“ไฮไฟ โอเรียนท์” เลื่อนแผนเข้าตลาดหุ้นจากเดิมต้นปีหน้า ขอดูสถานการณ์ไปก่อน เผย ภาพรวมรายได้รอบ 10 เดือน ทำได้ 500 ล้านบาท โตต่ำกว่าเป้า 18% งัดกลยุทธ์เพิ่มไลน์สินค้าใหม่ปั้มยอด ล่าสุด ส่งหุ่นยนต์ไดโนเสาร์ “PREO” ล่อใจผู้บริโภคส่งท้ายปี
นายคีนัน ควอก (เคน) รองกรรมการผู้จัดการด้านบริหาร บริษัท ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันกลุ่มทุนไฮไฟ โอเรียนท์ ได้แบ่งบริษัทออกเป็น 2 บริษัท แยกการทำงานอย่างชัดเจน โดย ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย จำกัด (มหาชน) ดูแล และทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มภาพและเสียง หรือ เอวี ภายใต้แบรนด์ อะโคนาติก และอีกหนึ่งบริษัท คือ ไลฟ์ โอเรียนท์ จำกัด ดูแลแบรนด์เครื่องใช้ฟ้าในครัวเรือน หรือ เอชเอ และชิ้นเล็ก อย่าง Pensonic, Lebensstil และ Whirlpool
โดยผลการดำเนินงานในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา สำหรับ ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย พบว่า สามารถทำยอดขายได้ประมาณ 500 ล้านบาท ยังเติบโตต่ำกว่าเป้าถึง 18% หรือภายในสิ้นปีจะต้องมีรายได้ที่ 1,000 ล้านบาท การเติบโตที่ 20% โดยกลยุทธ์ที่จะนำมาใช้นั้น จะมีการทำโปรโมชันการขายให้มากขึ้น บวกกับอีก 2 เดือนที่เหลือเชื่อว่าเป็นช่วงที่จะมีการซื้อของขวัญ ยอดขายจึงน่าจะดีขึ้น หรือสามารถทำรายได้ทั้งปีเติบโตได้ 10% ตามกว่าเป้าที่วางไว้
ส่วน บริษัท ไลฟ์ โอเรียนท์ จำกัด ซึ่งดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์อื่นๆ ในหมวดเอชเอนั้น 10 เดือนที่ผ่านมา มียอดการเติบโตประมาณ 5% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 200 ล้านบาท จากเป้ารายได้ที่วางไว้ 360 ล้านบาท แบ่งเป็น Whirlpool 70% Pensonic 20% และ Lebensstil 10%
สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ เวิร์ลพูล หลังจากที่เข้ามาทำการตลาดและการขายให้ประมาณ 2 ปี พบว่า ยอดขายยังเป็นไปได้ดีอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องซักผ้าฝาหน้า ตู้เย็น และเครื่องครัวชิ้นเล็ก เหตุตลาดพรีเมียมยังเติบโตดีอยู่ ตามกระแสของอสังหาริมทรัพย์ที่พบว่า มีโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร เกิดขึ้นมากมาย ความต้องการในสินค้าเหล่านี้จึงโตตาม
ล่าสุด ช่วงปลายปีนี้ ยังได้เพิ่มแบรนด์ PREO ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ไดโนเสาร์ เข้ามาจำหน่ายเพิ่มด้วย ในราคา 19,900 บาท ในกลุ่มห้างสรรพสินค้าเครือเดอะมอลล์ วางจำหน่ายที่ สยามพารากอน ดิ เอ็มโพเรียม และ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน คาดว่า จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี หรือสามารถจำหน่ายได้กว่า 400-500 ตัว ต่อเดือน
นายณัฐพันธ์ คีรีรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของ ไฮไฟฯ เดิมมีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในช่วงต้นปีหน้า หลังจากที่จดทะเบียนเป็น บริษัทมหาชน เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองยังไม่เอื้อ จึงขอดูสถานการณ์ออกไปก่อน
ทั้งนี้ การเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อต้องการเงินทุนมาสร้างแบรนด์ อะโคนาติก มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน เพื่อนำไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาด โดยจะเน้นกลุ่มสินค้าเอวีเป็นหลัก จากเดิมที่มีสินค้ากลุ่มเครื่องทำน้ำอุ่นมาวางจำหน่ายนั้น ก็ได้ยกเลิกไปแล้ว เนื่องจากได้วางโพซิชันนิงสินค้าไว้ชัดเจนแล้วว่า อะโคนาติก จะมุ่งจับกลุ่มสินค้าเอวี โดยมีลูกค้าในระดับแมส ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและดีไซน์ ในราคาที่สมเหตุสมผล
