รับเช็คช่วยชาติวันที่ 2 ยังวุ่นวายทั่วประเทศ เผยที่ลานคนเมือง เลิกกดบัตรคิวเปลี่ยนเป็นเขียนด้วยมือ แถมระบบไฟฟ้าขัดข้องทำให้จ่ายเช็คล่าช้า คนเป็นลมเพียบ รุมตำหนิไม่เตรียมพร้อม บางรายกลัวเสียเวลาต้องกินข้าวในแถว สปส.เพิ่งคิดเปิดช่องทางลัดให้รับเช็คเป็นกลุ่มได้ ลดการเสียเวลารอนาน ขณะที่ในภูมิภาคประชาชนก็แห่รับเช็คเหมือนเดิม “อภิสิทธิ์” สั่งแก้ไขให้รวดเร็ว ด้าน"ไพฑูรย์" ยอมรับความผิดพลาด อ้างไม่คิดว่าคนจะเยอะ เจ้าหน้าที่ไม่พอ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแจกเช็คช่วยชาติ ที่มีปัญหาอุปสรรคต่างๆว่า ได้หารือกับ รมว.แรงงาน ให้หาทางแก้ปัญหาและอุปสรรคข้อบกพร่องอะไรก็ต้องหาทางแก้ไข แต่ก็ต้องขอความเห็นใจนิดหนึ่งว่า จำนวนคนที่มารับเช็คเยอะจริงๆ จึงได้บอกไปว่าบทเรียนความไม่สะดวกก็ขอให้ปรับปรุงแก้ไขเสีย ซึ่งรัฐมนตรีก็ได้ติดตามดูอย่างใกล้ชิด
ส่วนปัญหาความไม่สะดวกและข้อบกพร่องเป็นเพราะอะไรนั้น ตนคิดว่าก็มีทั้งปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ล่ม ก็ทำให้เป็นอุปสรรคเหมือนกัน แต่เรื่องการจัดการเขาก็ต้องไปทบทวน แม้ว่าเป็นการทำครั้งเดียวก็ตาม แต่ก็เป็นบทเรียนสำหรับการจัดการ เวลาที่มีคนจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็สามารถผ่านได้เรียบร้อย
ด้านนายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน ยอมรับว่ามีความผิดพลาดในการจ่ายเช็คช่วยชาติ เนื่องจากไม่คาดคิดว่าจะมีผู้ประกันตนมารับเช็คจำนวนมากในวันแรก โดยเฉพาะผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่อยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และต้องเดินทางไปรับเช็คที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ในระหว่างวันที่ 26 - 28 มี.ค.ประกอบกับเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการมีจำนวนไม่เพียงพอ แต่หากผู้ประกันตนกระจายกันไปรับเช็คให้ครอบคลุมทั้ง 3 วัน ก็จะไม่เกิดปัญหา ซึ่งวานนี้ (27 มี.ค.) ก็ได้มีการปรับปรุงแก้ไขให้การจ่ายเช็คมีความคล่องตัวมากขึ้นแล้ว
นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า ในการบริการประชาชนในวันที่สองของการรับเช็คนั้นผลงานเป็นที่พอใจ ประชาชนร้องเรียนน้อยลง ซึ่งจากปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ทางสปส. ก็แก้ปัญหาด้วยการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ทั้งส่วนสปส. และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีประชาชนมารับเช็คเป็นจำนวนมาก และมีปัญหาขลุกขลักเล็กน้อย ซึ่งในการแจกเช็ควันสุดท้ายวันนี้ (29 มี.ค.) คาดว่าจะมีประชาชนมาเป็นจำนวนมาก ตนก็จะจัดเตรียมพนักงาน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้รับความสะดวกที่สุด
