ขอ.ยันสนามบินอู่ตะเภาพร้อมรับ-ส่งผู้โดยสารของทุกสายการบินได้ เร่งระบายผู้แสวงบุญทยอยไปขึ้นเครื่องแต่ ติดขัดทอท.ทำงานอืด ไม่ยอมปล่อยผู้โดยสารออกจากสุวรรณภูมิ ด้านเสรีรัตน์ สั่งห้ามผู้โดยสารไม่ต้องเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ทั้งที่การชุมนุมเป็นแบบสงบ สันติ และไม่มีเหตุการณ์รุนแรง พร้อมสั่งปิดลานจอดรถหน้าอาคารผู้โดยสาร โดยอ้างว่า เพื่อความปลอดภัย
นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ กล่าวว่า กรมการขนส่งทางอากาศจะแก้ออกใบอนุญาตให้สายการบินทุกแห่งทำการบินขึ้น – ลงรับส่งผู้โดยสารที่สนามบินอู่ตะเภาได้ตั้งแต่วันนี้ (27 พ.ย.) เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการหลังจากกลุ่มพธม.ปิดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ซึ่งสายการบินที่มีความประสงค์ใช้สนามบินอู่ตะเภาให้แจ้งขออนุญาตใช้สนามบินอู่ตะเภามาที่กรมฯ ได้ทันที โดยยืนยันว่า ได้สนามบินอู่ตะเภามีสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์บริการภาคพื้นของอากาศยานไว้เพียงพอต่อความต้องการใช้งานแล้ว ซึ่งในส่วนอุปกรณ์บริการภาคพื้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดอุปกรณ์เข้าไปดูแลให้บริการแก่เครื่องบินที่มาลงที่สนามบินอู่ตะเภา
ส่วนผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์ในต่างประเทศ และขณะนี้จะมีเที่ยวบินให้บริการจากสนามบินอู่ตะเภาไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย กรมฯ จะจัดรถอำนวยความสะดวกจากกรุงเทพฯ-สนามบินอู่ตะเภาด้วย
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวล่าสุดแจ้งว่า ทอท.ยังไม่ได้ดำเนินการลำเลียงผู้โดยสารออกไปยังสนามบินอู่ตะเภาแต่อย่างใด โดยปราศจากความรับผิดชอบมาตั้งแต่ต้นปล่อยให้บรรดาพี่น้องชาวมุสลิมที่ต้องการบินไปแสวงบุญเคว้งคว้าง
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ผู้โดยสารที่ตกค้างอยู่ที่สุวรรณภูมิต่างรอมาตั้งแต่เช้าต่างไม่ได้รับการแจ้งประชาสัมพันธ์ว่าจะให้ทำอย่างไร มีเพียงกลุ่มพันธมิตรฯที่คอยช่วยเหลือจะให้ออกจากสุวรรณภูมิ
ทั้งนี้ก่อนนี้นายอนุรักษ์ วันแอเลาะ เลขาธิการสมาคมผู้ประกอบการกิจการฮัจญ์ พร้อมผู้ประกอบการฮัจญ์ประมาณ 10 คน เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย ขอให้ช่วยเหลือการเดินทางไปแสวงบุญของชาวไทยมุสลิม ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ ซึ่งประเทศซาอุดีอาระเบียกำหนดการเดินทางของผู้แสวงบุญจากทั่วโลก ซึ่งต้องเดินทางถึงประเทศซาอุดีอาระเบียในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ในเวลา 24.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น แต่สถานการณ์ในประเทศไทยที่เกิดขึ้นขณะนี้ ส่งผลให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมจำนวนกว่า 2,000 คน ไม่สามารถเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ในปีนี้ได้
ดังนั้น จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางออกโดยยื่นขอเสนอ 3 ข้อ คือ 1. ขอให้เปิดสนามบินใดสนามบินหนึ่งเพื่อให้เครื่องบินส่งผู้แสวงบุญไปประกอบพิธีฮัจญ์ ซึ่งผู้ประกอบการพร้อมจะอำนวยความสะดวกผู้แสวงบุญเดินทางไปขึ้นที่สนามบินนั้นๆ 2. ขอให้สายการบินไทยที่บินที่อยู่ต่างประเทศมารับผู้แสวงบุญไปซาอุดีอาระเบีย โดยสามารถนำตั๋วเครื่องบินเดิม หรือปรับเปลี่ยนออกเป็นตั๋วเครื่องบินใหม่ให้ และ 3.ขอให้ทางการซาอุดีอาระเบียเลื่อนเวลาปิดรับผู้แสวงบุญออกไปอีก 1-2 วัน เพื่อช่วยเหลือผู้แสวงบุญในสถานการณ์ฉุกเฉิน
นายอนุรักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับปีนี้ไทยได้รับการตอบรับจากทางการซาอุดีอาระเบียให้ผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ทั้งสิ้น 15,000 คน ซึ่งได้ทยอยเดินทางไปแล้วกว่า 13,000 คน ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม และยังตกค้างอยู่ เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมือง และการปิดสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
นอกจากนี้ ยังมีผู้แสวงบุญประเทศเพื่อนบ้านที่มาขอวีซ่า และขึ้นเครื่องที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ อีกกว่า 1,000 คน ประกอบด้วย กัมพูชา เวียดนาม และพม่า โดยผู้แสวงบุญทุกคนได้จ่ายเงินค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พักไว้แล้วประมาณคนละ 40,000 บาท
ด้านนายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า เนื่องจากในขณะนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) และท่าอากาศยานดอนเมืองยังคงปิดให้บริการอยู่ จึงยังไม่มีเที่ยวบินเดินทางเข้า-ออก ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากผู้โดยสารที่จะเดินด้วยเครื่องบินอย่าเพิ่งเดินทางไปยังสนามบินดังกล่าว จนกว่าจะมีการเปิดใช้สนามบิน ซึ่งทาง ทอท.จะประกาศให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป
นายเสรีรัตน์ ยังอ้างว่า การที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาชนไตย ยังคงชุมนุมบริเวณด้านหน้าอาคารผู้โดยสาร ทำให้ตนเองต้องปิดสนามบิน และสั่งหยุดให้บริการเที่ยวบินขึ้น-ลงต่อไป พร้อมยอมรับว่า การสั่งปิดสนามบินทำให้ไม่มีผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกสนามบิน ดังนั้น ทสภ. จึงได้ปิดให้บริการลานจอดรถยนต์บริเวณด้านหน้าอาคารผู้โดยสารแล้ว คือ อาคารจอดรถยนต์ 2 อาคารจอดรถยนต์ 3 และลานจอดรถยนต์ 4 โดยอ้างว่า ต้องการรักษาความปลอดภัย ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าว ไม่มีการชุมนุมแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ใช้บริการส่วนหนึ่งจอดรถไว้ในพื้นที่ดังกล่าว ก่อนหน้าที่ ทสภ.จะปิดให้บริการ ทสภ.จึงขอให้เจ้าของรถมานำรถออกจากพื้นที่ โดยนำบัตรจอดรถมาแสดง หรือหากเจ้าของรถไม่สามารถมาได้ด้วยตนเอง สามารถมอบให้ผู้แทนมาได้ โดยต้องนำสำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชนของผู้แทน และใบแจ้งความการได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนมารับรถจากสถานีตำรวจมาแสดง
นายเสรีรัตน์ ยังกล่าวอ้างว่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นภาวะไม่ปกติ ทสภ.จึงได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมให้กับผู้ใช้บริการจอดรถยนต์เป็นกรณีพิเศษ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (ขสมก.) และ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้หยุดให้บริการรถทุกสายที่วิ่งเข้าสู่ศูนย์ขนส่งสาธารณะ ภายใน ทสภ.แล้ว แต่ยังมีรถตู้ ขสมก.วิ่งเข้ามารับ-ส่งผู้โดยสารที่อาคารศูนย์ขนส่งสาธารณะอยู่ และ ทสภ.ยังคงให้บริการรถเวียน (Shuttle Bus) จากศูนย์ขนส่งสาธารณะไปยังอาคารผู้โดยสาร โดยจะจอดที่หน้าชาลาชั้น 1 ตลอด 24 ชั่วโมงตามปกติ