xs
xsm
sm
md
lg

รัฐแจงอุปทานหดต้นเหตุหมูแพง ยันการนำเข้า 2% ไม่เสี่ยงไข้หวัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รัฐบาลเผยต้นเหตุหมูแพง เกิดจากอุปทานลดลง หลังเศรษฐกิจชะลอตัว กระทบกำลังซ้อ ขณะที่อากาศที่ร้อนจัด ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของหมู จำเป็นต้องนำออกขายเร็วกว่าปรกติ เพราะขาดสภาพคล่อง คาดส่งผลแค่ระยะสั้น ส่วนการนำเข้า 2% จากจีน อิตาลี เดนมาร์ก และออสเตรเลีย จึงไม่มีความเสี่ยงไข้หวัด

นายวัชระ กรรณิการ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (28 เมษายน 2552) ครม.ได้รับทราบการชี้แจงแนวทางแก้ปัญหาราคาเนื้อสุกรแพงว่า การเลี้ยงสุกรในปี 2552 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดว่าจะมีเนื้อสุกรออกสู่ตลาดประมาณ 11.765 ล้านตัว ลดลงจากปี 2551 จำนวน 0.33 ล้านตัว หรือร้อยละ 2.72

สำหรับสาเหตุมาจากการเลี้ยงสุกรในช่วงกลางปี 2551 ลดลง เนื่องจากต้นทุนการผลิตปรับสูงขึ้นมากกว่ารายได้ของเกษตรกร รวมทั้งปัญหาขาดสภาพคล่องของเกษตรกรผู้เลี้ยง อีกทั้งสภาพตลาดเนื้อสุกรค่อนข้างชะลอตัวจากปัญหาเศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภค อีกทั้งในช่วงนี้มีสภาพอากาศร้อนจัด ทำให้สุกรโตช้า มีขนาดน้ำหนักต่ำกว่าตัวละ 100 กิโลกรัม ประกอบกับเกษตรกรส่วนใหญ่นำสุกรออกขายเร็วกว่าปกติ เพราะมีปัญหาเงินทุนหมุนเวียน จึงทำให้ราคาซื้อขายสุกรสูงกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ผลการสำรวจพบว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2552 จนถึงปัจจุบัน ราคาสุกรมีชีวิตจากแหล่งผลิตอยู่ที่ 63-64 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ต้นทุนการผลิตช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2552 อยู่ที่กิโลกรัมละ 46.76 บาท และในเดือนเมษายน 2552 อยู่ที่กิโลกรัมละ 49-50 บาท ทำให้ราคาขายเนื้อสุกรชำแหละปรับสูงขึ้น โดยราคาขายปลีกสุกรเนื้อแดงอยู่ที่กิโลกรัมละ 120-130 บาท

"ที่ประชุม ครม. วานนี้ ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันหาแนวทางแก้ไข เพราะเชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียงระยะสั้น โดยกระทรวงพาณิชย์ได้จัดให้นำเนื้อสุกรไปขายปลีกในโครงการธงฟ้าราคาประหยัด ตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ"

สำหรับผลการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกไม่ได้ติดต่อจากเนื้อสุกรโดยตรง จึงไม่มีผลกระทบจากการบริโภคเนื้อสุกร โดยขณะนี้เนื้อสุกรในประเทศออกสู่ตลาดสัดส่วนร้อยละ 98 ส่วนอีกร้อยละ 2 นำเข้าจากประเทศจีน อิตาลี เดนมาร์ก ออสเตรเลีย ซึ่งไม่ได้นำเข้าจากเม็กซิโก และสหรัฐฯ

ส่วนปัญหามะนาวราคาแพง เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนน้อย เพราะแหล่งผลิตประสบปัญหาสภาพอากาศแปรปรวนสูง เพราะอากาศร้อนจัดและแห้งแล้งมาก จึงกระทบต่อการเติบโตของผลมะนาว ทำให้ราคาขายปลีกขนาดเบอร์ 2 ซึ่งเป็นขนาดทั่วไป ผลละ 5.5.5 บาท สำหรับมะนาวเบอร์ 1 และขนาดจัมโบ้ ซึ่งมีปริมาณน้อย อาจมีราคาสูงถึงผลละ 9-10 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้นำมะนาวมาจำหน่ายในงานธงฟ้าฯ ในจังหวัดต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค
กำลังโหลดความคิดเห็น