xs
xsm
sm
md
lg

"ทหารไทย"เล็งธุรกิจลีสซิ่ง รอบอร์ดอนุมัติ-คาดรู้ผลQ2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทหารไทยรับสนใจทำธุรกิจลีสซิ่ง หวังเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้กว้างขึ้น เปิด 2 ทางเลือก ตั้งบริษัทขึ้นมาเองหรือหาพันธมิตรร่วม แต่ยันไม่มีแผนซื้อกิจการเข้ามาเพื่อขยายพอร์ตยอดรวดเร็ว คาดมีความชัดเจนในไตรมาส 2 พร้อมหันรุกหารายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่ม โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่จะหันมาออกหุ้นกู้แทนการกู้เงินจากบ.แม่ต่างประเทศที่อาจมีปัญหาจากวิกฤตเศรษฐกิจ

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารมีความสนใจที่จะดำเนินธุรกิจเช่าซื้อหรือลีสซิ่งเพิ่มเติมจากธุรกรรมที่ธนาคารทำอยู่แล้ว อาทิ บริการเงินฝาก บริการด้านสินเชื่อ หรือการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและสนองตอบความต้องการของลูกค้าให้ครบถ้วนมากขึ้น เช่นเดียวกับสถาบันการเงินหรือธนาคารพาณิชย์อื่นๆที่มีธุรกิจเช่าซื้ออยู่ในฐานการทำธุรกิจด้วย ขณะที่ในปัจจุบันธนาคารยังไม่มีบริการดังกล่าวจึงเป็นช่องทางที่ทำให้ต้องเสียลูกค้าไปให้กับธนาคารพาณิชย์แห่งอื่น

โดยในการที่จะดำเนินธุรกิจลิสซิ่งนั้นธนาคารมีแนวคิดอยู่ 2 ประเด็นคือธนาคารจะจัดตั้งบริษัทลิสซิ่งขึ้นมาเอง หรือธนาคารจะมีพันธมิตรที่มีความชำนาญเข้ามา ซึ่งจะไม่ใช่การซื้อกิจการที่เป็นลิสซิ่งเข้ามา แต่อย่างไรก็ตามธนาคารมองว่าการที่จะมีธุรกิจลิสซิ่งหรือไม่นั้นจะต้องคำนึงถึงความต้องการลูกค้าเป็นหลักและเพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด

"แม้ว่าปัจจุบันการแข่งขันของธนาคารพาณิชย์เพื่อเพิ่มฐานสินเชื่อให้มากขึ้น ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการซื้อพอร์ตหรือซื้อกิจการเข้ามา เพื่อเป็นทางเลือกในการผลิตภัณฑ์ที่หลากให้กับลูกค้า อย่างกรณีของธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่จะซื้อกิจการของธนาคารเอไอจีเพื่อรายย่อย หรือ เอไอจีแบงก์ และบริษัทเอไอจีคาร์ด (ประเทศไทย) เข้ามาก็ตาม แต่ธนาคารทหารไทยเองมองว่าการทำธุรกิจในปัจจุบันท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่นั้นจะต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ และปัจจัยที่จะกำหนดทิศทางการทำงานของธนาคารคือความต้องการและความสะดวกลูกค้าเป็นสำคัญ"นายบุญทักษ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนการเพิ่มธุรกิจลีสซิ่งนั้น ธนาคารจะต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารทหารไทยก่อน เพื่อหารือถึงความเหมาะสมและเห็นชอบต่อไป โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับแผนที่จะมีธุรกิจลิสซิ่งในไตรมาส 2 นีแน่นอน

ขณะที่นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้ธนาคารจะเน้นหารายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้ามีสัดสวนรายได้ค่าธรรมเนียมเป็น 30% ของรายได้ทั้งหมด โดยเฉพาะบริการที่รองรับแนวโน้มที่ภาคธุรกิจขนาดใหญ่จะหันมาระดมทุนจากในประเทศมากขึ้นแทนการออกไปกู้เงินจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ ธนาคารจะเน้นที่กลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ที่จะออกหุ้นกู้ ซึ่งมีทั้งกลุ่ม บมจ. ปตท. (PTT) บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) กลุ่มบริษัทข้ามชาติ และกลุ่ม Consumer Finance นอกจากนี้ จะมีการแลกเปลี่ยนลูกค้ากับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่คือไอเอ็นจี เพื่อซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทข้ามชาติ เพื่อขยายฐานลูกค้า โดยขณะนี้เริ่มมีการเจรจากันบ้างแล้ว

"ปีนี้เราคงหันไปเน้นลูกค้าที่จะออกหุ้นกู้ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจบริษัทข้ามชาติ ที่จะหันมาระดมเงินในประเทศมากขึ้น หลังบริษัทแม่ประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะญี่ปุ่น และกลุ่มยุโรป ก็น่าสนใจ ซึ่งช่วงที่ผ่านมา กลุ่มทุนข้ามชาติ จะพึ่งพาเงินทุนจากบริษัทแม่ หรือกู้เงินจากต่างประเทศเป็นเงินกว่า 1.2 ล้านล้านบาท แต่ปีนี้คงจะลดลง ซึ่งเป็นอีกช่องทางในการขยายธุรกิจของะนาคาร" นายปิติ กล่าว

สำหรับในปี 52 มองว่ายังมีโอกาสที่ธนาคารจะขยายสินเชื่อได้ในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งแม้แนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับลดลง แต่ธุรกิจโรงกลั่นยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยปัจจุบันธนาคารมียอดสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่ จำนวน 2,000 ราย เป็นวงเงินสินเชื่อรวม 140,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากวิกฤติเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ธุรกิจขนาดใหญ่ที่เคยระดมทุนจากต่างประเทศ หรือพึ่งพาเงินทุนจากบริษัทแม่ หันมาออกหุ้นกู้ในประเทศมากขึ้น ทั้งเพื่อเสริมสภาพคล่องและรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิมนั้น อาจจะกระทบต่อพอร์ตสินเชื่อของธนาคารในปีนี้ได้ ดังนั้น ในปีนี้หากสามารถรักษาระดับฐานลูกค้าเดิมไว้ได้ เพื่อให้ยอดปล่อยสินเชื่อใกล้เคียงปีก่อน ถือว่าน่าพอใจแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น