะขณะนี้เหมืองพลอยในหลายประเทศเริ่มปิดตัว เหลือเพียงที่เหมืองพลอยในแอฟริกาเท่านั้น เมื่อเทียบกับเพชรยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก
สำหรับในประเทศไทยมีผู้สนใจลงทุนพลอย 2-3% จากการลงทุนโดยรวมทั้งหมด คากว่าสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 5-10% นับว่ากลับมาคึกคักในรอบ 4-5 ปี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ความไม่แน่นอนจากตลาดหุ้น และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่น้อย เป็นปัจจัยทำให้มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนพลอยมากขึ้นนับตั้งแต่เกิดการชุมนุมของเสื้อแดงในช่วงสงกรานต์ โดยเฉพาะผู้ชายเริ่มสนใจเข้ามาลงทุนอัญมณีเพิ่มขึ้น เนื่องจากพลอยการลงทุนแต่ละครั้งให้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 30-50% ขณะที่หากนำมาทำเป็นเครื่องประดับมูลค่าเพิ่ม 2-3 เท่าตัว
แนวโน้มการลงทุนตลาดพลอย กลุ่มที่ได้รับความนิยมปีนี้ คือ ทับทิมสยาม บุษราคัมบางกะจะ ไพลินเปลี่ยนสี เป็นพลอยที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก อย่างไรก็ตามการลงทุนพลอย มีปัจจัยเสี่ยงคือไม่มีตลาดซื้อ-ขาย เมื่อเทียบกับทองคำและเพชร ซึ่งปัจจุบันต้องซื้อขายผ่านทางเว็บไซต์หรือเป็นการประมูลเป็นหลัก โดยในส่วนดังกล่าว คอมเท็มโพรารี่ นอกจากเป็นศูนย์รวมอัญมณีแบบศิลปะแล้ว ยังเปิดบริการที่ปรึกษาด้านการลงทุน และออกแบบอัญมณี เพื่อรองรับการบริการอย่างครบวงจร
นางสาวพิมพ์พินิจ กล่าวว่า ปีนี้ทับทิมสยาม จัดว่าเป็นอัญมณีนักลงทุนทั่วโลกสนใจ โดยเฉพาะอังกฤษและอเมริกา โดยพบว่า 5 ปีที่ผ่านมาทับทิมสยาม มีราคาเพิ่มจาก 5 แสนบาทต่อ 1 กะรัต เพิ่มเป็น 1 ล้านบาทต่อ 1 กะรัต สำหรับในไทย ปัจจุบันนักลงทุนยังจำกัดอยู่เฉพาะ กลุ่มนักธุรกิจ การเมือง และอุตสาหกรรมโรงงาน โดยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีผู้สนใจเข้ามาปรึกษาด้านการลงทุนพลอยที่ร้านคอมเท็มโพรารี่ เติบโต 40-50% และคาดว่าสิ้นปีนี้เติบโตเป็น 70%
นางสาวพิมพ์พินิจ กัลวทานนท์ กรรมการผู้จัดการ ศูนย์รวมงานอัญมณีแบบศิลปะและที่ปรึกษาการลงทุนอัญมณีภายใต้แบรนด์ “คอมเท็มโพรารี่ จิวเวลลี่ แอนด์ อาร์ต” เปิดเผยว่า ผลพวงจากวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนอัญมณีและเครื่องประดับมากขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากทองคำและเพชร พลอยก็เป็นอัญมณีอีกประเภทหนึ่งที่มีผู้สนใจทั่วโลกให้ความสนใจลงทุน 5% โดยเฉพาะนักลงทุนในประเทศอังกฤษ เพราะขณะนี้เหมืองพลอยในหลายประเทศเริ่มปิดตัว เหลือเพียงที่เหมืองพลอยในแอฟริกาเท่านั้น เมื่อเทียบกับเพชรยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก
สำหรับในประเทศไทยมีผู้สนใจลงทุนพลอย 2-3% จากการลงทุนโดยรวมทั้งหมด คากว่าสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 5-10% นับว่ากลับมาคึกคักในรอบ 4-5 ปี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ความไม่แน่นอนจากตลาดหุ้น และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่น้อย เป็นปัจจัยทำให้มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนพลอยมากขึ้นนับตั้งแต่เกิดการชุมนุมของเสื้อแดงในช่วงสงกรานต์ โดยเฉพาะผู้ชายเริ่มสนใจเข้ามาลงทุนอัญมณีเพิ่มขึ้น เนื่องจากพลอยการลงทุนแต่ละครั้งให้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 30-50% ขณะที่หากนำมาทำเป็นเครื่องประดับมูลค่าเพิ่ม 2-3 เท่าตัว
แนวโน้มการลงทุนตลาดพลอย กลุ่มที่ได้รับความนิยมปีนี้ คือ ทับทิมสยาม บุษราคัมบางกะจะ ไพลินเปลี่ยนสี เป็นพลอยที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก อย่างไรก็ตามการลงทุนพลอย มีปัจจัยเสี่ยงคือไม่มีตลาดซื้อ-ขาย เมื่อเทียบกับทองคำและเพชร ซึ่งปัจจุบันต้องซื้อขายผ่านทางเว็บไซต์หรือเป็นการประมูลเป็นหลัก โดยในส่วนดังกล่าว คอมเท็มโพรารี่ นอกจากเป็นศูนย์รวมอัญมณีแบบศิลปะแล้ว ยังเปิดบริการที่ปรึกษาด้านการลงทุน และออกแบบอัญมณี เพื่อรองรับการบริการอย่างครบวงจร
นางสาวพิมพ์พินิจ กล่าวว่า ปีนี้ทับทิมสยาม จัดว่าเป็นอัญมณีนักลงทุนทั่วโลกสนใจ โดยเฉพาะอังกฤษและอเมริกา โดยพบว่า 5 ปีที่ผ่านมาทับทิมสยาม มีราคาเพิ่มจาก 5 แสนบาทต่อ 1 กะรัต เพิ่มเป็น 1 ล้านบาทต่อ 1 กะรัต สำหรับในไทย ปัจจุบันนักลงทุนยังจำกัดอยู่เฉพาะ กลุ่มนักธุรกิจ การเมือง และอุตสาหกรรมโรงงาน โดยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีผู้สนใจเข้ามาปรึกษาด้านการลงทุนพลอยที่ร้านคอมเท็มโพรารี่ เติบโต 40-50% และคาดว่าสิ้นปีนี้เติบโตเป็น 70%