ปชป.อัดมาตรการ 6 เดือน แค่เอาใจคนกรุงเทพฯ ปูพรมหวังผลเลือกตั้งครั้งหน้า ขณะรากหญ้าคนจนต่างจังหวัดไม่ได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง
วานนี้ (15 ก.ค.) นายจุติ ไกรกฤษ์ รมช.คลังเงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงมาตรการ 6 เดือน ที่ครม.มีมติออกมาว่า คิดว่ายังไม่เพียงพอเพราะขณะนี้ที่ดูกลายเป็นว่า ทำให้กับเฉพาะคนใน กทม.และคนที่คิดมาตรการน่าจะเป็นคนกรุงเทพฯ ที่ไม่รู้ความเป็นอยู่ของคนต่างจังหวัดที่อีก 73 จังหวัด ที่ยังมีวิถีชีวิตของคนในต่างจังหวัด เช่น พ่อแม่จ่ายค่ารถให้ลูกไปเรียนในตัวเมือง การตรึงค่าก๊าซอยากรู้ว่าอยู่นานเท่าไหร่ มาตรการที่ทำทุกวันนี้ทำในสิ่งที่จับต้องไม่ได้ คือ มาตรการลดภาษีรายได้ ที่ผ่านมาได้รับเพียงกลุ่มคนชนชั้นกลาง ขณะที่คนจำนวนมากที่ยากจน ไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนคนจนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ตรงนี้รัฐบาลจะมีมาตรการอย่างไร
“มาตรการนี้ยังไม่ถึงกลุ่มรากหญ้าที่ยากจน และต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง รมว.คลัง ไม่รู้วิถีชีวิตของคนจนที่แท้จริง มองแต่รอบๆ ตัวเอง นึกภาพแต่ในคลินิก จนลืมไปไปถึงระดับล่าง เรียกว่า ทำดีแล้วแต่ยังดีไม่พอ รัฐบาลพลาดเป้าไป มีหลายเรื่องที่ควรทำ แต่ไม่ทำ เช่น ดูแลราคาปุ๋ยให้กับเกษตรกร ช่วยเหลือผู้สูงอายุรายเดือนที่จนจริงๆ ทุกวันนี้ได้รับบริการจากรัฐแค่ 2 ล้าน คนจาก 7 ล้านคน รัฐบาลสามารถเข้าไปช่วยเหลือได้เลย แต่ก็ไม่ได้ทำเป็นการทำแก้จนเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้คุยได้ มองได้ว่ามาตรการนี้ออกมาเพื่อเป็นการปูพรมหวังผลเลือกตั้งครั้งหน้า เท่านั้นซึ่งเชื่อว่า มาตรการนี้ได้ผลแค่ในวงจำกัด และจะมีการปันผลหวังเลือกตั้ง”
วานนี้ (15 ก.ค.) นายจุติ ไกรกฤษ์ รมช.คลังเงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงมาตรการ 6 เดือน ที่ครม.มีมติออกมาว่า คิดว่ายังไม่เพียงพอเพราะขณะนี้ที่ดูกลายเป็นว่า ทำให้กับเฉพาะคนใน กทม.และคนที่คิดมาตรการน่าจะเป็นคนกรุงเทพฯ ที่ไม่รู้ความเป็นอยู่ของคนต่างจังหวัดที่อีก 73 จังหวัด ที่ยังมีวิถีชีวิตของคนในต่างจังหวัด เช่น พ่อแม่จ่ายค่ารถให้ลูกไปเรียนในตัวเมือง การตรึงค่าก๊าซอยากรู้ว่าอยู่นานเท่าไหร่ มาตรการที่ทำทุกวันนี้ทำในสิ่งที่จับต้องไม่ได้ คือ มาตรการลดภาษีรายได้ ที่ผ่านมาได้รับเพียงกลุ่มคนชนชั้นกลาง ขณะที่คนจำนวนมากที่ยากจน ไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนคนจนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ตรงนี้รัฐบาลจะมีมาตรการอย่างไร
“มาตรการนี้ยังไม่ถึงกลุ่มรากหญ้าที่ยากจน และต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง รมว.คลัง ไม่รู้วิถีชีวิตของคนจนที่แท้จริง มองแต่รอบๆ ตัวเอง นึกภาพแต่ในคลินิก จนลืมไปไปถึงระดับล่าง เรียกว่า ทำดีแล้วแต่ยังดีไม่พอ รัฐบาลพลาดเป้าไป มีหลายเรื่องที่ควรทำ แต่ไม่ทำ เช่น ดูแลราคาปุ๋ยให้กับเกษตรกร ช่วยเหลือผู้สูงอายุรายเดือนที่จนจริงๆ ทุกวันนี้ได้รับบริการจากรัฐแค่ 2 ล้าน คนจาก 7 ล้านคน รัฐบาลสามารถเข้าไปช่วยเหลือได้เลย แต่ก็ไม่ได้ทำเป็นการทำแก้จนเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้คุยได้ มองได้ว่ามาตรการนี้ออกมาเพื่อเป็นการปูพรมหวังผลเลือกตั้งครั้งหน้า เท่านั้นซึ่งเชื่อว่า มาตรการนี้ได้ผลแค่ในวงจำกัด และจะมีการปันผลหวังเลือกตั้ง”
