เกษร เผย ปีที่แล้วยอดรายได้ทรงตัว ส่วนปีนี้ตั้งเป้าโตที่ 8% พร้อมเน้น 4 กลุ่มหลัก จับมือแบรนด์ดัง หวังดึงคนชอป อัดกิจกรรมตลอดปี
นางสาธิมา ทานาเบ้ รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท เกษร แลนด์ แอสเซท แมนเนจเมนท์ จำกัด ผู้บริหาร เกษรพลาซ่า เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2551 ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1-ไตรมาสที่ 3 มีการเติบโตถึง 15% แต่ในช่วงไตรมาสสุดท้าย ปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 15% เนื่องจากปัญหาการเมือง รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน แต่โดยรวมแล้วผลประกอบมีอัตราการเจริญเติบโตคงที่เมื่อเทียบกับปี 2550 ส่วนในปี 2552 ตั้งเป้าโตสิ้นปีมียอดรวมปรับตัวสูงขึ้น 5-8%
ส่วนทิศทางในการดำเนินงานในปีนี้ มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อให้สอดรับกับกระแสเศรษฐกิจภายในประเทศและต่างประเทศ โดยจะเน้นการสร้างความเข้าใจและเข้าถึงลูกค้าหลัก 4 กลุ่มสำคัญ และพร้อมเดินหน้าจับมือกับคู่ค้า และแบรนด์ดังในศูนย์จัดกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟ ร่วมกับแคมเปญทางการตลาดต่อเนื่องทุกเดือน และทุกเทศกาลสำคัญ โดยในปีนี้จะจัดกิจกรรมทั้งหมด 22 งาน แบ่งเป็น ไอโคนิคอีเวนต์ 4 งาน โปรโมชัน 12 งาน และงานย่อยๆ อีก 6 งาน
โดยจะเดินหน้าดำเนินการเจาะกลุ่มลูกค้าหลักใน 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ Millennium Money, Old Money, New Money และ Middle Money ให้ตรงจุดและนำเสนอสินค้า บริการ ประสบการณ์ รวมถึงโปรโมชันจูงใจที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น
ขณะที่ยอดหมุนเวียนของผู้ที่เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์การค้าเกษร ในปี 2550 สัดส่วนชาวไทยและชาวต่างชาติ 50:50 ทั้งนี้ ในปลายปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนที่เปลี่ยนไป คือ เป็นชาวไทย 60% และชาวต่างชาติ 40% ซึ่งเกิดจากผลกระทบทางด้านการเมือง แต่คาดว่า จะมีสัดส่วนที่เหมือนเดิมในเร็วๆ นี้ และเมื่อเปรียบเทียบแล้วน่าจะมียอดหมุนเวียนของผู้ที่เข้ามาใช้บริการเท่ากับเดือนมกราคมปีที่แล้ว คือ ประมาณ 13,000-14,000 คน/วัน และมีค่าใช้จ่ายต่อบิล 20,000 บาท มากกว่าของห้างสรรพสินค้าอื่นกว่า 5 เท่า
ด้านกิจกรรมที่จะดำเนินงานในปีนี้หลังจากเทศกาลตรุษจีน ก็จะมีงาน “เกษรเลิฟ คาร์นิวัล” เป็นเทศกาลวาเลนไทน์ จะมีแบรนด์ดังต่างๆ นำเสนอสินค้าคอลเลกชันวาเลนไทน์พร้อมของขวัญไอเดียต่างๆ
นางสาธิมา ทานาเบ้ รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท เกษร แลนด์ แอสเซท แมนเนจเมนท์ จำกัด ผู้บริหาร เกษรพลาซ่า เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2551 ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1-ไตรมาสที่ 3 มีการเติบโตถึง 15% แต่ในช่วงไตรมาสสุดท้าย ปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 15% เนื่องจากปัญหาการเมือง รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน แต่โดยรวมแล้วผลประกอบมีอัตราการเจริญเติบโตคงที่เมื่อเทียบกับปี 2550 ส่วนในปี 2552 ตั้งเป้าโตสิ้นปีมียอดรวมปรับตัวสูงขึ้น 5-8%
ส่วนทิศทางในการดำเนินงานในปีนี้ มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อให้สอดรับกับกระแสเศรษฐกิจภายในประเทศและต่างประเทศ โดยจะเน้นการสร้างความเข้าใจและเข้าถึงลูกค้าหลัก 4 กลุ่มสำคัญ และพร้อมเดินหน้าจับมือกับคู่ค้า และแบรนด์ดังในศูนย์จัดกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟ ร่วมกับแคมเปญทางการตลาดต่อเนื่องทุกเดือน และทุกเทศกาลสำคัญ โดยในปีนี้จะจัดกิจกรรมทั้งหมด 22 งาน แบ่งเป็น ไอโคนิคอีเวนต์ 4 งาน โปรโมชัน 12 งาน และงานย่อยๆ อีก 6 งาน
โดยจะเดินหน้าดำเนินการเจาะกลุ่มลูกค้าหลักใน 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ Millennium Money, Old Money, New Money และ Middle Money ให้ตรงจุดและนำเสนอสินค้า บริการ ประสบการณ์ รวมถึงโปรโมชันจูงใจที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น
ขณะที่ยอดหมุนเวียนของผู้ที่เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์การค้าเกษร ในปี 2550 สัดส่วนชาวไทยและชาวต่างชาติ 50:50 ทั้งนี้ ในปลายปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนที่เปลี่ยนไป คือ เป็นชาวไทย 60% และชาวต่างชาติ 40% ซึ่งเกิดจากผลกระทบทางด้านการเมือง แต่คาดว่า จะมีสัดส่วนที่เหมือนเดิมในเร็วๆ นี้ และเมื่อเปรียบเทียบแล้วน่าจะมียอดหมุนเวียนของผู้ที่เข้ามาใช้บริการเท่ากับเดือนมกราคมปีที่แล้ว คือ ประมาณ 13,000-14,000 คน/วัน และมีค่าใช้จ่ายต่อบิล 20,000 บาท มากกว่าของห้างสรรพสินค้าอื่นกว่า 5 เท่า
ด้านกิจกรรมที่จะดำเนินงานในปีนี้หลังจากเทศกาลตรุษจีน ก็จะมีงาน “เกษรเลิฟ คาร์นิวัล” เป็นเทศกาลวาเลนไทน์ จะมีแบรนด์ดังต่างๆ นำเสนอสินค้าคอลเลกชันวาเลนไทน์พร้อมของขวัญไอเดียต่างๆ
