กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ลุ้นงานก่อสร้างศูนย์ประชุมฯเชียงใหม่อาจล่าช้า เหตุ บริษัทเบญจมาศ ที่เสนอราคาผ่านอี-ออกชั่น ต่ำสุดที่ 2,600 ล้านบาท ยังเป็นตัวเลขที่สูงกว่าราคากลางถึง 500 ล้านบาท "ศศิธารา" ส่งหนังสืออ้อนผู้รับเหมาขอลดราคา หากแห้วต้องทำเรื่องเสนอครม.ใหม่ปีหน้า
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะกรรมการประกวดราคาโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ล่าสุดทางคณะกรรมการฯ ได้คัดเลือกผู้มีคุณสมบัติ เสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์(อี-ออกชั่น) ได้แล้วรวม 5 ราย จากที่มีผู้สนใจซื้อซองประกวดราคารวม 18 ราย โดยผู้ผ่านการคัดเลือกได้เสนอราคาค่าก่อสร้างระหว่าง 2,600-2,900 ล้านบาท 1ใน 5 รายที่ผ่านมาคัดเลือก มีบริษัทเบญจมาศ ที่เสนอราคาค่าก่อสร้างต่ำสุดคือ 2,600 ล้านบาท
แต่ทั้งนี้ราคาดังกล่าว ยังถือว่าสูงกว่าราคากลางที่สำนักงบประมาณ และกระทรวงการท่องเที่ยวได้ตั้งไว้ ที่ราคา 2,100 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง 5 บริษัท ที่ผ่านการคัดเลือกพร้อมกับแจ้งวงเงินที่เสนอประมูลงานเข้ามา ตั้งแต่ราคาต่ำสุดจนถึงสูงสุด โดยกระทรวงฯยังแต่เพิ่มเติมต่อบริษัทเบญจมาศด้วยว่า ราคาที่เสนอมาดังกล่าวยังสามารถลดลงได้อีกหรือไม่ เท่าที่ราคากลางกำหนดไว้ หรือให้สูงกว่าราคากลางที่กำหนดไม่เกิน 10% เพราะกระทรวงการคลังโดยสำนักงบประมาณ จะเผื่อวงเงินให้แก่โครงการก่อสร้างให้เกินราคากลางที่ให้มา ได้ไม่เกิน 10% ซึ่งหาก ทางบริษัท เบญจมาศ ตกลงก็จะเร่งดำเนินการทำสัญญาว่าจ้างต่อไป ตามระเบียบการว่าจ้างของทางราชการ คาดว่าจะเสร็จได้ภายในสิ้นเดือนนี้
อย่างไรก็ตาม หากบริษัทเบญจมาศยังยืนยันที่ราคาเดิม ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็จะต้องทำหนังสือ ส่งไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อชี้แจงขอวงเงินเพิ่มเติมเป็น 2,600 ล้านบาท จากนั้นจะต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบอีกครั้งแล้ว จึงเปิดให้ผู้สนใจเข้ามายื่นเสนออี-ออกชั่น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะส่งผลให้ การทำสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมา โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ ต้องล่าช้าออกไปเป็นต้นปีหน้า
ทั้งนี้หากบริษัทระบุว่า ลดราคาไม่ได้กระทรวงฯ จะต้องทำหนังสือไปยังสำนักงบประมาณเพื่อชี้แจงขอวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมเป็น 2,600 ล้านบาท จากนั้นจึงรอ ครม.เห็นชอบ และเปิดให้ผู้สนใจมาอี-ออกชั่น อีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลให้ขั้นตอนการทำสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมา ต้องเลื่อนไปเป็นต้นปีหน้า
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะกรรมการประกวดราคาโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ล่าสุดทางคณะกรรมการฯ ได้คัดเลือกผู้มีคุณสมบัติ เสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์(อี-ออกชั่น) ได้แล้วรวม 5 ราย จากที่มีผู้สนใจซื้อซองประกวดราคารวม 18 ราย โดยผู้ผ่านการคัดเลือกได้เสนอราคาค่าก่อสร้างระหว่าง 2,600-2,900 ล้านบาท 1ใน 5 รายที่ผ่านมาคัดเลือก มีบริษัทเบญจมาศ ที่เสนอราคาค่าก่อสร้างต่ำสุดคือ 2,600 ล้านบาท
แต่ทั้งนี้ราคาดังกล่าว ยังถือว่าสูงกว่าราคากลางที่สำนักงบประมาณ และกระทรวงการท่องเที่ยวได้ตั้งไว้ ที่ราคา 2,100 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง 5 บริษัท ที่ผ่านการคัดเลือกพร้อมกับแจ้งวงเงินที่เสนอประมูลงานเข้ามา ตั้งแต่ราคาต่ำสุดจนถึงสูงสุด โดยกระทรวงฯยังแต่เพิ่มเติมต่อบริษัทเบญจมาศด้วยว่า ราคาที่เสนอมาดังกล่าวยังสามารถลดลงได้อีกหรือไม่ เท่าที่ราคากลางกำหนดไว้ หรือให้สูงกว่าราคากลางที่กำหนดไม่เกิน 10% เพราะกระทรวงการคลังโดยสำนักงบประมาณ จะเผื่อวงเงินให้แก่โครงการก่อสร้างให้เกินราคากลางที่ให้มา ได้ไม่เกิน 10% ซึ่งหาก ทางบริษัท เบญจมาศ ตกลงก็จะเร่งดำเนินการทำสัญญาว่าจ้างต่อไป ตามระเบียบการว่าจ้างของทางราชการ คาดว่าจะเสร็จได้ภายในสิ้นเดือนนี้
อย่างไรก็ตาม หากบริษัทเบญจมาศยังยืนยันที่ราคาเดิม ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็จะต้องทำหนังสือ ส่งไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อชี้แจงขอวงเงินเพิ่มเติมเป็น 2,600 ล้านบาท จากนั้นจะต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบอีกครั้งแล้ว จึงเปิดให้ผู้สนใจเข้ามายื่นเสนออี-ออกชั่น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะส่งผลให้ การทำสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมา โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ ต้องล่าช้าออกไปเป็นต้นปีหน้า
ทั้งนี้หากบริษัทระบุว่า ลดราคาไม่ได้กระทรวงฯ จะต้องทำหนังสือไปยังสำนักงบประมาณเพื่อชี้แจงขอวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมเป็น 2,600 ล้านบาท จากนั้นจึงรอ ครม.เห็นชอบ และเปิดให้ผู้สนใจมาอี-ออกชั่น อีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลให้ขั้นตอนการทำสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมา ต้องเลื่อนไปเป็นต้นปีหน้า