**เปลี่ยนเขียนบัตรคิวด้วยมือ
สำหรับบรรยากาศการรับเช็คช่วยชาติ ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม. วานนี้ (27 มี.ค.) เป็นวันที่ 2 ของการเปิดให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (ผู้ประกันตนในระบบปกติ) ในพื้นที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 1 ได้แก่ พระนคร ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย และสัมพันธวงศ์ และผู้ประกันตนมาตรา 39 (ผู้ประกันตนโดยสมัครใจ) เข้ารับเช็คช่วยชาติ ยังคงมีความวุ่นวายเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ทางสำนักงานประกันสังคมได้จัดระบบใหม่ โดยเปลี่ยนจากการกดรับบัตรคิว เป็นเขียนบัตรคิวด้วยมือแทน พร้อมทั้งมีการนำแผงเหล็กมากั้นเป็นช่องตั้งแต่การตั้งแถวก่อนเข้ารับเช็ค จนถึงขั้นตอนการรับเช็คที่จะมีการกั้นเป็นล็อกๆ มีการนำเต็นท์มากางเพิ่มเติมเพื่อบังแดด รวมทั้งรถเคลื่อนที่น้ำประปาดื่มได้ ตลอดจนตั้งแทงก์น้ำมาไว้คอยบริการประชาชน ตลอดจนได้มีการประสานไปยังกองทัพ เพื่อส่งสารวัตรทหารมาคอยดูแลความเรียบร้อยบริเวณประตูทางเข้า-ออกเต้นท์ รวมถึงกทม.ได้อำนวยความสะดวกด้วยการจัดส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าอาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (อปพร.) จำนวน 60 นาย เข้ามาช่วยดูแลความเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกันตนทั้ง 2 มาตรา มาเข้าคิวเพื่อรับเช็คจำนวนมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่เริ่มทำการจ่ายเช็คล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ เพราะเกิดการขัดข้องจากระบบไฟฟ้า เนื่องจากบริษัทรับเหมาที่ว่าจ้างไว้ดำเนินการมาล่าช้า ทำให้ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถใช้เครื่องขยายเสียง ประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการรับเช็คได้จนกองประชาสัมพันธ์ กทม.ได้นำรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ออกมาช่วยเหลือ
นอกจากนี้ยังไม่สามารถเปิดคอมพิวเตอร์ เพื่อตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ หรือเปิดเครื่องปรับอากาศ และพัดลมไอน้ำที่เตรียมไว้คลายร้อนภายในเต้นท์ จนต้องเลื่อนการจ่ายเช็คออกไปจนเกือบ 09.00 น. ถึงจะดำเนินการได้ตามปกติ ซึ่งสำนักงานประกันสังคมได้เขียนป้ายประกาศติดภายในเต้นท์ เพื่อแจ้งผู้ประกันตนมาตรา 39 ว่าหากไม่สามารถรับเช็คได้ภายในวันที่ 27-28 มี.ค. ให้ไปรับได้ในวันที่ 4-6 เม.ย. ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ที่ส่งเงิน
**สวดแหลกควรเตรียมพร้อมกว่านี้
น.ส.รัตนา พูลภิบาล อายุ 49 ปี ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เขตพื้นที่ 1 กล่าวว่า เดินทางมารอรับเช็ค ตั้งแต่เวลา 04.00 น. เพราะต้องการรับเช็คเป็นคนแรกๆ ของวันนี้ โดยเมื่อวานนี้ มารอตั้งแต่ เวลา 07.00 น. จนถึง17.00 น.แต่ไม่สามารถรับเช็คได้ เพราะเข้าแถวผิด วันนี้ตั้งใจว่าหากยังไม่ได้อีกก็จะรอไปรับเช็คที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่แทน ทั้งนี้ รู้สึกเห็นใจ และไม่อยากตำหนิเจ้าหน้าที่ แต่ก็ควรจะมีการเตรียมความพร้อมกว่านี้
ด้านนายวิชัย อริยะ อายุ 47 ปี ผู้ประกันตนที่เป็นคนพิการ นั่งรถวีลแชร์มารอรับเช็ค กล่าวว่าไม่เห็นด้วยที่ให้คนมารอจำนวนมากแบบนี้ น่าจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีมากกว่า เมื่อวานทราบข่าวทางสื่อมวลชน เห็นความวุ่นวาย คนเป็นลมจำนวนมาก คิดว่าวันนี้จะดีขึ้น แต่ก็ยังคงไม่เป็นระเบียบเหมือนเดิม การเตรียมความพร้อมต้องถือว่าเป็นศูนย์ ตนแม้จะเป็นคนพิการ แต่ก็ไม่เห็นเจ้าหน้าที่มาสนใจ ถามใครก็ไม่รู้เรื่อง ทั้งนี้ ไม่ต้องการสิทธิพิเศษอะไร แต่อยากให้มีการประชาสัมพันธ์หรือเตรียมพร้อมให้มากกว่านี้
