ดิอาจิโอฯ ชี้ ตลาดน้ำเมากว่า 1 หมื่นล้านบาท หดตัว 5-10% ระบุ สงกรานต์ส่อแววสะดุด เพราะพิษเศรษฐกิจ ชูแผนสร้างความสัมพันธ์อัดกิจกรรม สกัดลูกค้าซบอกคู่แข่ง จ่อคิวรีเฟรชแบรนด์เบนมอร์ รอบ 5 ปี หวังปลุกเหล้าเซ็กเมนต์สแตนดาร์ด หลังตลาดหดตัว คนแห่ดื่มเหล้าโลคัลแทน วางหมากเบนมอร์ตอดแชร์ฮันเดรดฯ มั่นใจรายได้โตตามเป้าหมาย
นายอิศเรศ สุนทราวรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าวิสกี้ตระกูลจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเหล้านำเข้ามูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท ในปีนี้คาดว่า มีการขยายตัวลดลง 5-10% ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาตลาดหดตัวลง 5-10% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ โดยเริ่มได้รับผลกระทบรุนแรงต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เซ็กเมนต์สแตนดาร์ดหดตัวมากที่สุด เพราะผู้บริโภคหันไปดื่มเหล้าโลคัลมากขึ้น ส่วนเหล้าพรีเมียมยังมีการเติบโต เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อ
สำหรับแผนการตลาดปีนี้ บริษัทเตรียมดำเนินการตลาดเชิงรุก “เบนมอร์” เหล้าเซ็กเมนต์สแตนดาร์ด ซึ่งบริษัทวางหมากให้เป็นตัวสำคัญในการทำตลาดปีนี้ จากปัจจุบันเบนมอร์มีส่วนแบ่ง 10-20% ขณะที่ ฮันเดรด ไพเพอร์ส ผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 60% ล่าสุด ได้เตรียมรีเฟรชแบรนด์เบนมอร์ใหม่ หลังจากเปิดตัวลงสู่ตลาด 5 ปี ทั้งนี้ เพื่อรองรับกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย โดยโพซิชันนิงยังเหมือนเดิม แต่จะมีการเปิดตัวแคมเปญใหม่ มุ่งเน้นการสื่อสาร เพื่อทำให้แบรนด์มีความแตกต่างมากยิ่งขึ้น
ด้านการทำตลาดวิสกี้ตระกูลจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โดยเฉพาะสินค้าแบล็ก เลเบิ้ล และ เรด เลเบิ้ล ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 70-80% และเป็นสินค้าเรือธงสร้างรายได้ 35-40% บริษัทมุ่งเน้นรักษาฐานลูกค้า โดยการสร้างความสัมพันธ์กลุ่มเป้าหมาย ผ่านทางสื่อโฆษณาและกิจกรรมออนพรีมิส เพื่อสร้างแบรนด์รอยัลตี สกัดลูกค้าที่จะหันไปดื่มเครื่องดื่มยี่ห้ออื่นๆ มีน้อย ล่าสุดจัดกิจกรรมต่อเนื่องจากแคมเปญโฆษณา “The Pact Between Men” ภายใต้แนวคิดความสำเร็จจะยิ่งใหญ่กว่าถ้าก้าวไปด้วยกัน สำหรับสมาชิก The Pact ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 1 แสนราย คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงาน 1,000 ราย ที่สถานบันเทิงพัทยา
ขณะที่ เรด เลเบิ้ล มุ่งจัดกิจกรรมออนเทรด ล่าสุด เตรียมจัดกิจกรรม “REDioactive” ปีที่ 4 ที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังมาถึง ท่ามกลางตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงสงกรานต์ปีนี้ คาดว่า จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ส่วนมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลของทางภาครัฐ ขณะนี้ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน ดังนั้น บริษัทจึงยังไม่ได้ปรับแผนการตลาดแต่อย่างใด ส่วน โกลด์ เลเบิ้ล วิสกี้เซ็กเมนต์ซูเปอร์ดีลักซ์ บริษัทเน้นการให้ความรู้คุณภาพสินค้าแก่ผู้บริโภค ซึ่งหลังจากปรับราคาลดลง ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 20-30% โดยปัจจุบันมีส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 50-60%
นายอิศเรศ กล่าวว่า ตลาดวิสกี้เซ็กเมนต์พรีเมียม มีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก หากมีสร้างพฤติกรรมผู้บริโภคพัฒนาสู่จากดื่มที่ดียิ่งขึ้น จากเซ็กเมนต์สแตนดาร์ดมาสู่พรีเมียม ต่อยอดมาถึงดีลักซ์และซูเปอร์ดีลักซ์ โดยผลประกอบการรอบบัญชีเดือนกรกฎาคม 2551-มิถุนายน 2552 ครึ่งปีแรกมีอัตราการเติบโตดี ส่วนทั้งปีคาดว่า มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขหลักเดียว เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาชี้ตลาดน้ำเมากว่า 1 หมื่นล้านบาท หดตัว 5-10% ระบุ สงกรานต์ส่อแววสะดุด เพราะพิษเศรษฐกิจ ชูแผนสร้างความสัมพันธ์อัดกิจกรรม สกัดลูกค้าซบอกคู่แข่ง จ่อคิวรีเฟรชแบรนด์เบนมอร์ รอบ 5 ปี หวังปลุกเหล้าเซกเมนต์สแตนดาร์ด หลังตลาดหดตัว คนแห่ดื่มเหล้าโลคัลแทน วางหมากเบนมอร์ตอดแชร์ฮันเดรดฯ มั่นใจรายได้โตตามเป้าหมาย
