สมาคมแบงก์ฯ หวั่นเกิดภาวะเงินฝืดทั่วโลก ช่วงที่เหลือของปีนี้ ต่อเนื่องถึงปีหน้าชี้ 3 ปัจจัยสำคัญ ซับไพรม์-ต่างชาติ เทขายหุ้น-เฟดอัดฉีด 7 $แสนล.เป็นสัญญาณบ่งชี้การขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง
นายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ปัญหาวิกฤตสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯ (ซับไพรม์) ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ทั้งนี้ กังวลว่า ในช่วงครึ่งปีหลังหรือช่วงต้นปีหน้า อาจเกิดภาวะเงินฝืดทั่วโลกได้ รวมทั้งประเทศไทย โดยรัฐบาลได้ทำการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมไปถึงเม็ดเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ ที่อยู่ระหว่างรอสภาคองเกรสพิจารณา ล้วนเป็นสัญญาที่ชี้ให้เห็นถึงภาวะสภาพคล่องที่ลดลง รวมไปถึงการขายสินทรัพย์ของต่างชาติทั่วโลก เพื่อดึงเงินกลับประเทศสหรัฐฯ ย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทั่วโลก
“บ้านเราเองเริ่มมีสัญญาณของภาวะเงินฝืดบ้าง เนื่องมาจากนักลงทุนต่างชาติขายทรัพย์สินรวมถึงขายหุ้น ซึ่งตั้งแต่ต้นปีจนกระทั่งถึงปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไปกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งแน่นอนย่อมส่งผลต่อสภาพคล่องในระบบ”
นอกจากนี้ อีกหนึ่งสัญญาณที่เห็น คือ มีกลุ่มของบริษัทต่างชาติเข้ามาเสนอขายตราสารหนี้ในประเทศไทยอยู่หลายบริษัท ทั้งนี้ ย่อมมาจากดอกเบี้ยของบ้านเราถือว่าค่อนข้างถูกกว่าที่อื่น
ขณะที่เศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยมากกว่าภาคการลงทุน ซึ่งภาคการส่งออกถือเป็นปัจจัยหลักในการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย