สหภาพรัฐวิสาหกิจ 43 แห่ง มีมติร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ใช้มาตรการอารยะขัดขืน จนกว่าจะได้รับชัยชนะ พร้อมหยุดงานทันที หากรัฐใช้อำนาจเถื่อนต่อผู้ชุมนุม ยันไม่มีการตัดน้ำ-ตัดไฟ ตามที่สื่อรัฐเสนอ
วันนี้ (17 มิ.ย.) นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) กล่าวในการแถลงข่าวมติที่ประชุมผู้นำ สรส.จำนวน 43 แห่ง โดยระบุว่า ที่ประชุมมีมติเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ พร้อมนัดหยุดงานทันที หากรัฐบาลใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม ซึ่งคาดว่าอาจมีขึ้นได้ตลอดเวลา นับจากนี้
โดยที่ประชุมผู้นำแรงงาน สรส.มีมติเป็นเอกฉันท์ ในวันนี้ และประกาศยืนยันการเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ และจะปฏิบัติการร่วมตามที่พันธมิตรฯ นัดหมายตามยุทธศาสตร์อารยะขัดขืนต่อไป
โดยเช้าวันนี้ ผู้นำสหภาพแรงงานฯ จำนวน 43 แห่ง ได้จัดประชุมเพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการในการเคลื่อนไหวกรณีปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น พร้อมกำหนดท่าทีและรูปแบบที่ชัดเจนในการจะเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
โดยในที่ประชุมวันนี้ มีการทำความเข้าใจถึงปัญหาเศรษฐกิจที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่ เช่น ปัญหาข้าวยากหมากแพง และวิกฤตราคาน้ำมัน รวมถึงการหารือที่จะนำ 20,000 รายชื่อ เข้าเสนอร่างพระราชบัญญัติยกเลิก พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2542 ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ ที่รัฐสภา พร้อมการเคลื่อนไหวใหญ่ร่วมกับเครือข่ายประชาชน ในการเรียกร้องให้รัฐบาลปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำให้สอดคล้องภาวะค่าครองชีพ ในอัตราเท่ากันทั่วประเทศ โดยอยู่ที่ 316 บาท
นอกจากนี้ ยังมีการวางแนวทางเดินสายตั้งเวทีทำความเข้าใจกับภาคประชาชน โดยจะเริ่มที่ จ.นครสวรรค์ ในวันพรุ่งนี้ และในจังหวัดอื่นๆ ต่อไปจนครบทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
นายสาวิทย์ ระบุว่า ความเคลื่อนไหวของ สรส.ก่อนหน้านี้ ได้มีแกนนำสำคัญเข้าร่วมชุมนุมเคลื่อนไหวกับกลุ่มพันธมิตรบ้างแล้ว อาทิ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข พร้อมกล่าวถึงมาตรการอารยะขัดขืน ว่า ยังไม่ถึงขั้นนัดหยุดงาน, ตัดน้ำตัดไฟ อย่างที่เป็นข่าวจากสื่อของฝ่ายรัฐบาล