**ซื้อข้าวยืนกินขณะเข้าแถว
สำหรับในช่วงบ่ายจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 39 มารับเช็คช่วยชาติ ในจำนวนที่น้อยลงกว่าเดิมค่อนข้างมาก ทำให้เวลารอคิวลดลงซึ่งสามารถเดินเข้าไปรับเช็คได้ทันที แตกต่างจากที่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ยืนต่อแถวยาวเหยียดนับพันคน เพื่อรอตรวจสอบสิทธิภายในเต้นท์ โดยบางรายกลัวเสียเวลา ก็ไปซื้อข้าวมายืนกินขณะเข้าแถว ซึ่งยังคงใช้เวลานานนับชั่วโมงเช่นเดิม ขณะเดียวกันก็ยังมีผู้ประกันตนหลายรายเกิดอาการเป็นลม เจ้าหน้าที่พยาบาลต้องช่วยกันปฐมพยาบาล เนื่องจากอากาศร้อนอบอ้าว แม้จะมีการเปิดพัดลม และเครื่องปรับอากาศ เพื่อทำความเย็นแต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้
นอกจากนี้ จากการสอบถามไปยังผู้ประกอบการห้างค้าปลีกที่มาตั้งบูทจำหน่ายสินค้าที่ลานคนเมือง อาทิ บิ๊กซี ทราบว่า ยอดจำหน่ายสินค้าเมื่อวันที่ 26 มี.ค. รายได้ทะลุ 1 แสนบาท ซึ่งตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่บู๊ธห้างเทสโก้โลตัส มีผู้ประกันตนให้ความสนใจนำเช็คช่วยชาติมูลค่า 2,000 บาท มาแลกเป็นคูปองจำนวนมากเช่นกัน ขณะที่วานนี้ ผู้ประกันส่วนใหญ่เมื่อรับเช็คแล้วจำขึ้นเงินกับธนาคารกรุงเทพ ที่มาตั้งบูทอำนวยความสะดวกทันที
ขณะเดียวกัน สปส.ได้เพิ่มช่องทางลัดสำหรับผู้ประกันตน มาตรา 33 ซึ่งทำงานอยู่บริษัทเดียวกันจำนวนกลุ่มละ 10 คนขึ้นไป โดยให้ตัวแทน 1 คน รวบรวมเอกสารของเพื่อนในบริษัทเดียวกันตามจำนวนดังกล่าวส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร เสร็จเรียบร้อยจากนั้นให้เรียกเข้าไปรับเช็คช่วยชาติ ซึ่งเมื่อเลยเวลาเลิกงานพนักงานบริษัท ห้างร้านต่างๆ ที่อยู่ในสำนักงานประกันสังคมพื้นที่ 1 เดินทางมาเป็นจำนวนมาก
**ลูกเขย'เจริญ'เพิ่มค่าเช็คช่วยชาติ
นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสแอนด์เอส เรสซิเดนเชียล ในเครือทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ กล่าวว่า ลูกค้าที่ซื้อคอนโดฯโครงการเอสแอนด์เอส สุขุมวิท 101/1 ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มิ.ย.52 จะได้รับสิทธิพิเศษส่วนลดเพิ่มอีก 50,000 บาท สำหรับเงินโอนงวดสุดท้าย ทั้งนี้ ลูกค้าเพียงนำเช็ครัฐบาลมูลค่า 2,000 บาท พร้อมเงินสดอีกเพียง 8,000 บาท มาจองซื้อคอนโดฯ เอสแอนด์เอสฯ ซึ่งมีราคาขายเริ่มต้น 1.3 ล้านบาท ก็จะได้รับส่วนลดเงินโอน 50,000 ดังกล่าวแล้ว
**ผู้ประกันตนในภูมิภาคยังแห่รับเช็ค
บรรยากาศการรับเช็คช่วยชาติ วันที่ 2 ในส่วนภูมิภาคยังคงคึกคัก โดยที่จ.สุราษฎร์ธานี ที่บริเวณอาคารอเนกประสงค์ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนเวลา 07.00 น. มีผู้ประกันตนเองเดินทางมาเข้าคิวรอบเช็คกว่า 500 คน บรรยากาศวุ่นวายเล็กน้อย เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาช้ากว่าปกติ เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา กว่าจะเลิกงานก็หลังเที่ยงคืน โดยเจ้าหน้าที่จัดโต๊ะบริการโต๊ะละ 600 คน จำนวน 15 โต๊ะ ป้องกันการสับสน สามารถแจกบัตรคิวได้ในเวลา 08.20 น. และดำเนินการให้รับเช็คได้ในเวลา 09.00 น.
