ทีดีอาร์ไอ คาด ผลกระทบวิกฤตสถาบันการเงินล้ม ฉุด ศก.สหรัฐฯ ทรุดตัว ฉุดส่งออกไทยหดตัวตาม แนะจับตา เลห์แมน ถอนเงินลงทุนกลับบ้าน ส่วนกรณี เอไอเอ ยังไม่น่ามีปัญหา
วันนี้ (17 ก.ย.) นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐฯที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า การประกาศล้มละลายของ เลห์แมน บราเธอร์ส ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งอาจลุกลามไปถึงสถาบันการเงินขนาดใหญ่รายอื่นในประเทศ และมีโอกาสทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวลงอีก
นายสมชัย กล่าวว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวจะมีผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยมีโอกาสขยายตัวในทิศทางชะลอลงเช่นกัน นอกจากนี้ นายสมชัย ยังเชื่อว่า จะมีเม็ดเงินไหลออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก เนื่องจากนักลงทุนสหรัฐที่เข้ามาลงทุนในไทยดึงเงินกลับประเทศเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง
อย่างไรก็ตาม ภาคการเงินของไทย คาดว่า ไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวมากนัก เพราะ เลห์แมน บราเธอร์ส เป็นวาณิชธุรกิจที่กระจายการลงทุนในธุรกิจหลายประเภทในไทย อาทิ บริษัทหลักทรัพย์ และการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น บริษัท แกรนด์ แอสเสท จำกัด (มหาชน) บริษัท ไรมอนด์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งต้องจับตาว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อการพัฒนาโครงการหรือไม่ โดยบริษัทเหล่านี้ต้องหาผู้ลงทุนรายใหม่เข้ามาลงทุนแทนให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้โครงการต้องหยุดชะงักลง
สำหรับบริษัท อเมริกันอินเตอร์เนชั่นแนล แอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของเอไอจี กรุ๊ป ที่กำลังประสบปัญหาการเงินเช่นกัน นายสมชัย เชื่อว่า จะไม่ได้รับผลกระทบมาก เพราะมีทุนสำรองกว่าร้อยละ 1,100 ซึ่งสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ถึง 11 เท่า ประกอบกับกฎหมายประกันภัยกำหนดให้บริษัทประกันที่นำเงินส่งให้บริษัทแม่ในต่างประเทศจะต้องขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ดังนั้น จึงไม่น่าเป็นห่วง
วันนี้ (17 ก.ย.) นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐฯที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า การประกาศล้มละลายของ เลห์แมน บราเธอร์ส ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งอาจลุกลามไปถึงสถาบันการเงินขนาดใหญ่รายอื่นในประเทศ และมีโอกาสทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวลงอีก
นายสมชัย กล่าวว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวจะมีผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยมีโอกาสขยายตัวในทิศทางชะลอลงเช่นกัน นอกจากนี้ นายสมชัย ยังเชื่อว่า จะมีเม็ดเงินไหลออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก เนื่องจากนักลงทุนสหรัฐที่เข้ามาลงทุนในไทยดึงเงินกลับประเทศเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง
อย่างไรก็ตาม ภาคการเงินของไทย คาดว่า ไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวมากนัก เพราะ เลห์แมน บราเธอร์ส เป็นวาณิชธุรกิจที่กระจายการลงทุนในธุรกิจหลายประเภทในไทย อาทิ บริษัทหลักทรัพย์ และการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น บริษัท แกรนด์ แอสเสท จำกัด (มหาชน) บริษัท ไรมอนด์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งต้องจับตาว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อการพัฒนาโครงการหรือไม่ โดยบริษัทเหล่านี้ต้องหาผู้ลงทุนรายใหม่เข้ามาลงทุนแทนให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้โครงการต้องหยุดชะงักลง
สำหรับบริษัท อเมริกันอินเตอร์เนชั่นแนล แอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของเอไอจี กรุ๊ป ที่กำลังประสบปัญหาการเงินเช่นกัน นายสมชัย เชื่อว่า จะไม่ได้รับผลกระทบมาก เพราะมีทุนสำรองกว่าร้อยละ 1,100 ซึ่งสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ถึง 11 เท่า ประกอบกับกฎหมายประกันภัยกำหนดให้บริษัทประกันที่นำเงินส่งให้บริษัทแม่ในต่างประเทศจะต้องขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ดังนั้น จึงไม่น่าเป็นห่วง
