นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติยุบพรรคชาติไทย ว่า ตัวเองเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรค ก็ต้องยุติบทบาทในตำแหน่งหน้าที่ทันทีที่ศาลมีคำสั่ง ซึ่งเรื่องการขออนุมัติงบประมาณฉุกเฉินเพื่อมาเยียวยานักท่องเที่ยว ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วงเงิน 1,000 ล้านบาท ก็ไม่สามารถยื่นเสนอได้ทัน เพราะการประชุม ครม.ก็ต้องยุติลงทันที่ที่ศาลมีคำสั่ง เช่นกัน
ขั้นตอนต่อไป คงจะต้องรอให้มีการแต่งตั้งรัฐมนตรีคนใหม่เข้ามาดูแลกระทรวง เป็นผู้ทำหน้าที่ต่อไป ส่วนงานด้านศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และงานอื่นๆ ที่ยังทำค้างไว้ จากนี้ไปก็จะอยู่ในความรับผิดชอบของ น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นผู้ดูแล จนกว่าจะได้รัฐมนตรีใหม่เข้ามาทำหน้าที่
“จะเร่งถ่ายทอดงานด้านการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ที่ทำไว้ทั้งหมด ให้แก่ข้าราชการประจำ และหน่วยงานต่างๆ ได้รับทราบ เผื่อจะนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้”
สำหรับส่วนตัว ในระหว่าง 5 ปีนับจากนี้ไป ที่ไม่สามารถมายุ่งเกี่ยวงานทางการเมืองได้อีก ก็จะไปรับหน้าที่เป็นอาจารย์สอนหนังสือตามปกติ ซึ่งจะสอบถามไปยังผู้รู้ หรือศาลอีกทีว่า ในฐานะที่มีความรู้เรื่องภาษา จะสามารถเข้าเป็นอาสาสมัคร ช่วยงานด้านดูแลนักท่องเที่ยวได้หรือไม่ และรู้สึกเสียดายที่ยังนำเรื่องจัดตั้งกองทุนหมุนเวียน เพื่อช่วยเหลือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว 20,000 ล้านบาท และเรื่องของบเพิ่มเติมเยียวยานักท่องเที่ยวต่างชาติอีก 1,000 ล้านบาท เข้า ครม.ไม่ทัน
***ท่องเที่ยวเชื่อทุกอย่างคลี่คลาย***
นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า มติยุบพรรคของศาลรัฐธรรมนูญ จะช่วยให้สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายเร็วขึ้น ขณะที่ภาคเอกชนมั่นใจว่า รัฐบาลใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ยังคงให้ความสำคัญกับภาคท่องเที่ยว ส่วนเงินช่วยเหลือ 1,000 ล้านบาท ที่นำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไม่ทันนั้น เชื่อว่า จะได้รับการสานต่อจากรัฐบาลชุดใหม่
ทั้งนี้ โดยส่วนตัวรู้สึกเสียดาย ที่ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีต รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ต้องพ้นจากตำแหน่ง เพราะเป็นผู้ที่ทำงานช่วยเหลือเอกชนอย่างเต็มที่มาโดยตลอด ซึ่งจากนี้ไปคงต้องฝากความหวังกับ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา คนใหม่ ว่า เมื่อเข้ามาแล้วจะต้องเป็นคนที่ทำงานจริง เหมือนกับ นายวีระศักดิ์ ไม่เช่นนั้นก็คงทำให้ภาคการท่องเที่ยวเดินหน้าลำบาก
ขั้นตอนต่อไป คงจะต้องรอให้มีการแต่งตั้งรัฐมนตรีคนใหม่เข้ามาดูแลกระทรวง เป็นผู้ทำหน้าที่ต่อไป ส่วนงานด้านศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และงานอื่นๆ ที่ยังทำค้างไว้ จากนี้ไปก็จะอยู่ในความรับผิดชอบของ น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นผู้ดูแล จนกว่าจะได้รัฐมนตรีใหม่เข้ามาทำหน้าที่
“จะเร่งถ่ายทอดงานด้านการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ที่ทำไว้ทั้งหมด ให้แก่ข้าราชการประจำ และหน่วยงานต่างๆ ได้รับทราบ เผื่อจะนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้”
สำหรับส่วนตัว ในระหว่าง 5 ปีนับจากนี้ไป ที่ไม่สามารถมายุ่งเกี่ยวงานทางการเมืองได้อีก ก็จะไปรับหน้าที่เป็นอาจารย์สอนหนังสือตามปกติ ซึ่งจะสอบถามไปยังผู้รู้ หรือศาลอีกทีว่า ในฐานะที่มีความรู้เรื่องภาษา จะสามารถเข้าเป็นอาสาสมัคร ช่วยงานด้านดูแลนักท่องเที่ยวได้หรือไม่ และรู้สึกเสียดายที่ยังนำเรื่องจัดตั้งกองทุนหมุนเวียน เพื่อช่วยเหลือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว 20,000 ล้านบาท และเรื่องของบเพิ่มเติมเยียวยานักท่องเที่ยวต่างชาติอีก 1,000 ล้านบาท เข้า ครม.ไม่ทัน
***ท่องเที่ยวเชื่อทุกอย่างคลี่คลาย***
นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า มติยุบพรรคของศาลรัฐธรรมนูญ จะช่วยให้สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายเร็วขึ้น ขณะที่ภาคเอกชนมั่นใจว่า รัฐบาลใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ยังคงให้ความสำคัญกับภาคท่องเที่ยว ส่วนเงินช่วยเหลือ 1,000 ล้านบาท ที่นำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไม่ทันนั้น เชื่อว่า จะได้รับการสานต่อจากรัฐบาลชุดใหม่
ทั้งนี้ โดยส่วนตัวรู้สึกเสียดาย ที่ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีต รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ต้องพ้นจากตำแหน่ง เพราะเป็นผู้ที่ทำงานช่วยเหลือเอกชนอย่างเต็มที่มาโดยตลอด ซึ่งจากนี้ไปคงต้องฝากความหวังกับ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา คนใหม่ ว่า เมื่อเข้ามาแล้วจะต้องเป็นคนที่ทำงานจริง เหมือนกับ นายวีระศักดิ์ ไม่เช่นนั้นก็คงทำให้ภาคการท่องเที่ยวเดินหน้าลำบาก