น.ส.จันทร์เพ็ญ ฐิตวัฒนกุล ประกันสังคมจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้ประกันตนเองกว่า 90,000 คน แต่มีผู้ยื่นคำขอรับเช็คทั้งจังหวัด 82,000 คน วันแรกมีผู้รับเช็คไปแล้ว 8,000 ใบ แลกเป็นเงินสดไปจำนวน 3,186 ใบ คิดเป็นเงินจำนวน 6,372,000 บาท และวันที่28 มี.ค. คาดว่าจะมีผู้มารับเช็คที่เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี อีกประมาณ 10,000 คน เนื่องจากเป็นวันเสาร์ และทางสำนักงานประกันสังคม ได้เปิดจุดให้บริการรับเพียงแห่งเดียว แต่ยังมีเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งออกดำเนินการบริการจ่ายเช็คให้แก่ผู้ประกันตนเองถึงในโรงงานต่างๆ
ส่วนที่ จ.นราธิวาส ที่ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเปิดเป็นสถานที่รับลงทะเบียนของกลุ่มผู้รับเบี้ยหวัด เบี้ยบำนาญในการขอรับเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท กลุ่มข้าราชการบำนาญเข้ามาลงทะเบียนขอรับเช็คกันอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสังกัดสัสดีจังหวัด และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาสเขต 1
นายสุธี จึงมีผลบุญ คลังจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้มีกลุ่มผู้รับเบี้ยหวัด และเบี้ยบำนาญ มาขอรับเช็คจำนวนน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับจำนวนผู้มีสิทธิ์รับเช็คทั้งหมด 1,279 ราย ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะยังไม่ทราบข่าว และไม่แน่ใจว่าตนเองจะได้รับเช็คช่วยชาติหรือไม่ ซึ่งสำนักงานคลังจังหวัดเองได้จัดทำรายชื่อติดไว้ เพื่อให้ผู้รับเบี้ยหวัดและเบี้ยบำนาญมาตรวจสอบในเบื้องต้น
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแจกเช็คช่วยชาติ ที่มีปัญหาอุปสรรคต่างๆว่า ได้หารือกับ รมว.แรงงาน ให้หาทางแก้ปัญหาและอุปสรรคข้อบกพร่องอะไรก็ต้องหาทางแก้ไข แต่ก็ต้องขอความเห็นใจนิดหนึ่งว่า จำนวนคนที่มารับเช็คเยอะจริงๆ จึงได้บอกไปว่าบทเรียนความไม่สะดวกก็ขอให้ปรับปรุงแก้ไขเสีย ซึ่งรัฐมนตรีก็ได้ติดตามดูอย่างใกล้ชิด
ส่วนปัญหาความไม่สะดวกและข้อบกพร่องเป็นเพราะอะไรนั้น ตนคิดว่าก็มีทั้งปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ล่ม ก็ทำให้เป็นอุปสรรคเหมือนกัน แต่เรื่องการจัดการเขาก็ต้องไปทบทวน แม้ว่าเป็นการทำครั้งเดียวก็ตาม แต่ก็เป็นบทเรียนสำหรับการจัดการ เวลาที่มีคนจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็สามารถผ่านได้เรียบร้อย
ด้านนายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน ยอมรับว่ามีความผิดพลาดในการจ่ายเช็คช่วยชาติ เนื่องจากไม่คาดคิดว่าจะมีผู้ประกันตนมารับเช็คจำนวนมากในวันแรก โดยเฉพาะผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่อยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และต้องเดินทางไปรับเช็คที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ในระหว่างวันที่ 26 - 28 มี.ค.ประกอบกับเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการมีจำนวนไม่เพียงพอ แต่หากผู้ประกันตนกระจายกันไปรับเช็คให้ครอบคลุมทั้ง 3 วัน ก็จะไม่เกิดปัญหา ซึ่งวานนี้ (27 มี.ค.) ก็ได้มีการปรับปรุงแก้ไขให้การจ่ายเช็คมีความคล่องตัวมากขึ้นแล้ว
นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า ในการบริการประชาชนในวันที่สองของการรับเช็คนั้นผลงานเป็นที่พอใจ ประชาชนร้องเรียนน้อยลง ซึ่งจากปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ทางสปส. ก็แก้ปัญหาด้วยการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ทั้งส่วนสปส. และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีประชาชนมารับเช็คเป็นจำนวนมาก และมีปัญหาขลุกขลักเล็กน้อย ซึ่งในการแจกเช็ควันสุดท้ายวันนี้ (29 มี.ค.) คาดว่าจะมีประชาชนมาเป็นจำนวนมาก ตนก็จะจัดเตรียมพนักงาน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้รับความสะดวกที่สุด
**เปลี่ยนเขียนบัตรคิวด้วยมือ
สำหรับบรรยากาศการรับเช็คช่วยชาติ ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม. วานนี้ (27 มี.ค.) เป็นวันที่ 2 ของการเปิดให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (ผู้ประกันตนในระบบปกติ) ในพื้นที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 1 ได้แก่ พระนคร ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย และสัมพันธวงศ์ และผู้ประกันตนมาตรา 39 (ผู้ประกันตนโดยสมัครใจ) เข้ารับเช็คช่วยชาติ ยังคงมีความวุ่นวายเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ทางสำนักงานประกันสังคมได้จัดระบบใหม่ โดยเปลี่ยนจากการกดรับบัตรคิว เป็นเขียนบัตรคิวด้วยมือแทน พร้อมทั้งมีการนำแผงเหล็กมากั้นเป็นช่องตั้งแต่การตั้งแถวก่อนเข้ารับเช็ค จนถึงขั้นตอนการรับเช็คที่จะมีการกั้นเป็นล็อกๆ มีการนำเต็นท์มากางเพิ่มเติมเพื่อบังแดด รวมทั้งรถเคลื่อนที่น้ำประปาดื่มได้ ตลอดจนตั้งแทงก์น้ำมาไว้คอยบริการประชาชน ตลอดจนได้มีการประสานไปยังกองทัพ เพื่อส่งสารวัตรทหารมาคอยดูแลความเรียบร้อยบริเวณประตูทางเข้า-ออกเต้นท์ รวมถึงกทม.ได้อำนวยความสะดวกด้วยการจัดส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าอาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (อปพร.) จำนวน 60 นาย เข้ามาช่วยดูแลความเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกันตนทั้ง 2 มาตรา มาเข้าคิวเพื่อรับเช็คจำนวนมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่เริ่มทำการจ่ายเช็คล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ เพราะเกิดการขัดข้องจากระบบไฟฟ้า เนื่องจากบริษัทรับเหมาที่ว่าจ้างไว้ดำเนินการมาล่าช้า ทำให้ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถใช้เครื่องขยายเสียง ประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการรับเช็คได้จนกองประชาสัมพันธ์ กทม.ได้นำรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ออกมาช่วยเหลือ
นอกจากนี้ยังไม่สามารถเปิดคอมพิวเตอร์ เพื่อตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ หรือเปิดเครื่องปรับอากาศ และพัดลมไอน้ำที่เตรียมไว้คลายร้อนภายในเต้นท์ จนต้องเลื่อนการจ่ายเช็คออกไปจนเกือบ 09.00 น. ถึงจะดำเนินการได้ตามปกติ ซึ่งสำนักงานประกันสังคมได้เขียนป้ายประกาศติดภายในเต้นท์ เพื่อแจ้งผู้ประกันตนมาตรา 39 ว่าหากไม่สามารถรับเช็คได้ภายในวันที่ 27-28 มี.ค. ให้ไปรับได้ในวันที่ 4-6 เม.ย. ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ที่ส่งเงิน
