พานาโซนิค โหนกระแสโกลบอลวอร์มมิ่ง เปิดตัวสินค้าใหม่ ภายใต้การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เผยยังอั้นต้นทุนไหว ได้ฤกษ์ผุดแคมเปญ "พานาโซนิค เวียร่า มาราธอน เดอะ เวิลด์ ลองเกส ทีวี วอทช์ชิ่ง" เน้นไลน์สินค้านำเสนอแบบครบครัน ชูเทคโนโลยี มั่นใจพลาสม่า ครองแชร์ 50% เป็นผู้นำอีกสมัย ส่วนแอลซีดีทีวี ขยับแชร์เพิ่มเป็น 15% จาก 9% ในปีก่อน
นายฮิโรทากะ มุราคามิ ซีอีโอ กลุ่มบริษัท พานาโซนิคในประเทศไทย เปิดเผยว่า ทิศทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มจอภาพสู่ตลาดในปีนี้ จะมุ่งเน้นในเรื่องของเทคโนโลยีในการรับชม และเลือกใช้วัสดุและการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ในส่วนของจอภาพอย่างพลาสม่า ทีวี ที่ปราศจากสารตะกั่วและสารปรอท
ทั้งนี้ยอมรับว่าการหันมาผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมครั้งนี้ ส่งผลให้บริษัทฯต้องแบกรับต้นทุนสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯจะไม่มีการปรับราคาสินค้าขึ้นแต่อย่างไร ซึ่งยังคงเป็นราคาที่สามารถแข่งขันได้ในตลาด และเป็นราคาที่ปรับลดลงมาจากปีก่อน 35-40% เช่นเดียวกับของตลาดด้วย ทั้งนี้บริษัทฯจะมุ่งเน้นในส่วนของการบริหารจัดการภายในบริษัทฯทดแทน เชื่อว่าจะช่วยลดต้นทุนได้ทางหนึ่ง
สำหรับผลิตภัณฑ์จอภาพที่จะเปิดตัวใหม่ในปีนี้ ได้แก่ แอลซีดี ทีวี 6รุ่น ชูเทคโนโลยีในการรับชมที่ดีต่อสายตา, พลาสม่า ทีวี 6 รุ่น ชูเทคโนโลยีเกี่ยวกับการให้สีดำที่คมชัดมากยิ่งขึ้น และซีอาร์ที ทีวี อีก 8 รุ่น ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี และดีไซน์ที่ใกล้เคียงกับกลุ่มจอแบน ซึ่งสินค้าใหม่เหล่านี้ มีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งหมด
นายฮิโรทากะ กล่าวต่อว่า เนื่องจากตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้เพียง 2 เดือน ตั้งแต่เดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงไตรมาสแรกของการดำเนินธุรกิจของพานาโซนิค พบว่า 3 เดือนที่ผ่านมา ในแง่ยอดขายค่อนข้างน่าพอใจ แม้จะมีปัจจัยลบเข้ามาหลายอย่าง ส่วน 6 เดือนหลังจากนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด มองว่าเป็นเรื่องของราคาน้ำมัน ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างมาก อย่างไรก็ตามพานาโซนิคมั่นใจว่า ทั้งปีจะยังคงรักษายอดขาย 1,500 ล้านบาท และการเติบโต 10% ให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ได้ ซึ่งมาจากเอวี 55%, ซิสเต็ม20% และแบตเตอรี่อีก25%
ล่าสุดในส่วนของสินค้ากลุ่มเอวี บริษัทฯได้ทุ่มงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ "พานาโซนิค เวียร่า มาราธอน เดอะ เวิล์ด ลองเกส ทีวี วอลช์ชิ่ง" หรือการแข่งขันสร้างสถิติการดูทีวีที่ยาวนานที่สุดในโลก ตอกย้ำคุณสมบัติพิเศษของทีวี ที่ดูแล้วสบายตา ระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายน 2551 กับการรับชมการแข่งฟุตบอลนัดพิเศษ จากทีมผู้เล่นหลากหลายของไทย ถ่ายทอดสดผ่านทาง Nation Channel TTV3 จากสนาม S-ONE บางนา-ตราด ชิงรางวัลและผลิตภัณฑ์จากพานาโซนิครวมมูลค่ากว่า 200,000 ล้านบาท
ทั้งนี้มั่นใจว่าจากกลยุทธ์ดังกล่าว และการทำตลาดที่มุ่งเน้นคุณสมบัติพิเศษแตกต่างจากคู่แข่ง จะส่งผลให้พานาโซนิค มียอดขายในกลุ่มจอภาพเติบโตขึ้น 30% หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดของพลาสม่าทีวีเพิ่มเป็น 50% เป็นผู้นำอีกครั้ง จากเดิมปีก่อนมีแชร์อยู่ 39% เป็นผู้นำตลาดเช่นกัน ส่วนแอลซีดี ทีวี เชื่อว่าปีนี้จะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 15% จากเดิมในปีก่อนมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 9%
