xs
xsm
sm
md
lg

นายกค้าปลีกเร่งรัฐฟื้นเชื่อมั่น ดึงทุนต่างชาติคืน-Q3 ตลาดวูบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ประเมินไตรมาสสุดท้ายจะเป็นไปด้วยดี หากไม่มีผลกระทบเลวร้ายไปกว่านี้ส่วน 9 เดือนที่ผ่านมา โตเฉลี่ย 4-5% วอนไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลควรเร่งกระตุ้นความมั่นใจผู้บริโภค ปล่อยเมกะโปรเจกต์ กระตุ้นให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียน นักลงทุนจะกลับมา

นายธนภณ ตังคณานันท์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอย่างมาก ขณะที่ส่วนของนักลงทุน ในกลุ่มต่างชาติที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทย ค่อนข้างหนักใจ เพราะกลุ่มนี้อาจจะไม่เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ทำให้มีการชะลอแผนลงทุนต่อไป แต่ถ้าเป็นนักลงทุนที่อาศัยในประเทศไทย เชื่อว่า ยังมีความเชื่อมั่นอยู่

ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยว ถือเป็นกลุ่มที่มีผลกระทบโดยตรงมากสุด ขณะที่กลุ่มค้าปลีกจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมมากกว่า กล่าวคือ จะได้รับผลกระทบในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย แต่กลุ่มสินค้าคอนซูเมอร์ที่จำเป็นต้องใช้ ยังไม่เห็นผลกระทบมากนัก ถึงแม้ว่าอาจจะมีการจำกัดการใช้ลดลงก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ภาพการเติบโตโดยรวมของอุตสาหกรรมค้าปลีกไทยมูลค่า 1.22 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 14% ของตัวเลข จีดีพีของประเทศ ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มีการเติบโตที่ 4-5% ถือว่าทรงตัว ซึ่งเมื่อแยกออกมาเป็นแต่ละไตรมาสแล้ว ไตรมาส 1 ถือว่ามีการเติบโตที่สูงมาก ส่วนไตรมาส 2 เริ่มมีปัจจัยทางราคาน้ำมันเข้ามา ทำให้การเติบโตลดลงแต่ยังดีอยู่ ส่วนไตรมาส 3 มีการเติบโตน้อยสุด เพราะมีปัจจัยลบมากมาย

สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งถือเป็นช่วงไฮซีซันของการขาย มองว่า หากไม่มีปัจจัยลบเข้ามามากกว่านี้ การเติบโตก็น่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส3ที่ผ่านมา บวกกับกลุ่มผู้ประกอบการจะส่งกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อทำยอดขายด้วยแล้ว ความเป็นไปได้ในการเติบโตน่าจะดีขึ้น

นายธนภณ กล่าวต่อว่า หลังได้รับเลือกให้เป็นประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เป็นสมัยที่ 2 เรื่องที่เร่งด่วนที่สุดที่จะทำ คือ สิ่งที่ยังค้างอยู่ในการทำงานสมัยแรก ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของ พ.ร.บ.ค้าปลีก ที่ นายไชยา สะสมทรัพย์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กำลังพยายามผลักดันให้เกิด พรบ.ค้าปลีกอีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องดังกล่าว โดยมีตัวแทนจากสมาคมฯเข้าไปร่วมด้วย ทางสมาคมจะพยายามให้ข้อมูล ข้อดี ข้อเสีย ซึ่งจะพยายามหาข้อสรุปและทางออกที่ดีที่สุดออกมาให้ได้ ซึ่งถึงจุดๆ นั้น อาจจะไม่ต้องมี พ.ร.บ.ค้าปลีกก็ได้ เพียงแค่ออกกฏหมายมาดูแลก็น่าจะเพียงพอแล้ว

นอกจากนี้ วาระเร่งด่วนที่จะดำเนินการอีก คือ เรื่องของการประสานงานกับหน่วยงานราชการในเรื่องของ การจ้างงาน เพราะเราเป็นธุรกิจที่ต้องทำงานทุกวัน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด และที่สำคัญ คือ การสนับสนุนให้ความรู้กับสมาชิก จากปัจจุบันสมาคมฯมีสมาชิกรวม 115 ราย เป็นกลุ่มค้าปลีก 43 ราย และ 72 ราย เป็นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน

**วอนรัฐบาลสร้างความเชื่อมั่น**

ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธุ์ ที่ปรึกษา สมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า เวลานี้ต้องการให้ทางภาครัฐรีบเร่งสร้างความมั่นใจให้กลับคืนมา ซึ่งในระยะสั้น เช่น หากมีการเลือกตั้งขึ้นมาใหม่ ก็ถือเป็นการสร้างความมั่นใจที่จะกลับมาได้เร็วที่สุด ขณะเดียวกัน ยังจะส่งผลต่อเม็ดเงินที่จะไหลเข้ามาในภาคเศรษฐกิจด้วย ขณะเดียวกัน มองว่า ภาครัฐเองก็ควรที่จะเริ่มอนุมัติงบประมาณ ที่จะทำเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ในช่วงนี้ได้แล้ว เพราะผลมันจะไปเกิดในช่วงปีหน้า ซึ่งจะทำให้ภาพเศรษฐกิจปีหน้ามีแนวโน้มที่ดีด้วย และหากทางภาครัฐรู้จักบริหารจัดการงบประมาณแผ่นดินต่อปี มีการะมัดระวังการใช้เงินที่ดีขึ้น เชื่อมั่นว่า นักลงทุนก็จะเกิดความมั่นใจในการลงทุนระยะยาวต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น