**สวดแหลกควรเตรียมพร้อมกว่านี้
น.ส.รัตนา พูลภิบาล อายุ 49 ปี ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เขตพื้นที่ 1 กล่าวว่า เดินทางมารอรับเช็ค ตั้งแต่เวลา 04.00 น. เพราะต้องการรับเช็คเป็นคนแรกๆ ของวันนี้ โดยเมื่อวานนี้ มารอตั้งแต่ เวลา 07.00 น. จนถึง17.00 น.แต่ไม่สามารถรับเช็คได้ เพราะเข้าแถวผิด วันนี้ตั้งใจว่าหากยังไม่ได้อีกก็จะรอไปรับเช็คที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่แทน ทั้งนี้ รู้สึกเห็นใจ และไม่อยากตำหนิเจ้าหน้าที่ แต่ก็ควรจะมีการเตรียมความพร้อมกว่านี้
ด้านนายวิชัย อริยะ อายุ 47 ปี ผู้ประกันตนที่เป็นคนพิการ นั่งรถวีลแชร์มารอรับเช็ค กล่าวว่าไม่เห็นด้วยที่ให้คนมารอจำนวนมากแบบนี้ น่าจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีมากกว่า เมื่อวานทราบข่าวทางสื่อมวลชน เห็นความวุ่นวาย คนเป็นลมจำนวนมาก คิดว่าวันนี้จะดีขึ้น แต่ก็ยังคงไม่เป็นระเบียบเหมือนเดิม การเตรียมความพร้อมต้องถือว่าเป็นศูนย์ ตนแม้จะเป็นคนพิการ แต่ก็ไม่เห็นเจ้าหน้าที่มาสนใจ ถามใครก็ไม่รู้เรื่อง ทั้งนี้ ไม่ต้องการสิทธิพิเศษอะไร แต่อยากให้มีการประชาสัมพันธ์หรือเตรียมพร้อมให้มากกว่านี้
**ซื้อข้าวยืนกินขณะเข้าแถว
สำหรับในช่วงบ่ายจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 39 มารับเช็คช่วยชาติ ในจำนวนที่น้อยลงกว่าเดิมค่อนข้างมาก ทำให้เวลารอคิวลดลงซึ่งสามารถเดินเข้าไปรับเช็คได้ทันที แตกต่างจากที่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ยืนต่อแถวยาวเหยียดนับพันคน เพื่อรอตรวจสอบสิทธิภายในเต้นท์ โดยบางรายกลัวเสียเวลา ก็ไปซื้อข้าวมายืนกินขณะเข้าแถว ซึ่งยังคงใช้เวลานานนับชั่วโมงเช่นเดิม ขณะเดียวกันก็ยังมีผู้ประกันตนหลายรายเกิดอาการเป็นลม เจ้าหน้าที่พยาบาลต้องช่วยกันปฐมพยาบาล เนื่องจากอากาศร้อนอบอ้าว แม้จะมีการเปิดพัดลม และเครื่องปรับอากาศ เพื่อทำความเย็นแต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้
นอกจากนี้ จากการสอบถามไปยังผู้ประกอบการห้างค้าปลีกที่มาตั้งบูทจำหน่ายสินค้าที่ลานคนเมือง อาทิ บิ๊กซี ทราบว่า ยอดจำหน่ายสินค้าเมื่อวันที่ 26 มี.ค. รายได้ทะลุ 1 แสนบาท ซึ่งตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่บู๊ธห้างเทสโก้โลตัส มีผู้ประกันตนให้ความสนใจนำเช็คช่วยชาติมูลค่า 2,000 บาท มาแลกเป็นคูปองจำนวนมากเช่นกัน ขณะที่วานนี้ ผู้ประกันส่วนใหญ่เมื่อรับเช็คแล้วจำขึ้นเงินกับธนาคารกรุงเทพ ที่มาตั้งบูทอำนวยความสะดวกทันที
ขณะเดียวกัน สปส.ได้เพิ่มช่องทางลัดสำหรับผู้ประกันตน มาตรา 33 ซึ่งทำงานอยู่บริษัทเดียวกันจำนวนกลุ่มละ 10 คนขึ้นไป โดยให้ตัวแทน 1 คน รวบรวมเอกสารของเพื่อนในบริษัทเดียวกันตามจำนวนดังกล่าวส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร เสร็จเรียบร้อยจากนั้นให้เรียกเข้าไปรับเช็คช่วยชาติ ซึ่งเมื่อเลยเวลาเลิกงานพนักงานบริษัท ห้างร้านต่างๆ ที่อยู่ในสำนักงานประกันสังคมพื้นที่ 1 เดินทางมาเป็นจำนวนมาก