นายฮิโรทากะ มุราคามิ ซีอีโอ กลุ่มบริษัท พานาโซนิคในประเทศไทย เปิดเผยว่า ทิศทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มจอภาพสู่ตลาดในปีนี้ จะมุ่งเน้นในเรื่องของเทคโนโลยีในการรับชม และเลือกใช้วัสดุและการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ในส่วนของจอภาพอย่างพลาสม่า ทีวี ที่ปราศจากสารตะกั่วและสารปรอท
ทั้งนี้ยอมรับว่าการหันมาผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมครั้งนี้ ส่งผลให้บริษัทฯต้องแบกรับต้นทุนสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯจะไม่มีการปรับราคาสินค้าขึ้นแต่อย่างไร ซึ่งยังคงเป็นราคาที่สามารถแข่งขันได้ในตลาด และเป็นราคาที่ปรับลดลงมาจากปีก่อน 35-40% เช่นเดียวกับของตลาดด้วย ทั้งนี้บริษัทฯจะมุ่งเน้นในส่วนของการบริหารจัดการภายในบริษัทฯทดแทน เชื่อว่าจะช่วยลดต้นทุนได้ทางหนึ่ง
สำหรับผลิตภัณฑ์จอภาพที่จะเปิดตัวใหม่ในปีนี้ ได้แก่ แอลซีดี ทีวี 6รุ่น ชูเทคโนโลยีในการรับชมที่ดีต่อสายตา, พลาสม่า ทีวี 6 รุ่น ชูเทคโนโลยีเกี่ยวกับการให้สีดำที่คมชัดมากยิ่งขึ้น และซีอาร์ที ทีวี อีก 8 รุ่น ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี และดีไซน์ที่ใกล้เคียงกับกลุ่มจอแบน ซึ่งสินค้าใหม่เหล่านี้ มีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งหมด
นายฮิโรทากะ กล่าวต่อว่า เนื่องจากตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้เพียง 2 เดือน ตั้งแต่เดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงไตรมาสแรกของการดำเนินธุรกิจของพานาโซนิค พบว่า 3 เดือนที่ผ่านมา ในแง่ยอดขายค่อนข้างน่าพอใจ แม้จะมีปัจจัยลบเข้ามาหลายอย่าง ส่วน 6 เดือนหลังจากนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด มองว่าเป็นเรื่องของราคาน้ำมัน ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างมาก อย่างไรก็ตามพานาโซนิคมั่นใจว่า ทั้งปีจะยังคงรักษายอดขาย 1,500 ล้านบาท และการเติบโต 10% ให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ได้ ซึ่งมาจากเอวี 55%, ซิสเต็ม20% และแบตเตอรี่อีก25%
ล่าสุดในส่วนของสินค้ากลุ่มเอวี บริษัทฯได้ทุ่มงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ "พานาโซนิค เวียร่า มาราธอน เดอะ เวิล์ด ลองเกส ทีวี วอลช์ชิ่ง" หรือการแข่งขันสร้างสถิติการดูทีวีที่ยาวนานที่สุดในโลก ตอกย้ำคุณสมบัติพิเศษของทีวี ที่ดูแล้วสบายตา ระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายน 2551 กับการรับชมการแข่งฟุตบอลนัดพิเศษ จากทีมผู้เล่นหลากหลายของไทย ถ่ายทอดสดผ่านทาง Nation Channel TTV3 จากสนาม S-ONE บางนา-ตราด ชิงรางวัลและผลิตภัณฑ์จากพานาโซนิครวมมูลค่ากว่า 200,000 ล้านบาท
ทั้งนี้มั่นใจว่าจากกลยุทธ์ดังกล่าว และการทำตลาดที่มุ่งเน้นคุณสมบัติพิเศษแตกต่างจากคู่แข่ง จะส่งผลให้พานาโซนิค มียอดขายในกลุ่มจอภาพเติบโตขึ้น 30% หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดของพลาสม่าทีวีเพิ่มเป็น 50% เป็นผู้นำอีกครั้ง จากเดิมปีก่อนมีแชร์อยู่ 39% เป็นผู้นำตลาดเช่นกัน ส่วนแอลซีดี ทีวี เชื่อว่าปีนี้จะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 15% จากเดิมในปีก่อนมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 9%