สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ระบุ ความต้องการบ้าน 2.5 – 5 ล้านบาทโตต่อเนื่อง หลังลูกค้าแห่จองกว่า 30% ขณะที่บ้าน 5-10 ล้านบาท ครองสัดส่วน 28% ระบุตลาดบนรับผลกระทบภาวะเศรษฐกิจน้อย คาดไตรมาส 3-4 ตลาดรับสร้างบ้านคึกคักหลังยังมีลูกค้าอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ตัดสินใจภายในงาน มั่นใจยอดขายตลาดรวมเข้าเป้า 8,500 ล้านบาท แจงยอดขายรวมงานรับสร้างบ้าน 1,500ล้านบาท
นายพันธุ์เทพ ทานชิติกุล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลในงานรับสร้างบ้าน 2008 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 ส.ค.ที่ผ่านมาพบว่า บ้านราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท ยังคงมีความต้องการสูงสุด โดยมีสัดส่วนยอดขายในงานประมาณ 5.82% จากยอดขายรวม 1,500 ล้านบาท ในขณะที่บ้านระดับราคา2.5 – 5 ล้านบาท มีสัดส่วนยอดขาย 32.32 % และบ้านราคา 5-10 ล้านบาท มีสัดส่วน28.47% ส่วนบ้านระดับราคา 10-20 ล้านบาท มีสัดส่วนยอดขาย 13.07% และบ้านราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปมีสัดส่วนยอดขาย 10.32% สะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการของผู้บริโภคยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
“บ้านราคาระหว่าง 2.5 – 5 ล้านยังคงเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดซึ่งใกล้เคียงกับสถิติในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้แม้ว่าเศณษฐกิจของประเทศจะยังชะลอตัวอยู่ แต่ความต้องการซื้อบ้านยังขยายตัวต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบระหว่างยอดขายในงานปี50กับปี51 ซึ่งมียอดขายใกล้เคียงกัน เนื่องจากแม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวแต่กลุ่มลูกค้าระดับบนยังไม่กระทบต่อกำลังซื้อของลูกค้ามากนัก ทำให้คาดว่าหลังจากงานรับสร้างบ้าน 2008 จะมียอดขายเข้ามาเพิ่มอีกหนึ่ง ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อภายในงาน”
สำหรับในช่วงไตรมาสที่ 3 – 4 ของปี 2551 คาดว่าตลาดน่าจะมีความคึกคักเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังมีกลุ่มผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้ตัดสินใจปลูกสร้างบ้านภายในงาน โดยกลุ่มดังกล่าวบริษัทรับสร้างบ้านที่ร่วมออกบูทในงานจะต้องติดตามกันต่อ คาดว่ายอดขายดังกล่าวจะเพิ่มเข้ามาในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี ซึ่งจะส่งผลให้ในปีนี้ ยอดขายรวมของตลาดรับสร้างบ้านที่วางไว้8,500 ล้านบาทเป็นไปตามเป้า
นายพันธุ์เทพ ทานชิติกุล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลในงานรับสร้างบ้าน 2008 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 ส.ค.ที่ผ่านมาพบว่า บ้านราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท ยังคงมีความต้องการสูงสุด โดยมีสัดส่วนยอดขายในงานประมาณ 5.82% จากยอดขายรวม 1,500 ล้านบาท ในขณะที่บ้านระดับราคา2.5 – 5 ล้านบาท มีสัดส่วนยอดขาย 32.32 % และบ้านราคา 5-10 ล้านบาท มีสัดส่วน28.47% ส่วนบ้านระดับราคา 10-20 ล้านบาท มีสัดส่วนยอดขาย 13.07% และบ้านราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปมีสัดส่วนยอดขาย 10.32% สะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการของผู้บริโภคยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
“บ้านราคาระหว่าง 2.5 – 5 ล้านยังคงเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดซึ่งใกล้เคียงกับสถิติในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้แม้ว่าเศณษฐกิจของประเทศจะยังชะลอตัวอยู่ แต่ความต้องการซื้อบ้านยังขยายตัวต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบระหว่างยอดขายในงานปี50กับปี51 ซึ่งมียอดขายใกล้เคียงกัน เนื่องจากแม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวแต่กลุ่มลูกค้าระดับบนยังไม่กระทบต่อกำลังซื้อของลูกค้ามากนัก ทำให้คาดว่าหลังจากงานรับสร้างบ้าน 2008 จะมียอดขายเข้ามาเพิ่มอีกหนึ่ง ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อภายในงาน”
สำหรับในช่วงไตรมาสที่ 3 – 4 ของปี 2551 คาดว่าตลาดน่าจะมีความคึกคักเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังมีกลุ่มผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้ตัดสินใจปลูกสร้างบ้านภายในงาน โดยกลุ่มดังกล่าวบริษัทรับสร้างบ้านที่ร่วมออกบูทในงานจะต้องติดตามกันต่อ คาดว่ายอดขายดังกล่าวจะเพิ่มเข้ามาในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี ซึ่งจะส่งผลให้ในปีนี้ ยอดขายรวมของตลาดรับสร้างบ้านที่วางไว้8,500 ล้านบาทเป็นไปตามเป้า
