ททท.เร่งขยายผล โครงการ “พลังงาน หารร้อย” บูมท่องเที่ยวทางรถไฟ ล่าสุด จับมือการรถไฟแห่งประเทศไทย ประเดิมจัดโครงการ “นั่งรถไฟไปตีกอล์ฟ” ตั้งเป้า ระยะแรก จัดกิจกรรมเดือนละ 1 ครั้ง สลับสับเปลี่ยนในแต่ละเส้นทาง หากผลตอบรับดี จะเพิ่มเป็นเดือนละ 2-4 ครั้ง ระบุ ตอบโจทย์ได้กับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและช่วยลดภาวะโลกร้อน
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟ ประเดิมเปิดตัวปลายเดือน ม.ค.ศกนี้ ในชื่อโครงการ “นั่งรถไฟไปตีกอล์ฟ” เป้าหมาย คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยที่มีกำลังซื้อสูงและชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทยเข้าร่วมเดินทาง โดยชูจุดขายของการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟที่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติในระหว่างเดินทาง โดยเส้นทางที่จะจัด คือ หัวหิน และ เพชรบุรี ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทยได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรผู้สนับสนุนโครงการ โดยเปิดกว้างที่จะรับผู้เข้าร่วมสนับสนุน
อย่างไรก็ตาม ระยะแรกของโครงการ จะจัดให้มีกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถไฟเดือนละ 1 ครั้ง หมุนเวียนเปลี่ยนไป ในหลายๆ เส้นทาง ภายใต้ธีมการเดินทางที่สอดคล้อง เช่น เดือน ก.พ.ก็จะจัดเส้นทางโรแมนติก สำหรับคู่รัก เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก (วาเลนไทน์) เส้นทางที่จะพาไปได้แก่ เส้นทางชมทุ่งทานตะวันบาน หรือเส้นทางสัมผัสเมืองเก่า หาก โครงการท่องเที่ยวทางรถไฟนี้ ได้รับผลตอบรับที่ดี ก็มีแนวคิดจะเพิ่มความถี่ของการจัดกิจกรรม อาจเป็นเดือนละ 2-4 ครั้ง
โดยขณะนี้ ททท.ได้จับมือกับการรถไฟฯ ซึ่งการรถไฟฯได้มอบตู้รถไฟให้ 1 ตู้ เป็นชั้น 3 จำนวน 72 ที่นั่ง ให้ ททท.มาตกแต่งให้สวยงาม เพื่อใช้สำหรับโครงการท่องเที่ยวทางรถไฟนี้ เบื้องต้นของการตกแต่ง ททท.เน้น ออกแบบภายนอกตู้รถไฟให้มีสีสันสดใส นำเสนอเป็นรูปแหล่งท่องเที่ยว ในที่ต่างๆ สอดคล้องกับแคมเปญ “เที่ยวไทย ครึกครื้น เศรษฐกิจไทย คึกคัก” แต่จะใช้คำว่า “เที่ยวรถไฟครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” โดยจะมีการปรับเปลี่ยนภาพข้างตู้รถไฟทุก 4 เดือน รับกับช่วงฤดูกาล จะได้ทำให้เป็นที่สนใจ และดึงดูดให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ปกติ การรถไฟแห่งประเทศไทย เขาก็มี แพกเกจทัวร์ นำเสนอขายให้แก่นักท่องเที่ยวอยู่แล้ว เช่น เส้นทางหมวกเหล็ก, เส้นทางกาญจนบุรี และ เที่ยวทุ่งทานตะวัน แวะเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่ง ททท.จะนำโปรแกรมต่างๆ เหล่านี้ มาปรับปรุง ให้มีสีสันน่าสนใจ โดยจะเพิ่มโปรแกรมการเดินทางใหม่ๆ ในแต่ละช่วงฤดูการเข้าไปให้หลากหลาย
