คลับเมดประเทศไทย แปรวิกฤตเป็นโอกาสลูกค้ายุโรปหาย อานิสงส์รัฐส่งเสริมไทยเที่ยวไทย ตั้งตัวเป็นฮับ กวาดลูกค้ากลุ่มประเทศอินโดจีน เดินทางท่องเที่ยว ทั้งในไทยและประเทศใกล้เคียง ชู ภูเก็ตและบาหลี เป็นเดสติเนชัน ชวนนักท่องเที่ยว กลุ่มครอบครัว และคอร์ปอเรต เที่ยว ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าปีนี้โต 15% ยอมรับตลาดแข่งขันเข้ม อัดโปรโมชันส่งเสริมการขายต่อเนื่องตลอดปี
นายชวาลิน รอดสวัสดิ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและฝ่ายขายประจำประเทศไทย บริษัท วาคองซ์ สยาม (คลับเมด) จำกัด ผู้ให้บริการท่องเที่ยวและพักผ่อนแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ผลกระทบจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้กลายมาเป็นโอกาสทางธุรกิจของคลับเมดในประเทศไทย ที่จะขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น ทั้งกลุ่มคนไทยและคนต่างชาติที่ทำงานและพักอยู่ในประเทศไทยที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากที่เคยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ก็หันกลับมาเที่ยวภายในประเทศ ตลอดจนกลุ่มคอร์ปอเรต ที่ปรับลดงบประมาณที่ใช้จัดสัมมนาและอินเซนทีฟ จึงหันมาจัดทริปเดินทางระยะใกล้ในประเทศ หรือประเทศใกล้เคียง
“ต้องยอมรับว่า วิกฤตเศรษฐกิจโลกทำให้นักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรปและอเมริกาลดลง ทำให้มีจำนวนห้องพักที่จะไปนำเสนอขายแก่ลูกค้าในแถบเอเชียเพิ่มขึ้น โดยเดือน พ.ย.-ธ.ค.2551 ซึ่งเป็นการเริ่มปีงบประมาณของคลับเมด พบว่า นักท่องเที่ยวมาใช้บริการคลับเมดในภาพรวมลดลง 2% ในที่นี้เฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวยุโรปและอเมริกาลดลงถึง 4% แต่ตลาดเอเชียกลับโตขึ้น 6% สะท้อนให้เห็นว่า ตลอดปี 2552 คนอเมริกันและยุโรปน่าจะเดินทางท่องเที่ยวลดลง ขณะที่ประเทศในเอเชียซึ่งเศรษฐกิจกำลังเติบโต และได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจน้อย เช่น จีน อินเดีย เวียดนาม จึงเป็นตลาดเป้าหมายที่บริษัทแม่ที่กรุงปารีสของคลับเมดจะให้ความสำคัญที่จะเจาะตลาดนี้อย่างจริงจัง และยังได้รับอานิสงส์จากนโยบายรัฐที่กระตุ้นให้คนไทยเที่ยวในประเทศด้วย โดยในปีที่ผ่านมา คลับเมด ภูเก็ต เติบโตจากปีก่อนหน้า ถึง 50%”
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้คลับเมดประเทศไทยเป็นฮับในการขยายลูกค้าในประเทศแถบอินโดจีน จากปี 2551 สัดส่วนลูกค้าตลาดนี้มีอยู่เพียง 5% โดยได้จับมือกับบริษัทตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ในเวียดนาม ดึงกลุ่มลูกค้าจากประเทศลาว พม่า กัมพูชา เน้นตลาดบีบวก ถึงระดับบนที่เป็นกลุ่มครอบครัวและกลุ่มคอร์ปอเรต เพราะมีกำลังซื้อสูง ตั้งเป้ายอดขายต้องไม่ต่ำกว่า 500 แพกเกจ โดยจะชูจุดขายที่คลับเมดเป็นผู้นำแห่งการท่องเที่ยวแบบ “ออล อินคลูซีฟ แพกเกจ” ตอบสนองไลฟ์สไตล์ สำหรับวันพักผ่อนของนักท่องเที่ยว ในราคาเดียว ภายใต้คอนเซปต์ “แคชชวล ลักซ์ชูรี่ รีสอร์ท” ที่แตกต่างจากการเดินทางไปกับบริษัททัวร์ โดยตั้งเป้าหมายว่า ในปี 2552 ผลการดำเนินงานของคลับเมดในประเทศไทยจะเติบโตจากปีก่อน ราว 15-18% จากทุกปีที่ผ่านมาอัตราการเติบโตจะอยู่ที่ 4-7%