**ลูกเขย'เจริญ'เพิ่มค่าเช็คช่วยชาติ
นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสแอนด์เอส เรสซิเดนเชียล ในเครือทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ กล่าวว่า ลูกค้าที่ซื้อคอนโดฯโครงการเอสแอนด์เอส สุขุมวิท 101/1 ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มิ.ย.52 จะได้รับสิทธิพิเศษส่วนลดเพิ่มอีก 50,000 บาท สำหรับเงินโอนงวดสุดท้าย ทั้งนี้ ลูกค้าเพียงนำเช็ครัฐบาลมูลค่า 2,000 บาท พร้อมเงินสดอีกเพียง 8,000 บาท มาจองซื้อคอนโดฯ เอสแอนด์เอสฯ ซึ่งมีราคาขายเริ่มต้น 1.3 ล้านบาท ก็จะได้รับส่วนลดเงินโอน 50,000 ดังกล่าวแล้ว
**ผู้ประกันตนในภูมิภาคยังแห่รับเช็ค
บรรยากาศการรับเช็คช่วยชาติ วันที่ 2 ในส่วนภูมิภาคยังคงคึกคัก โดยที่จ.สุราษฎร์ธานี ที่บริเวณอาคารอเนกประสงค์ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนเวลา 07.00 น. มีผู้ประกันตนเองเดินทางมาเข้าคิวรอบเช็คกว่า 500 คน บรรยากาศวุ่นวายเล็กน้อย เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาช้ากว่าปกติ เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา กว่าจะเลิกงานก็หลังเที่ยงคืน โดยเจ้าหน้าที่จัดโต๊ะบริการโต๊ะละ 600 คน จำนวน 15 โต๊ะ ป้องกันการสับสน สามารถแจกบัตรคิวได้ในเวลา 08.20 น. และดำเนินการให้รับเช็คได้ในเวลา 09.00 น.
น.ส.จันทร์เพ็ญ ฐิตวัฒนกุล ประกันสังคมจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้ประกันตนเองกว่า 90,000 คน แต่มีผู้ยื่นคำขอรับเช็คทั้งจังหวัด 82,000 คน วันแรกมีผู้รับเช็คไปแล้ว 8,000 ใบ แลกเป็นเงินสดไปจำนวน 3,186 ใบ คิดเป็นเงินจำนวน 6,372,000 บาท และวันที่28 มี.ค. คาดว่าจะมีผู้มารับเช็คที่เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี อีกประมาณ 10,000 คน เนื่องจากเป็นวันเสาร์ และทางสำนักงานประกันสังคม ได้เปิดจุดให้บริการรับเพียงแห่งเดียว แต่ยังมีเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งออกดำเนินการบริการจ่ายเช็คให้แก่ผู้ประกันตนเองถึงในโรงงานต่างๆ
ส่วนที่ จ.นราธิวาส ที่ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเปิดเป็นสถานที่รับลงทะเบียนของกลุ่มผู้รับเบี้ยหวัด เบี้ยบำนาญในการขอรับเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท กลุ่มข้าราชการบำนาญเข้ามาลงทะเบียนขอรับเช็คกันอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสังกัดสัสดีจังหวัด และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาสเขต 1
นายสุธี จึงมีผลบุญ คลังจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้มีกลุ่มผู้รับเบี้ยหวัด และเบี้ยบำนาญ มาขอรับเช็คจำนวนน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับจำนวนผู้มีสิทธิ์รับเช็คทั้งหมด 1,279 ราย ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะยังไม่ทราบข่าว และไม่แน่ใจว่าตนเองจะได้รับเช็คช่วยชาติหรือไม่ ซึ่งสำนักงานคลังจังหวัดเองได้จัดทำรายชื่อติดไว้ เพื่อให้ผู้รับเบี้ยหวัดและเบี้ยบำนาญมาตรวจสอบในเบื้องต้น