xs
xsm
sm
md
lg

วอร์เนอร์ฯ ฮุบสิทธิ์ขายอีเอ็มไอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วอร์เนอร์มิวสิค กวาดลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายผลงานของค่ายอีเอ็มไอทั่วเอเซีย ยกเว้น 2 ประเทศ เริ่มทางการต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะที่ไทยรับผลดี ส่งผลปีหน้าเติบโต 20% เพราะมีสินค้าขายมากขึ้น

นายนัดดา บุรณศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอร์เนอร์ มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทแม่ของวอร์เนอร์โดยภาคพื้นเอเซียได้เข้าประมูลลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายอัลบั้มผลงานเพลงของศิลปินค่ายอีเอ็มไอ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะ โดยจะถือลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายทั้งรูปแบบซีดี วีซีดี ดีวีดีและสื่อดิจิตอล ในตลาดเอเซีย เป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งจะเริ่มเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายนนี้ ยกเว้น 2 ประเทศคือ ฟิลิปินส์และอีกประเทศหนึ่ง โดยในประเทศไทยก็จะมีผลเช่นเดียวกัน ซึ่งก็ได้เริ่มอย่างไม่เป็นทางการไปตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมาแล้ว

“เดิมทีในไทยก็มีบริษัทอีเอ็มไออยู่แล้ว แต่เมื่อช่วงสิ้นปีที่แล้วอีเอ็มไอในไทยปิดตัวลงไป เพราะว่าตลาดเพลงสากลไม่ค่อยดี ตกลงมากกว่าปีละ 20% ต่อเนื่องมา 3 ปีแล้ว ทำให้ตลาดเมืองไทยไม่มีผลงานของค่ายอีเอ็มไอวางจำหน่ายอย่างถูกกฎหมาย ขณะที่ตลาดยังมีความต้องการ เพราะส่วนใหญ่เป็นศิลปินดังๆมีผลงานดีๆเป็นอมตะและผูกพันกับคนไทยมากเช่น เดอะบีทเทิล สไปซ์เกิร์ล ควีน โคลด์เพลย์ เรดิโอเช็ค เป็นต้น”

ช่วงที่ผ่านมาก็มีบริษัทเอนเตร์เทนเม้นท์รายใหญ่ของไทยไปร่วมเสนอตัวประมูลลิขสิทธิ์ด้วยหลายราย แต่สุดท้ายวอร์เนอร์ฯก็คว้าชัยชนะมาได้

ทั้งนี้บริษัทฯได้ตั้งทีมงานใหม่ขึ้นมาดูแลผลงานของอีเอ็มไอโดยเฉพาะเป็นอีก 1 ยูนิต เพราะต้องการทำตลาดจริงจัง เพราะศิลปินและผลงานของค่ายอีเอ็มไอนั้นก็มีตลาดใหญ่พอสมควร และยืนยันว่าบริษัทฯจะให้ความสำคัญกับทั้งผลงานของอีเอ็มไอและวอร์เนอร์เท่ากัน โดยพิจารณาตามสภาพของผลงานและกระแสในช่วงนั้นว่าจะเน้นหนักใครเป็นพิเศษ และเราต้องการผลักดันให้อีเอ็มไอกลับสู่ตลาดไทยให้ได้เหมือนเดิม

นายนัดดากล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทฯคาดว่า วอร์เนอร์ไทยจะมีอัตราการเติบโตที่ดีมากกว่า 15%-20% เนื่องจากมีสินค้าในการทำตลาดมากขึ้น โดยคาดว่าปีหน้าจะมีการออกอัลบั้มประมาณ 30-40 ชุดต่อเดือน จากเดิมในปีนี้ออกประมาณ 15-20 ชุดต่อเดือน ซึ่งมีทั้งสากลและไทยมากบ้างน้อยบ้างสลับกันไปแล้วแต่ช่วงเดือน ขณะที่ปีนี้คาดว่ารายได้มีอัตราการเติบโตประมาณ 15% โดยช่วง 6 เดือนแรกสามารถทำรายได้เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ครึ่งปีหลังสภาพตลาดรวมแย่

โดยปีนี้วอร์เนอร์ได้ออกผลงานมามากส่วนที่ทำรายได้และยอดขายดีๆในอันดับต้นๆเช่น คอนเสิร์ตบาวเบญจเพศ, มาดอนน่า, คอนเสิร์ตแบบประภาส ชลศรานนท์, บี-พีรพัฒน์ เป็นต้น

นายนัดดากล่าวต่อว่า ตลาดเพลงรวมในไทยมีมูลค่าประมาณ 3,600-4,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นตลาดเพลงไทยมากถึง 85% ขณะที่ตลาดเพลงสากลเหลือแค่ 15% ต่างจากอดีตเมื่อกว่า 10-20 ปีที่ผ่านมาที่ตลาดเพลงสากลจะใหญ่มาก ทั้งนี้ค่ายผู้จัดจำหน่ายเพลงสากลในไทยรายใหญ่ๆก็ยังคงประกอบด้วย วอร์เนอร์ฯ, โซนี่มิวสิค, บีเอ็มจี, ยูนิเวอร์แซล และ แพลตทินั่ม โดยวอร์เนอร์ฯมีส่วนแบ่งในตลาดนี้ประมาณ 35% จากตลาดเพลงสากล
กำลังโหลดความคิดเห็น