xs
xsm
sm
md
lg

“เลี้ยบ” ยึดเบ็ดเสร็จบอร์ด รสก. ซ้ำรอยแบงก์ชาติจำเลยคดีหวยผงาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไม่สนข้อครหา “เลี้ยบ” เดินหน้าเพิ่มกรรมการรัฐวิสาหกิจ (ไดเร็กเตอร์พูล) เพิ่มอีก 127 ราย ล้วนเป็นคนในกลุ่มอำนาจเก่า บางรายคดีติดตัวลักษณะเดียวกับบอร์ดแบงก์ชาติ ระบุ “ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล-สุรสิทธิ์ สังขพงศ์” ถูกฟ้องหวยบนดินยังเข้ามาได้ อ้างถูกฟ้องคดีโดย คตส.แต่อัยการสูงสุดยังไม่ฟ้อง เผยที่เหลือหน้าเดิมๆ อย่าง “ธงทอง จันทรางศุ” “ประเสริฐ บุญสัมพันธ์”

นางพรรณขนิตตา บุญครอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารหลักทรัพย์ของรัฐ สำนักงานคณะกรรมการนบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า รายชื่อบุคคลที่อยู่ในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ (ไดเร็กเตอร์พูล) ที่ได้รับการคัดสรรเพิ่มเติมอีก 127 ราย และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังได้ลงนามเห็นชอบ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา เป็นการเพิ่มจากประกาศไปแล้วจำนวน 53 คน ซึ่งกรณีบุคคลที่ถูกฟ้องร้องหรือมีคดีติดตัวนั้นเห็นว่า ไม่มีผลต่อการคัดสรรขึ้นมาเป็นไดเร็กเตอร์พูล

โดยกรณีของนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง และพล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ อดีตผู้อำนวยการ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่อยู่ระหว่างคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) ส่งฟ้องในคดีทุจริตสลากเลขท้ายแบบ 3 ตัว 2 ตัว หรือหวยบนดินนั้น ถือว่าเป็นการยื่นฟ้องโดย คตส. ไม่ใช่กระบวนการส่งฟ้องโดยอัยการสูงสุ และอัยการสูงสุดยังไม่ส่งฟ้อง จึงไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด

ไม่เพียงแค่นั้น การที่นายศุภรัตน์ เป็นทั้งประธานคณะกรรมการสรรหาไดเร็กเตอร์พูล และยังได้รับคัดเลือกเป็นไดเร็กเตอร์พูลด้วยนั้น สามารถทำได้ถือว่าไม่ผิด เนื่องจากขณะที่มีการประชุมคัดเลือก นายศุภรัตน์ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ส่วนที่ยังมีคดีฟ้องร้องโดย คตส.ก็ไม่เกี่ยวข้องกัน

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า การที่ นพ.สุรพงษ์ ได้ลงนามในประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องบัญชีรายชื่อรัฐวิสาหกิจ ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2551 เพื่อจัดทำบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจจากประกาศเดิมเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2551 เพิ่มเติมอีก 127 คน นั้นนอกจากจะซ้ำรอยการแต่งตั้งบอร์ด ธปท.ที่ผ่านมา ยังสะท้อนให้เห็นว่าการแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญของรัฐวิสาหกิจ ยังคงไม่สะทกสะท้านกับข้อกล่าวหาของ คตส. โดยยังคงเดินหน้าทำงานต่อไป

ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกแต่งตั้งและถูกฟ้องร้องกล่าวโทษตามรายชื่อที่ประกาศในครั้งนี้ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะนายศุภรัตน์ และ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ เนื่องจากมีคดีฟ้องร้องโดย คตส.ติดตัว การที่ผู้มีอำนาจอ้างว่าคดีอยู่ระหว่างฟ้องร้องยังไม่ถึงที่สุด หรือระบุว่าต้องให้โอกาสบุคคลเหล่านี้ทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เพราะหากเป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลที่ถูกกล่าวหาคงไม่มีผู้ใดออกมาคัดค้าน แต่กรณีนี้เป็นการแต่งตั้งขึ้นมาเพื่อบริหารสมบัติของชาติมูลค่ามหาศาล

นอกจากนี้ ยังมีรายชื่ออีกกรรมการอีกหลายรายที่เคยมีภาพแห่งความใกล้ชิดสนิทสนมกับอดีตผู้นำ เช่น นางจันทิมา สิริแสงทักษิณ นายธงทอง จันทรางศุ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์และ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ เป็นต้น เรื่องนี้ต้องให้เกิดความโปร่งใสมากที่สุด ไม่น่าเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวจะได้รับการคัดสรรเข้ามาอยู่ในรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจด้วย คนส่วนใหญ่มักอ้างว่าประเทศเรามีธรรมาภิบาลมีกฎหมายที่ดูแลในส่วนนี้ให้มีความโปร่งใสตรวจสอบได้ แต่ทุกครั้งที่มีการท้วงติงก็อ้างว่าเพิ่งถูกกล่าวหาหรือคดียังไม่สิ้นสุดต้องให้โอกาสเขาเหล่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการถูกกล่าวหาว่าพัวพันในเรื่องทุจริตก็จะถูกตั้งข้อสงสัยอยู่แล้วจึงควรถอนตัวออกมาก่อนรอให้เรื่องสิ้นสุดปราศจากความสงสัยเสียก่อนจึงเข้าไปใหม่ก็ยังไม่สาย

“เรื่องนี้เป็นผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง อาจมีความเสี่ยงทำให้รัฐเสียผลประโยชน์หรือเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้องของตนเองได้” แหล่งข่าวย้ำ
กำลังโหลดความคิดเห็น