คลังเผยเดือนกรกฎา รัฐมียอดขาดดุลเงินสดรวม 67,502 ล้าน ส่งผลให้ 10 เดือน มียอดขาดดุลรวม 173,307 ล้าน ระบุ เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้ 5-6% ขณะที่ยอดออกบอนด์-ตั๋วสัญญาใช้เงิน เพื่อโปะขาดดุลมีจำนวนรวม 157,700 ล้าน
นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลังในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ได้แถลงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ในเดือนกรกฎาคม 2551 รัฐบาลขาดดุลเงินสดทั้งสิ้น 67,502 ล้านบาท ส่งผลให้การขาดดุลเงินสดของรัฐบาลในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2551 ขาดดุลทั้งสิ้น 173,307 ล้านบาท ต่ำกว่าการขาดดุลในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 28% โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 118,767 ล้านบาท และการขาดดุลเงินนอกงบประมาณ 54,540 ล้านบาท ทั้งนี้ การขาดดุลดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมายการดำเนินนโยบายการคลังแบบขาดดุลของรัฐบาล ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต 5-6% ในปี 2551
โดยในช่วง 10 เดือนแรก ปีงบประมาณ 2551 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1,240,128 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 85,073 ล้านบาท หรือ 7.4% ขณะที่ยอดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลมีทั้งสิ้น 1,358,895 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 57,595 ล้านบาท หรือ 4.4% โดยแบ่งออกเป็นรายจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบัน 1,268,554 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 5% คิดเป็นอัตราการเบิกจ่าย 76.4% ของวงเงินงบประมาณ 1,660,000 ล้านบาท ต่ำกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย ซึ่งมีอัตราการเบิกจ่าย 77.1% ของวงเงินงบประมาณ และรายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 90,341 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 3.2%
ส่งผลให้ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณ 118,767 ล้านบาท และเมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 54,540 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลังสุทธิ ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดทั้งสิ้น 173,307 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลชดเชยการขาดดุลดังกล่าวโดยการออกพันธบัตรและตั๋วสัญญาใช้เงินรวม 157,700 ล้านบาท
ส่วนฐานะการคลังเดือนกรกฎาคม 2551 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 101,288 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 16,306 ล้านบาท หรือ 19.2% ขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 138,812 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 7,743 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.3% เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของงบเงินอุดหนุนให้แก่ อปท.และกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนต่างๆ
ทั้งนี้ จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้น ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนกรกฎาคม 2551 ขาดดุล 37,524 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 29,978 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง ทำให้ดุลเงินสดขาดดุล 67,502 ล้านบาท ทั้งนี้ ในเดือนนี้รัฐบาลได้กู้เงินด้วยการออกพันธบัตร 5,809 ล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลดังกล่าว
นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลังในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ได้แถลงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ในเดือนกรกฎาคม 2551 รัฐบาลขาดดุลเงินสดทั้งสิ้น 67,502 ล้านบาท ส่งผลให้การขาดดุลเงินสดของรัฐบาลในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2551 ขาดดุลทั้งสิ้น 173,307 ล้านบาท ต่ำกว่าการขาดดุลในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 28% โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 118,767 ล้านบาท และการขาดดุลเงินนอกงบประมาณ 54,540 ล้านบาท ทั้งนี้ การขาดดุลดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมายการดำเนินนโยบายการคลังแบบขาดดุลของรัฐบาล ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต 5-6% ในปี 2551
โดยในช่วง 10 เดือนแรก ปีงบประมาณ 2551 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1,240,128 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 85,073 ล้านบาท หรือ 7.4% ขณะที่ยอดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลมีทั้งสิ้น 1,358,895 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 57,595 ล้านบาท หรือ 4.4% โดยแบ่งออกเป็นรายจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบัน 1,268,554 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 5% คิดเป็นอัตราการเบิกจ่าย 76.4% ของวงเงินงบประมาณ 1,660,000 ล้านบาท ต่ำกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย ซึ่งมีอัตราการเบิกจ่าย 77.1% ของวงเงินงบประมาณ และรายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 90,341 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 3.2%
ส่งผลให้ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณ 118,767 ล้านบาท และเมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 54,540 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลังสุทธิ ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดทั้งสิ้น 173,307 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลชดเชยการขาดดุลดังกล่าวโดยการออกพันธบัตรและตั๋วสัญญาใช้เงินรวม 157,700 ล้านบาท
ส่วนฐานะการคลังเดือนกรกฎาคม 2551 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 101,288 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 16,306 ล้านบาท หรือ 19.2% ขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 138,812 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 7,743 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.3% เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของงบเงินอุดหนุนให้แก่ อปท.และกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนต่างๆ
ทั้งนี้ จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้น ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนกรกฎาคม 2551 ขาดดุล 37,524 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 29,978 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง ทำให้ดุลเงินสดขาดดุล 67,502 ล้านบาท ทั้งนี้ ในเดือนนี้รัฐบาลได้กู้เงินด้วยการออกพันธบัตร 5,809 ล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลดังกล่าว
