ผู้ว่าการ ธปท.ยอมรับ ศก.ปี 52 มีโอกาสติดลบ ตามที่สภาพัฒน์คาดการณ์ มั่นใจไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย เพราะการอัดฉีดเงินของรัฐบาลเริ่มลงสู่ระบบแล้ว ส่วนกรณี “มูดี้ส์” วิพากษ์ ศก.ไทย แย่ที่สุดในเอเชีย เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และไม่แน่ใจว่ากำลังพูดถึงข้อมูลอะไร เพราะให้แต่ข้อมูลของไทย โดยไม่เอาข้อมูลของประเทศอื่นๆ มาพูด
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2553 คาดว่า จะฟื้นตัวได้ดีกว่าปี 2552 หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะฟื้นตัวได้ปลายปี 2552 และเชื่อว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกปี 2552 จะดีกว่าไตรมาส 4 ปี 2551
ผู้ว่าการ ธปท.ยังเชื่อว่า เศรษฐกิจไทยจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากเริ่มมีการใช้จ่ายงบประมาณ และการลงทุนของภาครัฐแล้ว ซึ่งในไตรมาสที่ 2 น่าจะหยุดปัญหาการติดลบได้ และเริ่มดีขึ้นได้ ในไตรมาสที่ 3
“หากนำเศรษฐกิจไตรมาสแรกปีนี้ไปเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว จะติดลบแน่นอน เพราะไตรมาส 1 ปีที่แล้ว เศรษฐกิจไทยเติบโต 6.1% แต่หากเทียบไตรมาสแรกปีนี้กับไตรมาส 4 ปีที่แล้ว เชื่อว่าเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น”
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยทั้งปี 2552 มีโอกาสต่ำกว่าร้อยละ 0 ได้ ซึ่งสอดคล้องในทิศทางเดียวกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้คาดการณ์
ส่วนกรณีที่สถาบันจัดอันดับความเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ออกมาระบุว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ปี 2551 ได้รับผลกระทบและเกิดวิกฤตหนักที่สุดในเอเชีย นางธาริษา ยืนยันว่า เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และไม่แน่ใจว่ากำลังพูดถึงข้อมูลอะไร เพราะไม่ได้เอาข้อมูลของประเทศอื่นมาให้ดูด้วย โดยให้แต่ข้อมูลของไทยมาพูด เท่านั้น
“การวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจเอเชีย ควรต้องดูเปรียบเทียบ เพราะถ้าดูข้อมูลของประเทศอื่นๆ ในเอเชียแล้ว จะพบว่า เศรษฐกิจย่ำแย่กว่าไทย การส่งออกต่ำกว่า เพราะฉะนั้น หากดูแล้วไม่น่าจะเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง”