โค้กดัน “โค้กซีโร่” ติดลมบน ปีเดียวคุยโวช่วยสร้างแชร์ตลาดสปาร์คลิ่งไร้น้ำตาล 63% บริษัทแม่ยาหอมไทยเป็นตลาดเป้าหมายหลัก อัดงบ 50 ล้านบาทลุยต่อ
นางชื่นหทัย วรรธนะดิษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2551 ตลาดรวมเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์แบบพร้อมดื่มในไทย (ไม่รวมน้ำดื่มบรรจุแกลลอน) คาดว่า จะมีมูลค่าสูงถึง 220,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นประเภทได้ดังนี้ 1.นม สัดส่วน 30% ของตลาดรวม 2.เครื่องดื่มสปาร์คลิ่ง สัดส่วน 20% 3.น้ำชา กาแฟ เครื่องดื่มบำรุงกำลัง น้ำถั่วเหลืองและอื่นๆ สัดส่วน 34% 4.น้ำดื่ม สัดส่วน 10% 5.น้ำผลไม้ สัดส่วน 6%
ทั้งนี้ ตลาดรวมประเภทสปาร์คลิ่ง (น้ำอัดลมรวมทั้งที่มีและไม่มีน้ำตาล) แม้จะเป็นตลาดที่อยู่ในระดับกลางๆ แต่ก็มีการเติบโตที่ดี มากกว่าเท่าตัวหรือ 100% ในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาการที่บริษัทฯได้เปิดตัวโค้กซีโร่ ไม่มีน้ำตาล ลงสู่ตลาดด้วยเมื่ออกลางปีที่แล้ว ซึ่งตลาดเซ็กเม้นท์สปาร์คลิ่งไร้น้ำตาลนี้มีมูลค่าตลาดประมาณ 2,000 ล้านบาท
ปัจจุบันโค้กซีโร่เป็นผู้นำตลาดโดยตลอดมีส่วนแบ่งเชิงมูลค่าตลาดเครื่องดื่มสปาร์คลิ่งปราศจากน้ำตาล 43% ขณะที่ภาพรวมของบริษัทฯในตลาดสปาร์คลิ่งนั้น ทั้งโค้กซีโร่ โค้กไลท์ (ส่วนแบ่งตลาด 10%) และสไปรท์ซีโร่ (ส่วนแบ่ง 13%) มีส่วนแบ่งตลาดเชิงมูลค่าในไทยมากกว่า 60%
สำหรับโค้กซีโร่ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนทำให้ภาพรวมของบริษัทฯและส่วนแบ่งรวมเติบโตอย่างมาก โดยในปี 2551 คาดว่า กลุ่มโคคา-โคลาในไทย เมื่อพิจารณาจากยอดขายทั่วประเทศจากทุกช่องทางการขายและทุกบรรจุภัณฑ์ได้แก่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีก ออฟฟิศ ร้านอาหารจานด่วน ตลาดสด บาร์ คาเฟ่ โรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร แบ่งเป็น เครื่องดื่มสปาร์คลิ่ง ส่วนแบ่ง 50% (โค้กครองอันดับ 1 ทั้งปริมาณและยอดขาย) น้ำผลไม้พร้อมดื่ม ส่วนแบ่ง 10% (มินิท เมด สแปลช ครองอันดับ 1 ด้านยอดขาย) และเครื่องดื่มแบ่งขายแบบรีเทลน้อยกว่า 10 ลิตร ส่วนแบ่ง 10% (น้ำทิพย์ครองอันดับ 1 ด้านปริมาณและยอดขายในเทรดดิชันนัลเทรด)
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาภาพรวมตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมแล้ว ปีนี้ตลาดทรงตัว ไม่เติบโต แต่บริษัทแม่ของโค้กยังคงให้ความสำคัญกับการทำตลาดในไทยอย่างมาก เพราะไทยถือเป็น 1 ใน 20 ประเทศที่เป็นตลาดสำคัญของกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ทั่วโลก ที่ยังมีโอกาสและศักยภาพอีกมาก
ล่าสุด ได้ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ “genzero” ซึ่งใช้ที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรก เพื่อทำตลาดโค้กซีโร่เป็นปีที่ 2 ด้วยคอนเซปต์ ไลฟ์สไตล์ เทรนด์ จากปีแรกที่เน้นโปรดักต์เทรนด์ โดยใช้กลยุทธ์การตลาด Insperience (inspiring experience marketing) ที่ฉีกรูปแบบและกฎเกณฑ์ ด้วยเทรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ การเปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ การสื่อสารกับผู้บริโภค พร้อมกันนี้ได้เปิดตัว โค้กซีโร่ ขวดกริ๊ป ขนาด 500 มล.ราคา 17 บาท ซึ่งเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เปิดตัวบรรจุภัณฑ์นี้ คาดหวังปีนี้ยอดขายโค้กซีโร่เพิ่ม 2 เท่า ในช่วง 6 เดือนจากนี้
นางชื่นหทัย วรรธนะดิษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2551 ตลาดรวมเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์แบบพร้อมดื่มในไทย (ไม่รวมน้ำดื่มบรรจุแกลลอน) คาดว่า จะมีมูลค่าสูงถึง 220,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นประเภทได้ดังนี้ 1.นม สัดส่วน 30% ของตลาดรวม 2.เครื่องดื่มสปาร์คลิ่ง สัดส่วน 20% 3.น้ำชา กาแฟ เครื่องดื่มบำรุงกำลัง น้ำถั่วเหลืองและอื่นๆ สัดส่วน 34% 4.น้ำดื่ม สัดส่วน 10% 5.น้ำผลไม้ สัดส่วน 6%
ทั้งนี้ ตลาดรวมประเภทสปาร์คลิ่ง (น้ำอัดลมรวมทั้งที่มีและไม่มีน้ำตาล) แม้จะเป็นตลาดที่อยู่ในระดับกลางๆ แต่ก็มีการเติบโตที่ดี มากกว่าเท่าตัวหรือ 100% ในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาการที่บริษัทฯได้เปิดตัวโค้กซีโร่ ไม่มีน้ำตาล ลงสู่ตลาดด้วยเมื่ออกลางปีที่แล้ว ซึ่งตลาดเซ็กเม้นท์สปาร์คลิ่งไร้น้ำตาลนี้มีมูลค่าตลาดประมาณ 2,000 ล้านบาท
ปัจจุบันโค้กซีโร่เป็นผู้นำตลาดโดยตลอดมีส่วนแบ่งเชิงมูลค่าตลาดเครื่องดื่มสปาร์คลิ่งปราศจากน้ำตาล 43% ขณะที่ภาพรวมของบริษัทฯในตลาดสปาร์คลิ่งนั้น ทั้งโค้กซีโร่ โค้กไลท์ (ส่วนแบ่งตลาด 10%) และสไปรท์ซีโร่ (ส่วนแบ่ง 13%) มีส่วนแบ่งตลาดเชิงมูลค่าในไทยมากกว่า 60%
สำหรับโค้กซีโร่ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนทำให้ภาพรวมของบริษัทฯและส่วนแบ่งรวมเติบโตอย่างมาก โดยในปี 2551 คาดว่า กลุ่มโคคา-โคลาในไทย เมื่อพิจารณาจากยอดขายทั่วประเทศจากทุกช่องทางการขายและทุกบรรจุภัณฑ์ได้แก่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีก ออฟฟิศ ร้านอาหารจานด่วน ตลาดสด บาร์ คาเฟ่ โรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร แบ่งเป็น เครื่องดื่มสปาร์คลิ่ง ส่วนแบ่ง 50% (โค้กครองอันดับ 1 ทั้งปริมาณและยอดขาย) น้ำผลไม้พร้อมดื่ม ส่วนแบ่ง 10% (มินิท เมด สแปลช ครองอันดับ 1 ด้านยอดขาย) และเครื่องดื่มแบ่งขายแบบรีเทลน้อยกว่า 10 ลิตร ส่วนแบ่ง 10% (น้ำทิพย์ครองอันดับ 1 ด้านปริมาณและยอดขายในเทรดดิชันนัลเทรด)
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาภาพรวมตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมแล้ว ปีนี้ตลาดทรงตัว ไม่เติบโต แต่บริษัทแม่ของโค้กยังคงให้ความสำคัญกับการทำตลาดในไทยอย่างมาก เพราะไทยถือเป็น 1 ใน 20 ประเทศที่เป็นตลาดสำคัญของกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ทั่วโลก ที่ยังมีโอกาสและศักยภาพอีกมาก
ล่าสุด ได้ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ “genzero” ซึ่งใช้ที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรก เพื่อทำตลาดโค้กซีโร่เป็นปีที่ 2 ด้วยคอนเซปต์ ไลฟ์สไตล์ เทรนด์ จากปีแรกที่เน้นโปรดักต์เทรนด์ โดยใช้กลยุทธ์การตลาด Insperience (inspiring experience marketing) ที่ฉีกรูปแบบและกฎเกณฑ์ ด้วยเทรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ การเปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ การสื่อสารกับผู้บริโภค พร้อมกันนี้ได้เปิดตัว โค้กซีโร่ ขวดกริ๊ป ขนาด 500 มล.ราคา 17 บาท ซึ่งเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เปิดตัวบรรจุภัณฑ์นี้ คาดหวังปีนี้ยอดขายโค้กซีโร่เพิ่ม 2 เท่า ในช่วง 6 เดือนจากนี้