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบรายได้ขอบไฮไฟปีหน้า ได้ตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 16% เน้นกำไรเป็นหลัก ส่วนงบการตลาดคาดว่าจะใช้เท่าปีนี้ ที่ประมาณ 10% ของผลประกอบการ
นายคีนัน ควอก (เคน) รองกรรมการผู้จัดการด้านบริหาร บริษัท ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันกลุ่มทุนไฮไฟ โอเรียนท์ ได้แบ่งบริษัทออกเป็น 2 บริษัท แยกการทำงานอย่างชัดเจน โดย ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย จำกัด (มหาชน) ดูแล และทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มภาพและเสียง หรือ เอวี ภายใต้แบรนด์ อะโคนาติก และอีกหนึ่งบริษัท คือ ไลฟ์ โอเรียนท์ จำกัด ดูแลแบรนด์เครื่องใช้ฟ้าในครัวเรือน หรือ เอชเอ และชิ้นเล็ก อย่าง Pensonic, Lebensstil และ Whirlpool
โดยผลการดำเนินงานในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา สำหรับ ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย พบว่า สามารถทำยอดขายได้ประมาณ 500 ล้านบาท ยังเติบโตต่ำกว่าเป้าถึง 18% หรือภายในสิ้นปีจะต้องมีรายได้ที่ 1,000 ล้านบาท การเติบโตที่ 20% โดยกลยุทธ์ที่จะนำมาใช้นั้น จะมีการทำโปรโมชันการขายให้มากขึ้น บวกกับอีก 2 เดือนที่เหลือเชื่อว่าเป็นช่วงที่จะมีการซื้อของขวัญ ยอดขายจึงน่าจะดีขึ้น หรือสามารถทำรายได้ทั้งปีเติบโตได้ 10% ตามกว่าเป้าที่วางไว้
ส่วน บริษัท ไลฟ์ โอเรียนท์ จำกัด ซึ่งดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์อื่นๆ ในหมวดเอชเอนั้น 10 เดือนที่ผ่านมา มียอดการเติบโตประมาณ 5% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 200 ล้านบาท จากเป้ารายได้ที่วางไว้ 360 ล้านบาท แบ่งเป็น Whirlpool 70% Pensonic 20% และ Lebensstil 10%
สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ เวิร์ลพูล หลังจากที่เข้ามาทำการตลาดและการขายให้ประมาณ 2 ปี พบว่า ยอดขายยังเป็นไปได้ดีอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องซักผ้าฝาหน้า ตู้เย็น และเครื่องครัวชิ้นเล็ก เหตุตลาดพรีเมียมยังเติบโตดีอยู่ ตามกระแสของอสังหาริมทรัพย์ที่พบว่า มีโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร เกิดขึ้นมากมาย ความต้องการในสินค้าเหล่านี้จึงโตตาม
ล่าสุด ช่วงปลายปีนี้ ยังได้เพิ่มแบรนด์ PREO ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ไดโนเสาร์ เข้ามาจำหน่ายเพิ่มด้วย ในราคา 19,900 บาท ในกลุ่มห้างสรรพสินค้าเครือเดอะมอลล์ วางจำหน่ายที่ สยามพารากอน ดิ เอ็มโพเรียม และ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน คาดว่า จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี หรือสามารถจำหน่ายได้กว่า 400-500 ตัว ต่อเดือน
นายณัฐพันธ์ คีรีรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของ ไฮไฟฯ เดิมมีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในช่วงต้นปีหน้า หลังจากที่จดทะเบียนเป็น บริษัทมหาชน เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองยังไม่เอื้อ จึงขอดูสถานการณ์ออกไปก่อน
ทั้งนี้ การเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อต้องการเงินทุนมาสร้างแบรนด์ อะโคนาติก มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน เพื่อนำไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาด โดยจะเน้นกลุ่มสินค้าเอวีเป็นหลัก จากเดิมที่มีสินค้ากลุ่มเครื่องทำน้ำอุ่นมาวางจำหน่ายนั้น ก็ได้ยกเลิกไปแล้ว เนื่องจากได้วางโพซิชันนิงสินค้าไว้ชัดเจนแล้วว่า อะโคนาติก จะมุ่งจับกลุ่มสินค้าเอวี โดยมีลูกค้าในระดับแมส ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและดีไซน์ ในราคาที่สมเหตุสมผล
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบรายได้ขอบไฮไฟปีหน้า ได้ตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 16% เน้นกำไรเป็นหลัก ส่วนงบการตลาดคาดว่าจะใช้เท่าปีนี้ ที่ประมาณ 10% ของผลประกอบการ