นายอิศเรศ สุนทราวรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าวิสกี้ตระกูลจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเหล้านำเข้ามูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท ในปีนี้คาดว่า มีการขยายตัวลดลง 5-10% ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาตลาดหดตัวลง 5-10% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ โดยเริ่มได้รับผลกระทบรุนแรงต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เซ็กเมนต์สแตนดาร์ดหดตัวมากที่สุด เพราะผู้บริโภคหันไปดื่มเหล้าโลคัลมากขึ้น ส่วนเหล้าพรีเมียมยังมีการเติบโต เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อ
สำหรับแผนการตลาดปีนี้ บริษัทเตรียมดำเนินการตลาดเชิงรุก “เบนมอร์” เหล้าเซ็กเมนต์สแตนดาร์ด ซึ่งบริษัทวางหมากให้เป็นตัวสำคัญในการทำตลาดปีนี้ จากปัจจุบันเบนมอร์มีส่วนแบ่ง 10-20% ขณะที่ ฮันเดรด ไพเพอร์ส ผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 60% ล่าสุด ได้เตรียมรีเฟรชแบรนด์เบนมอร์ใหม่ หลังจากเปิดตัวลงสู่ตลาด 5 ปี ทั้งนี้ เพื่อรองรับกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย โดยโพซิชันนิงยังเหมือนเดิม แต่จะมีการเปิดตัวแคมเปญใหม่ มุ่งเน้นการสื่อสาร เพื่อทำให้แบรนด์มีความแตกต่างมากยิ่งขึ้น
ด้านการทำตลาดวิสกี้ตระกูลจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โดยเฉพาะสินค้าแบล็ก เลเบิ้ล และ เรด เลเบิ้ล ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 70-80% และเป็นสินค้าเรือธงสร้างรายได้ 35-40% บริษัทมุ่งเน้นรักษาฐานลูกค้า โดยการสร้างความสัมพันธ์กลุ่มเป้าหมาย ผ่านทางสื่อโฆษณาและกิจกรรมออนพรีมิส เพื่อสร้างแบรนด์รอยัลตี สกัดลูกค้าที่จะหันไปดื่มเครื่องดื่มยี่ห้ออื่นๆ มีน้อย ล่าสุดจัดกิจกรรมต่อเนื่องจากแคมเปญโฆษณา “The Pact Between Men” ภายใต้แนวคิดความสำเร็จจะยิ่งใหญ่กว่าถ้าก้าวไปด้วยกัน สำหรับสมาชิก The Pact ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 1 แสนราย คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงาน 1,000 ราย ที่สถานบันเทิงพัทยา
ขณะที่ เรด เลเบิ้ล มุ่งจัดกิจกรรมออนเทรด ล่าสุด เตรียมจัดกิจกรรม “REDioactive” ปีที่ 4 ที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังมาถึง ท่ามกลางตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงสงกรานต์ปีนี้ คาดว่า จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ส่วนมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลของทางภาครัฐ ขณะนี้ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน ดังนั้น บริษัทจึงยังไม่ได้ปรับแผนการตลาดแต่อย่างใด ส่วน โกลด์ เลเบิ้ล วิสกี้เซ็กเมนต์ซูเปอร์ดีลักซ์ บริษัทเน้นการให้ความรู้คุณภาพสินค้าแก่ผู้บริโภค ซึ่งหลังจากปรับราคาลดลง ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 20-30% โดยปัจจุบันมีส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 50-60%
นายอิศเรศ กล่าวว่า ตลาดวิสกี้เซ็กเมนต์พรีเมียม มีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก หากมีสร้างพฤติกรรมผู้บริโภคพัฒนาสู่จากดื่มที่ดียิ่งขึ้น จากเซ็กเมนต์สแตนดาร์ดมาสู่พรีเมียม ต่อยอดมาถึงดีลักซ์และซูเปอร์ดีลักซ์ โดยผลประกอบการรอบบัญชีเดือนกรกฎาคม 2551-มิถุนายน 2552 ครึ่งปีแรกมีอัตราการเติบโตดี ส่วนทั้งปีคาดว่า มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขหลักเดียว เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาชี้ตลาดน้ำเมากว่า 1 หมื่นล้านบาท หดตัว 5-10% ระบุ สงกรานต์ส่อแววสะดุด เพราะพิษเศรษฐกิจ ชูแผนสร้างความสัมพันธ์อัดกิจกรรม สกัดลูกค้าซบอกคู่แข่ง จ่อคิวรีเฟรชแบรนด์เบนมอร์ รอบ 5 ปี หวังปลุกเหล้าเซกเมนต์สแตนดาร์ด หลังตลาดหดตัว คนแห่ดื่มเหล้าโลคัลแทน วางหมากเบนมอร์ตอดแชร์ฮันเดรดฯ มั่นใจรายได้โตตามเป้าหมาย
