แม็คโคร เดินหน้าโฟกัสกลุ่มสินค้าอาหารสด-แห้ง อุปกรณ์ครัว รับคนตกงานแห่ประกอบอาชีพทำร้านโชวห่วย รถเข็น เกลื่อน อานิสงส์พิษเศรษฐกิจบูมสินค้ากลุ่มโฮรีก้า หลังปีที่ผ่านมาตลาดโตพรวดกว่า 30%
นางสุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามแม็คโคร ผู้ดำเนินธุรกิจห้างค้าปลีกส่งรายใหญ่ แม็คโคร เปิดเผยว่า นโยบายของแม็คโครมุ่งเน้นการทำตลาดสินค้ากลุ่มอาหารสด-แห้ง และกลุ่มนอนฟู้ด อาทิ อุปกรณ์การทำครัว ในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อรองกรับกับแนวโน้มกลุ่มธุรกิจสินค้าอาหารสด-แห้งสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมภัตตาคารและบริการจัดเลี้ยง(โฮรีกา) ซึ่งคาดว่ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น จากปีที่ผ่านมาเติบโตกว่า 30%
โดยการเติบโตของกลุ่มโฮรีก้า เพราะได้รับอานิสงส์ปัญหาคนว่างงาน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้กลุ่มดังกล่าวหันมาประกอบอาชีพอิสระ อาทิ ร้านโชวห่วยและรถเข็น นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมสนับสนุนแคมเปญเช็คช่วยชาติโดยมียอดซื้อสินค้าขั้นต่ำ500 บาท พร้อมจัดรายการชุดสินค้าราคาสุดพิเศษ ประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค และของใช้จำเป็นพร้อมรับเงินทอนทันที ประกอบด้วย 5 ชุดสินค้า เป็นต้น
ขณะเดียวกันยังจัดโครงการสร้างอาชีพเสริมรายได้ สำหรับผู้อยากเปิดร้านโชวห่วยขนาดเล็กที่บ้าน หรือแหล่งชุมชน โดยแม็คโครจัดชุดสินค้าจำหน่ายในราคาพิเศษแบ่งออกเป็น 3 แพกเกจ คือ ชุดเล็ก 2,900 บาท ชุดกลาง 4,900 บาท และชุดใหญ่ 9,900 บาท เมื่อลูกค้าขายหมดจะได้กำไรทันที 30%
พร้อมกันนี้บริษัทใช้งบลงทุน1,000 ล้านบาท ขยายสาขาแม็คโครเพิ่ม 2 แห่ง ได้แก่ ย่านรามอินทราบนพื้นที่ประมาณ 8,000 ตร.ม.และจังหวัดชุมพร พื้นที่ 7,000 ตร.ม.จากปีที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้ขยายสาขาใหม่ โดยปัจจุบันห้างแม็คโครมีสาขาทั้งสิ้น 41 แห่ง
นางสุชาดา กล่าวว่า จากการดำเนินการตลาดเชิงรุกปีนี้ บริษัทตั้งเป้าโตขึ้นจากสาขาเดิมราว 6% ซึ่งมากกว่าอัตราเติบโตผลผลิตมวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ราว5% จากปีที่ผ่านมาบริษัทมีอัตราเติบโตทั้งกลุ่ม 16%
นางสุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามแม็คโคร ผู้ดำเนินธุรกิจห้างค้าปลีกส่งรายใหญ่ แม็คโคร เปิดเผยว่า นโยบายของแม็คโครมุ่งเน้นการทำตลาดสินค้ากลุ่มอาหารสด-แห้ง และกลุ่มนอนฟู้ด อาทิ อุปกรณ์การทำครัว ในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อรองกรับกับแนวโน้มกลุ่มธุรกิจสินค้าอาหารสด-แห้งสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมภัตตาคารและบริการจัดเลี้ยง(โฮรีกา) ซึ่งคาดว่ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น จากปีที่ผ่านมาเติบโตกว่า 30%
โดยการเติบโตของกลุ่มโฮรีก้า เพราะได้รับอานิสงส์ปัญหาคนว่างงาน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้กลุ่มดังกล่าวหันมาประกอบอาชีพอิสระ อาทิ ร้านโชวห่วยและรถเข็น นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมสนับสนุนแคมเปญเช็คช่วยชาติโดยมียอดซื้อสินค้าขั้นต่ำ500 บาท พร้อมจัดรายการชุดสินค้าราคาสุดพิเศษ ประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค และของใช้จำเป็นพร้อมรับเงินทอนทันที ประกอบด้วย 5 ชุดสินค้า เป็นต้น
ขณะเดียวกันยังจัดโครงการสร้างอาชีพเสริมรายได้ สำหรับผู้อยากเปิดร้านโชวห่วยขนาดเล็กที่บ้าน หรือแหล่งชุมชน โดยแม็คโครจัดชุดสินค้าจำหน่ายในราคาพิเศษแบ่งออกเป็น 3 แพกเกจ คือ ชุดเล็ก 2,900 บาท ชุดกลาง 4,900 บาท และชุดใหญ่ 9,900 บาท เมื่อลูกค้าขายหมดจะได้กำไรทันที 30%
พร้อมกันนี้บริษัทใช้งบลงทุน1,000 ล้านบาท ขยายสาขาแม็คโครเพิ่ม 2 แห่ง ได้แก่ ย่านรามอินทราบนพื้นที่ประมาณ 8,000 ตร.ม.และจังหวัดชุมพร พื้นที่ 7,000 ตร.ม.จากปีที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้ขยายสาขาใหม่ โดยปัจจุบันห้างแม็คโครมีสาขาทั้งสิ้น 41 แห่ง
นางสุชาดา กล่าวว่า จากการดำเนินการตลาดเชิงรุกปีนี้ บริษัทตั้งเป้าโตขึ้นจากสาขาเดิมราว 6% ซึ่งมากกว่าอัตราเติบโตผลผลิตมวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ราว5% จากปีที่ผ่านมาบริษัทมีอัตราเติบโตทั้งกลุ่ม 16%