ททท.ส่ง 10 กิจกรรมปูพรมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ กระตุ้นคู่รักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ปีนี้ ด้าน รองผู้ว่าการ ททท.ตลาดในประเทศ ระบุ ปีนี้ 14 ก.พ.ตรงกับวันหยุด มั่นใจคนไทยจะออกมาเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากทุกปีถึง 10%
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลวันแห่งความรัก (วาเลนไทน์) ปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าวรวมกว่า 10 กิจกรรม กระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ททท.คาดหวังว่า ปีนี้คนไทยจะออกมาเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์กันมากกว่าทุกปีราว 10% เพราะตรงกับวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุด กลุ่มที่จะเที่ยวในเทศกาลนี้ ได้แก่ คนหนุ่มสาว คู่รัก และกลุ่มครอบครัว โดยเป็นการเดินทางท่องเที่ยวในระยะใกล้ เดินทางกันภายในภูมิภาค ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบุคลิกเฉพาะตัว หรือมีความโรแมนติก จะได้รับความนิยมสูงสุด
“วาเลนไทน์ปีนี้ จะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นตัวเลขการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยช่วงไตรมาสแรกได้ เพราะจากผลการศึกษาพบว่าคนไทยจะถือโอกาสช่วงเทศกาลที่มีวันหยุด หรือตรงกับวันหยุดเพื่อเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีว่าพฤติกรรมของคนไทยเริ่มมีการวางแผนเพื่อการท่องเที่ยวมากขึ้น”
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมที่ ททท.เตรียมไว้นั้น แบ่งเป็น 8 กิจกรรมไฮไลต์ ซึ่งเป็นการจัดงานแต่งงาน 8 แห่งกระจายทุกภูมิภาคเน้นนำเสนอรูปแบบงานตามประเพณี หรือบุคลิกในแต่ละท้องถิ่น ได้แก่ วิวาห์ใต้สมุทร จ.ตรัง วันที่ 13-15 ก.พ., พิธีแต่งงานบนหลังช้าง จ.สุรินทร์ วันที่ 14 ก.พ., งานจดทะเบียนสมรสบนยอดภูกระดึง จ.เลย วันที่ 14 ก.พ., พิธีสมรสหมู่แบบคาทอลิก จ.ยโสธร วันที่ 14 ก.พ., เทศกาลปาย…รักสุดขอบฟ้า จ.แม่ฮ่องสอน วันที่ 13-15 ก.พ.เป็นการแต่งงานสไตล์ล้านนา ที่มีขบวนแห่คู่บ่าว-สาวบนหลังช้าง บนแพไม้ไผ่ในลำน้ำปาย
พิธีแต่งงานตามประเพณีไทย จ.พิษณุโลก วันที่ 14 ก.พ., งานแต่งงานบนหลังช้าง จ.ลำปาง วันที่ 14 ก.พ.ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย และเทศกาลบันทึกรักกลางภูผา ปี 6 จ.ปราจีนบุรี วันที่ 13-14 ก.พ.ที่บ้านผางาม รีสอร์ท และน้ำตกเวฬุวัน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่สำคัญอีก 2 งาน ได้แก่ เทศกาลนั่งรถไฟไปตามหาความรัก ที่จังหวัดสระบุรี และกิจกรรมสีสันภาคใต้ ที่จะมีการจัดกิจกรรมท่องเที่ยว 14 จังหวัด 14 วันในภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 14-28 กุมภาพันธ์ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในภูมิภาค และระหว่างภูมิภาคควบคู่กันไป
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลวันแห่งความรัก (วาเลนไทน์) ปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าวรวมกว่า 10 กิจกรรม กระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ททท.คาดหวังว่า ปีนี้คนไทยจะออกมาเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์กันมากกว่าทุกปีราว 10% เพราะตรงกับวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุด กลุ่มที่จะเที่ยวในเทศกาลนี้ ได้แก่ คนหนุ่มสาว คู่รัก และกลุ่มครอบครัว โดยเป็นการเดินทางท่องเที่ยวในระยะใกล้ เดินทางกันภายในภูมิภาค ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบุคลิกเฉพาะตัว หรือมีความโรแมนติก จะได้รับความนิยมสูงสุด
“วาเลนไทน์ปีนี้ จะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นตัวเลขการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยช่วงไตรมาสแรกได้ เพราะจากผลการศึกษาพบว่าคนไทยจะถือโอกาสช่วงเทศกาลที่มีวันหยุด หรือตรงกับวันหยุดเพื่อเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีว่าพฤติกรรมของคนไทยเริ่มมีการวางแผนเพื่อการท่องเที่ยวมากขึ้น”
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมที่ ททท.เตรียมไว้นั้น แบ่งเป็น 8 กิจกรรมไฮไลต์ ซึ่งเป็นการจัดงานแต่งงาน 8 แห่งกระจายทุกภูมิภาคเน้นนำเสนอรูปแบบงานตามประเพณี หรือบุคลิกในแต่ละท้องถิ่น ได้แก่ วิวาห์ใต้สมุทร จ.ตรัง วันที่ 13-15 ก.พ., พิธีแต่งงานบนหลังช้าง จ.สุรินทร์ วันที่ 14 ก.พ., งานจดทะเบียนสมรสบนยอดภูกระดึง จ.เลย วันที่ 14 ก.พ., พิธีสมรสหมู่แบบคาทอลิก จ.ยโสธร วันที่ 14 ก.พ., เทศกาลปาย…รักสุดขอบฟ้า จ.แม่ฮ่องสอน วันที่ 13-15 ก.พ.เป็นการแต่งงานสไตล์ล้านนา ที่มีขบวนแห่คู่บ่าว-สาวบนหลังช้าง บนแพไม้ไผ่ในลำน้ำปาย
พิธีแต่งงานตามประเพณีไทย จ.พิษณุโลก วันที่ 14 ก.พ., งานแต่งงานบนหลังช้าง จ.ลำปาง วันที่ 14 ก.พ.ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย และเทศกาลบันทึกรักกลางภูผา ปี 6 จ.ปราจีนบุรี วันที่ 13-14 ก.พ.ที่บ้านผางาม รีสอร์ท และน้ำตกเวฬุวัน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่สำคัญอีก 2 งาน ได้แก่ เทศกาลนั่งรถไฟไปตามหาความรัก ที่จังหวัดสระบุรี และกิจกรรมสีสันภาคใต้ ที่จะมีการจัดกิจกรรมท่องเที่ยว 14 จังหวัด 14 วันในภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 14-28 กุมภาพันธ์ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในภูมิภาค และระหว่างภูมิภาคควบคู่กันไป