ธนาคารโลก เชื่อ ปัญหาการเมือง กระทบเศรษฐกิจไทยแค่ระยะสั้น ชี้ การตัดสินใจลงทุนของต่างชาติ ไม่ได้มองข้อมูลเพียงด้านเดียว แต่มองพื้นฐานเป็นหลัก เน้นรัฐบาลที่มาจากการลากตั้งในระบอบประชาธิปไตยมากกว่าพรรคการเมือง และนโยบายที่มีความต่อเนื่อง เตรียมจะทบทวนตัวเลขใหม่ ธ.ค.นี้
วันนี้ (10 ก.ย.) น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลกประจำประเทศไทย (เวิลด์แบงก์) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองของไทยขณะนี้ ว่า เป็นเพียงผลกระทบในระยะสั้น โดยมีผลต่อการท่องเที่ยวทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวไทยลดลง แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนมากนัก เนื่องจากการตัดสินใจการลงทุนไม่ได้มองข้อมูลเพียงด้านเดียว แต่มองพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นหลัก
นอกจากนี้ นักลงทุนจะดูความต่อเนื่องของนโยบายของภาครัฐ โดยเฉพาะให้ความสำคัญกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้น หากนโยบายของรัฐบาลไม่เปลี่ยนแปลงก็คงไม่กระทบต่อการลงทุน และเชื่อว่า เมื่อสถานการณ์คลี่คลายเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น
“หากปัญหาการเมืองยุติลงเมื่อไหร่ เศรษฐกิจไทยก็จะฟื้นทันที โดยเบื้องต้นเห็นว่าปัญหาการเมืองกระทบต่อการท่องเที่ยว แต่การส่งออกยังทำรายได้เข้าประเทศสูง ซึ่งจะช่วยชดเชยรายได้ท่องเที่ยวที่หายไป” นางกิริฎา กล่าว
ส่วนการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งอาจเป็น นายสมัคร สุนทรเวช กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกนั้น นักลงทุนต่างชาติมองรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมากกว่าพรรคการเมือง โดยให้ความสำคัญรัฐบาลที่มาตามระบอบประชาธิปไตยเป็นหลัก และถ้าพรรคเดิมเป็นแกนนำรัฐบาลเชื่อว่า นโยบายการลงทุนไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก และทำให้การลงทุนฟื้นกลับคืนมาโดยเร็ว แม้ว่าจะมีพรรคการเมืองหลายพรรคเข้าร่วม และในขณะนี้ต่างชาติกำลังดูอยู่ว่ารัฐบาลมาอย่างไร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า นักลงทุนจะดูนโยบายของรัฐบาลว่าเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจหรือเปล่ามากกว่าปัญหาการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกเตรียมจะทบทวนเศรษฐกิจไทยใหม่ในเดือน ธ.ค.นี้ โดยจะนำตัวเลขเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ภาวะเศรษฐกิจโลก ภาวะเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะปัญหาการเมือง การบริโภคครัวเรือนได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน โดยจะนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาก่อนประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ตั้งเป้าหมายไว้ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมรายได้ในประเทศ (จีดีพี) ของไทยมีการขยายตัวร้อยละ 5