สำหรับเดสติเนชันที่นำเสนอสำหรับตลาดลูกค้าแถมอินโดจีน ได้แก่ ได้แก่ คลับเมดภูเก็ต-ประเทศไทย, คลับเมดบาหลี-ประเทศอินโดนีเซีย, คลับเมดคานิ-มัลดีฟส์, คลับเมดเชอราติง บีช-มาเลเซีย, คลับเมด เรียบินตัน-อินโดนีเซีย เป็นต้น โดยเฉพาะ ที่ คลับเมดบาหลี-ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้ ได้รีโนเวตเสร็จพร้อมเปิดให้บริการแล้ว ตั้งแต่ปลายปี 2551 โดยใช้งบทั้งหมด 270 ล้านบาท ลูกค้าเป้าหมายยังคงเป็นกลุ่มครอบครัว คู่รักฮันนีมูน และกลุ่มคอร์ปอเรต
นายชวาลิน กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์ของธุรกิจท่องเที่ยว ปีนี้จะแข่งขันกันเข้มข้นขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการต่างมุ่งเจาะตลาดในย่านเอเชียเช่นกัน ดังนั้น กลยุทธ์ของ คลับเมด ในปีนี้ จะเน้นเรื่องของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อทุกรูปแบบ สร้างภาพลักษณ์ให้แก่แบรนด์ ของ คลับเมด ไปพร้อมกับการสร้างการรับรู้ในกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย พร้อมกับการออกโปรโมชันส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง และกระตุ้นการขายด้วยการให้สิทธิ์ลูกค้าที่จองซื้อแพกเกจก่อนจะได้ราคาที่ถูกกว่า สูงสุดถึง 35% เช่น แพกเกจเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ จากปกติจะเปิดขายก่อน 1-2 เดือน แต่ปีนี้ เริ่มเปิดขายตั้งแต่เดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา สำหรับราคาแพกเกจที่คลับเมด นำเสนอขาย ปีนี้ปรับขึ้นจากปีก่อนราว 5% ซึ่งเป็นไปตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ ถ้าลูกค้าจองซื้อในช่วงจัดโปรโมชัน จะได้ส่วนลดสูงสุดถึง 10,000 บาท
นายชวาลิน รอดสวัสดิ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและฝ่ายขายประจำประเทศไทย บริษัท วาคองซ์ สยาม (คลับเมด) จำกัด ผู้ให้บริการท่องเที่ยวและพักผ่อนแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ผลกระทบจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้กลายมาเป็นโอกาสทางธุรกิจของคลับเมดในประเทศไทย ที่จะขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น ทั้งกลุ่มคนไทยและคนต่างชาติที่ทำงานและพักอยู่ในประเทศไทยที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากที่เคยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ก็หันกลับมาเที่ยวภายในประเทศ ตลอดจนกลุ่มคอร์ปอเรต ที่ปรับลดงบประมาณที่ใช้จัดสัมมนาและอินเซนทีฟ จึงหันมาจัดทริปเดินทางระยะใกล้ในประเทศ หรือประเทศใกล้เคียง
“ต้องยอมรับว่า วิกฤตเศรษฐกิจโลกทำให้นักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรปและอเมริกาลดลง ทำให้มีจำนวนห้องพักที่จะไปนำเสนอขายแก่ลูกค้าในแถบเอเชียเพิ่มขึ้น โดยเดือน พ.ย.-ธ.ค.2551 ซึ่งเป็นการเริ่มปีงบประมาณของคลับเมด พบว่า นักท่องเที่ยวมาใช้บริการคลับเมดในภาพรวมลดลง 2% ในที่นี้เฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวยุโรปและอเมริกาลดลงถึง 4% แต่ตลาดเอเชียกลับโตขึ้น 6% สะท้อนให้เห็นว่า ตลอดปี 2552 คนอเมริกันและยุโรปน่าจะเดินทางท่องเที่ยวลดลง ขณะที่ประเทศในเอเชียซึ่งเศรษฐกิจกำลังเติบโต และได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจน้อย เช่น จีน อินเดีย เวียดนาม จึงเป็นตลาดเป้าหมายที่บริษัทแม่ที่กรุงปารีสของคลับเมดจะให้ความสำคัญที่จะเจาะตลาดนี้อย่างจริงจัง และยังได้รับอานิสงส์จากนโยบายรัฐที่กระตุ้นให้คนไทยเที่ยวในประเทศด้วย โดยในปีที่ผ่านมา คลับเมด ภูเก็ต เติบโตจากปีก่อนหน้า ถึง 50%”
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้คลับเมดประเทศไทยเป็นฮับในการขยายลูกค้าในประเทศแถบอินโดจีน จากปี 2551 สัดส่วนลูกค้าตลาดนี้มีอยู่เพียง 5% โดยได้จับมือกับบริษัทตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ในเวียดนาม ดึงกลุ่มลูกค้าจากประเทศลาว พม่า กัมพูชา เน้นตลาดบีบวก ถึงระดับบนที่เป็นกลุ่มครอบครัวและกลุ่มคอร์ปอเรต เพราะมีกำลังซื้อสูง ตั้งเป้ายอดขายต้องไม่ต่ำกว่า 500 แพกเกจ โดยจะชูจุดขายที่คลับเมดเป็นผู้นำแห่งการท่องเที่ยวแบบ “ออล อินคลูซีฟ แพกเกจ” ตอบสนองไลฟ์สไตล์ สำหรับวันพักผ่อนของนักท่องเที่ยว ในราคาเดียว ภายใต้คอนเซปต์ “แคชชวล ลักซ์ชูรี่ รีสอร์ท” ที่แตกต่างจากการเดินทางไปกับบริษัททัวร์ โดยตั้งเป้าหมายว่า ในปี 2552 ผลการดำเนินงานของคลับเมดในประเทศไทยจะเติบโตจากปีก่อน ราว 15-18% จากทุกปีที่ผ่านมาอัตราการเติบโตจะอยู่ที่ 4-7%
สำหรับเดสติเนชันที่นำเสนอสำหรับตลาดลูกค้าแถมอินโดจีน ได้แก่ ได้แก่ คลับเมดภูเก็ต-ประเทศไทย, คลับเมดบาหลี-ประเทศอินโดนีเซีย, คลับเมดคานิ-มัลดีฟส์, คลับเมดเชอราติง บีช-มาเลเซีย, คลับเมด เรียบินตัน-อินโดนีเซีย เป็นต้น โดยเฉพาะ ที่ คลับเมดบาหลี-ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้ ได้รีโนเวตเสร็จพร้อมเปิดให้บริการแล้ว ตั้งแต่ปลายปี 2551 โดยใช้งบทั้งหมด 270 ล้านบาท ลูกค้าเป้าหมายยังคงเป็นกลุ่มครอบครัว คู่รักฮันนีมูน และกลุ่มคอร์ปอเรต
นายชวาลิน กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์ของธุรกิจท่องเที่ยว ปีนี้จะแข่งขันกันเข้มข้นขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการต่างมุ่งเจาะตลาดในย่านเอเชียเช่นกัน ดังนั้น กลยุทธ์ของ คลับเมด ในปีนี้ จะเน้นเรื่องของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อทุกรูปแบบ สร้างภาพลักษณ์ให้แก่แบรนด์ ของ คลับเมด ไปพร้อมกับการสร้างการรับรู้ในกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย พร้อมกับการออกโปรโมชันส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง และกระตุ้นการขายด้วยการให้สิทธิ์ลูกค้าที่จองซื้อแพกเกจก่อนจะได้ราคาที่ถูกกว่า สูงสุดถึง 35% เช่น แพกเกจเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ จากปกติจะเปิดขายก่อน 1-2 เดือน แต่ปีนี้ เริ่มเปิดขายตั้งแต่เดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา สำหรับราคาแพกเกจที่คลับเมด นำเสนอขาย ปีนี้ปรับขึ้นจากปีก่อนราว 5% ซึ่งเป็นไปตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ ถ้าลูกค้าจองซื้อในช่วงจัดโปรโมชัน จะได้ส่วนลดสูงสุดถึง 10,000 บาท