อย่างไรก็ตาม ททท.จะเริ่มแผนโปรโมตการท่องเที่ยวทางรถไฟตั้งแต่เดือนนี้ เป็นต้นไป ซึ่งเหตุผล เพราะการท่องเที่ยวทางรถไฟ จะช่วยประหยัดพลังงาน ลดวิกฤตภาวะโลกร้อน, มีค่าเดินทางที่ถูกเหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และยังสามารถเดินทางเป็นหมู่คณะได้ด้วย
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟ ประเดิมเปิดตัวปลายเดือน ม.ค.ศกนี้ ในชื่อโครงการ “นั่งรถไฟไปตีกอล์ฟ” เป้าหมาย คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยที่มีกำลังซื้อสูงและชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทยเข้าร่วมเดินทาง โดยชูจุดขายของการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟที่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติในระหว่างเดินทาง โดยเส้นทางที่จะจัด คือ หัวหิน และ เพชรบุรี ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทยได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรผู้สนับสนุนโครงการ โดยเปิดกว้างที่จะรับผู้เข้าร่วมสนับสนุน
อย่างไรก็ตาม ระยะแรกของโครงการ จะจัดให้มีกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถไฟเดือนละ 1 ครั้ง หมุนเวียนเปลี่ยนไป ในหลายๆ เส้นทาง ภายใต้ธีมการเดินทางที่สอดคล้อง เช่น เดือน ก.พ.ก็จะจัดเส้นทางโรแมนติก สำหรับคู่รัก เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก (วาเลนไทน์) เส้นทางที่จะพาไปได้แก่ เส้นทางชมทุ่งทานตะวันบาน หรือเส้นทางสัมผัสเมืองเก่า หาก โครงการท่องเที่ยวทางรถไฟนี้ ได้รับผลตอบรับที่ดี ก็มีแนวคิดจะเพิ่มความถี่ของการจัดกิจกรรม อาจเป็นเดือนละ 2-4 ครั้ง
โดยขณะนี้ ททท.ได้จับมือกับการรถไฟฯ ซึ่งการรถไฟฯได้มอบตู้รถไฟให้ 1 ตู้ เป็นชั้น 3 จำนวน 72 ที่นั่ง ให้ ททท.มาตกแต่งให้สวยงาม เพื่อใช้สำหรับโครงการท่องเที่ยวทางรถไฟนี้ เบื้องต้นของการตกแต่ง ททท.เน้น ออกแบบภายนอกตู้รถไฟให้มีสีสันสดใส นำเสนอเป็นรูปแหล่งท่องเที่ยว ในที่ต่างๆ สอดคล้องกับแคมเปญ “เที่ยวไทย ครึกครื้น เศรษฐกิจไทย คึกคัก” แต่จะใช้คำว่า “เที่ยวรถไฟครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” โดยจะมีการปรับเปลี่ยนภาพข้างตู้รถไฟทุก 4 เดือน รับกับช่วงฤดูกาล จะได้ทำให้เป็นที่สนใจ และดึงดูดให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ปกติ การรถไฟแห่งประเทศไทย เขาก็มี แพกเกจทัวร์ นำเสนอขายให้แก่นักท่องเที่ยวอยู่แล้ว เช่น เส้นทางหมวกเหล็ก, เส้นทางกาญจนบุรี และ เที่ยวทุ่งทานตะวัน แวะเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่ง ททท.จะนำโปรแกรมต่างๆ เหล่านี้ มาปรับปรุง ให้มีสีสันน่าสนใจ โดยจะเพิ่มโปรแกรมการเดินทางใหม่ๆ ในแต่ละช่วงฤดูการเข้าไปให้หลากหลาย
อย่างไรก็ตาม ททท.จะเริ่มแผนโปรโมตการท่องเที่ยวทางรถไฟตั้งแต่เดือนนี้ เป็นต้นไป ซึ่งเหตุผล เพราะการท่องเที่ยวทางรถไฟ จะช่วยประหยัดพลังงาน ลดวิกฤตภาวะโลกร้อน, มีค่าเดินทางที่ถูกเหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และยังสามารถเดินทางเป็นหมู่คณะได้ด้วย